รีวิวเกม The Order 1886 (PS4) นี่มันคือเกมหรือภาพยนตร์
Our score
6.1

The Order 1886

จุดเด่น

  1. ภาพสวยมาก

จุดสังเกต

  1. เกมเพลย์ซ้ำซาก
  2. เกมสั้นมากๆ
  • กราฟิก

    10.0

  • เกมเพลย์

    5.0

  • ความคุ้มค่า

    4.0

  • ความแปลกใหม่

    5.0

  • รวม

    6.5

รีวิวเกม The Order 1886 (PS4) นี่มันคือเกมหรือภาพยนตร์ที่เล่นได้

วงการเกมนับวันยิ่งพัฒนาเข้าไปทุกที กราฟิกในเกมยิ่งเหมือนคนจริงๆทำให้บางครั้งการเล่นเกม เหมือนกับได้ชมหนังดีๆเรื่องหนึ่งไปด้วยโดยเฉพาะค่าย โซนี่ ที่ยึดมั่นในรูปแบบนี้มานาน

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2

ล่าสุดกับเกม The Order: 1886 บน PS4 เกมเทพที่ทุกคนโดยเฉพาะแฟนบอยคาดหวังว่ามันจะเป็นเกมแห่งปี ซึ่งถ้านับเฉพาะกราฟิกถือว่าทำได้สุดยอดเกินความคาดหมายมาก เพาะทุกอย่างถูกสร้างออกมาได้สมจริงทั้งตัวละครที่มีการลงทุนทำโมชั่นเคปเจอร์ ฉากที่มีความละเอียดรวมทั้ง เอฟเฟค ทั้งแสงสีควันที่เหมือนจริง จนอาจเรียกได้ว่ามันคือเกมที่ภาพสวยที่สุดตอนนี้บน PS4

โดยเนื้อเรื่องในเกมจะเกิดใน คริสต์ศตวรรษที่ 19 แต่จะไม่ดูโบราณเพราะมันเป็นแนว สตรีม พังค์ ที่ตัวเอกใช้อาวุธสุดไฮเทค และต้องต่อสู้กับสิ่งเหนือธรรมชาติเช่น มนุษย์หมาป่า ทำให้มันน่าสนใจไม่ได้เชยตามชื่อเกม เสียดายที่การออกแบบตัวะครกลับดูไร้เสน่ห์ถ้าเป็นหนังก็เป็นได้แค่ตัวประกอบ แต่โดยรวมแล้วทั้งกราฟิกและการนำเสนอถือว่าเป็นแถวหน้าและยกระดับวงการเกมขึ้นไปอีก

The Order 1886แต่เกมเพลย์ถือเป็นสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะมันยังคงเป็นเกมยิงมุมมองบุคคลที่ 3 แบบมองข้ามไหล่เหมือน ที่เราต้องคอยหลบเข้าที่กำบังแนวเดียวกับ Gear Of War หรือ Uncharted แถมความสนุกยังไม่เท่า การออกแบบด่านซ้ำซากไม่มีอะไรแปลกใหม่ แถมยังมีอาวุธให้เลือกใช้ไม่มากและยังไม่สามารถอัพเกรดอะไรได้เลยรวมทั้งความสามารถของตัวละครยิ่งทำให้รูปแบบการเล่ยดูตกยุคมากขึ้นไปอีก และเกมยังใส่ระบบการกดปุ่มเข้าจังหวะแบบ ควิกไทม์อีเว้นเข้ามาแบบถี่เกินไป ซึ่งถ้าเรากดพลาดก็จะตายแล้วไปเริ่มใหม่ที่จุดเซฟซึ่งถ้าใครชอบก็ถือว่ามีให้กดกันสะใจแน่

และที่น่าตกใจมากคือเกมไม่มีโหมดออนไลน์เล่นกับเพื่อนซึ่งถือว่าเชยมากสำหรับเกมในยุคนี้ ที่แย่ที่สุดคือเกมสั้นมากเล่นแค่ 5-6 ชั่วโมงก็จบหมดแล้ว แถมยังไม่มีอะไรให้ปลดล็อกหรือสำรวจเท่าไรด้วย เรียกว่าจบแล้วจบเลย จนอาจจะดูไม่คุ้มค่าราคาแผ่นแท้นัก

The Order 1886 cอย่างไรก็ตามหากมองว่ามันคือ ภาพยนตร์ ที่เราสามารถเล่นได้ 6 ชั่วโมงก็ถือว่ายาวนานพอตัวอยู่ และถ้าใครเป็นแฟนเกมค่ายโซนี่ จะรู้ว่ามันเป็นเรื่องปรกติไปแล้วสำหรับการเน้นหนักไปที่กราฟิกและการดำเนินเนื้อเรื่องมากกว่าเกมเพลย์ ราวกับว่าเป็นการผสานกันของ หนังและเกม ที่คุณสามารถกำหนดเรื่องราวได้เอง

ขอบคุณร้านเกม Nadz Project ดิจิตอล เกตเวย์ ชั้น 2