รีวิวเกม Scott Pilgrim vs The World The Game ใครว่าเกมสร้างจากหนังไม่สนุก
Our score
7.8

จุดเด่น

  1. รูปแบบการเล่นผสมของเก่าได้สนุกลงตัว
  2. กราฟิกแนวย้อนยุคที่ทำออกมาได้โดนใจมาก
  3. ราคาเกมไม่แพง

จุดสังเกต

  1. ไม่ใช่เกมใหม่ ต้นฉบับออกมา 10 ปีแล้ว
  2. เหมาะกับแฟนเกมที่ชอบแนวคลาสสิกเท่านั้น

ปรกติแล้วเกมที่สร้างอิงจากภาพยนตร์หรือการ์ตูน มักจะทำออกมาไม่ค่อยดีนักแต่หากผู้สร้างหาแนวทางที่ถูกที่ควรแล้วก็ทำให้ออกมาสนุกได้ และเกม Scott Pilgrim vs The World ที่อาจจะไม่ใช่เกมออกใหม่แต่ก็หากใครทันเล่นเมื่อ 10 ปีก่อนสมัยออกบน PS3 และ Xbox360 ถือว่ามันคือความสนุกที่ข้ามเวลามาจนมีการเอากลับมาขายใหม่บน PS4 , Nintendo Switch , XBoxone และ PC ในชื่อเกมเต็ม ๆ ว่า Scott Pilgrim vs. the World The Game Complete Edition

โดย Scott Pilgrim vs The World The Game วางขายครั้งแรกในปี 2010 ส่วนการกลับมาขายใหม่เป็นฉบับสมบูรณ์ที่รวมตัว DLC ดาวน์โหลดเสริมครบ ซึ่งในตอนแรกเกมสร้างมาเพื่อร่วมโปรโมตหนังที่กำลังฉาย และการเอากลับมาขายใหม่แบบแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลยถือว่าน่าแปลกใจไม่น้อย เพราะ Scott Pilgrim vs The World ไม่ได้มีกระแสอะไรในตอนนี้มากมาย แต่หากคุณชอบแนวทางคลาสสิกของวิดีโอเกมแล้วถือว่าอยากให้ลองเล่นเพราะผู้เขียนเองก็เคยสัมผัสสมัยออกบน PS3 มาแล้วบอกเลยสนุกกว่าที่คิดไว้มาก

กราฟิกแบบย้อนยุคที่ออกมาดีงาม

เนื่องจาก Scott Pilgrim vs The World The Game คือการนำของเก่ากลับมาขายใหม่ทำให้ภาพในเกมเหมือนกับต้นฉบับทั้งหมดไม่ได้เพิ่มเติมอะไร แต่ของเดิมภาพในเกมก็มาแนวย้อนยุคเป็นเป็นพิกเซลเหมือนกับเกมสมัย 16 Bit แต่จะมีความละเอียดและรายละเอียดรวมทั้งการเคลื่อนไหวของตัวละครที่ลื่นไหลกว่าเกมยุคเก่ามาก เหมือนผู้สร้างตั้งใจทำภาพให้ดูเก่าย้อนยุคแต่กลับดูไม่เชยแม้แต่น้อย

โดยภาพในเกมเหมือนได้ดูการ์ตูน Scott Pilgrim vs The World ไม่ได้อิงมาจากเวอร์ชั่นภาพยนตร์ แต่เรื่องราวของเกมจะคล้ายกับในหนังที่เราจะได้ออกไปต่อสู้กับบรรดาแฟนเก่าของเรา เพื่อแย่งชิงหัวใจของเธอมา โดยรวมภาพในเกมถือว่าดูดีอยู่แม้ว่าจะผ่านมากกว่า 10 ปีแล้ว ส่วนเพลงประกอบในเกมก็เป็นการใส่เสียงแบบคลาสสิกแต่จะเน้นไปแบบผสมผสานความสมัยใหม่ กับดนตรีของเกมยุคก่อนอย่างลงตัวดูไม่เชยถือว่าเป็นอีกแนวทางที่ดีมากเพราะมันสร้างได้เข้ากับภาพในเกมได้ลงตัวแบบไม่มีอะไรให้ติ

รูปแบบการเล่นผสมผสานเกมคลาสสิกเข้าด้วยกัน

หากใครเป็นคอเกมรุ่นเก่ามาตั้งแต่ยุค 80-90 พอได้เห็นเกม Scott Pilgrim vs The World จะรู้ทันทีว่ามันเอาแนวทางของเกมอะไรมาผสมกันบ้าง โดยเกมแรกที่เห็นชัด ๆ คือ “คุนิโอะ” สมัยแฟมิคอม มายำรวมกับเกม Double Dragon ที่เป็นแอ็คชั่น 2D เน้นต่อยตีศัตรูให้หมดฉาก แล้วจะสามารถเดินทางไปต่อได้ที่เรียบง่ายเข้าใจง่าย และนอกจากสองเกมที่บอกไปแล้วผู้สร้างยังใส่สิ่งที่ทำให้ผู้เล่นคิดถึงหลายเกมในอดีตเข้าไปด้วย เช่น Super Mario กับฉากบนแผนที่ที่เหมือนมาริโอสาม หรือ Street Frighter ก็มีการใส่เข้ามาแม้จะไม่ได้มากแต่ก็พอจะเป็นน้ำจิ้มให้เรารู้สึกสนุกไปกับแนวทางย้อนยุค

เกมแบ่งเป็นด่าน ๆ เดินจากซ้ายไปขวาเป็นเส้นตรงแบบเกมสมัยก่อนทั่วไป แต่ก็มีการใส่รายละเอียดของฉากเข้ามามากกว่าเกมเก่าทั่วไปเล็กน้อย เพราะมีทั้งทางลับหรือของที่ซ่อนอยู่ รวมทั้งมีสิ่งของหรืออาวุธตกอยู่และแน่นอนว่าเราสามารถหยิบจับมาใช้งานเพื่อรวมต่อสู้ และในเกมเพิ่มการทำคอมโบต่อเนื่องเพื่อกำจัดศัตรูได้รวดเร็วมากขึ้น ส่วนฉากในเกมแม้จะเหมือนของเดิมที่มีมาหลายปีแล้วแต่ก็มีการใส่อุปสรรคแบบน่ากลัวเข้ามาเช่นมีรถพุ่งมาชนตัวเอกได้แต่หากหลบหลีกได้ มันจะสามารถอัดศัตรูเป็นหมู่คณะได้ด้วยเช่นกัน เช่นเดียวกับเหวหรือหลุมกับดักในเกมที่เราสามารถใช้มันกำจัดศัตรูจำนวนมากได้ง่ายดายเช่นเดียวกัน

ไม่ได้มีแค่ต่อยตีต้องพัฒนาตัวละครด้วย

และข้อดีที่ทำให้เราอยู่กับเกมได้นานคือมีระบบพัฒนาตัวละคร มีเลเวลที่เพิ่มท่าไม้ตายใหม่ ๆ เข้ามาให้เราต่อสู้กับศัตรูได้ และมันจำเป็นต้องฟาร์มเลเวลด้วยเพราะตัวเกมยากพอตัวเลยศัตรูธรรมดาก็รุมอัดเราตายได้ นอกจากนี้ยังมีร้านค้าให้เราซื้อหาอาหารเพื่อเติมค่า HP และยังมีร้านหนังสือไอเทมต่าง ๆ ได้แถมมีบอสสุดโหดที่มีท่าไม้ตายระดับเทพแบบโอเวอร์เหมือนในภาพยนตร์และการ์ตูน

โดยรวมทำให้เกมมีอะไรให้เราประหลาดใจมากกว่าเกมต่อยตีทั่ว ๆ ไปแน่ยิ่งคุณไม่เคยเล่นต้นฉบับมาก่อนบอกเลยว่ามีบอสหลายตัวมาในรูปแบบไม่น่าเชื่อ และสนุกมากกว่าเกมย้อนยุคทั่วไป ส่วนตามชื่อที่ลงท้ายว่า Complete Edition คือการรวม DLC พิเศษเข้ามาที่มีตัวละครใหม่มาให้เราเลือกเล่นกันครบ ๆ แบบไม่ต้องเสียเงินโหลดเพิ่มด้วย และแน่นอนว่าเราสามารถเล่นกับเพื่อนพร้อมกันได้ 4 คนด้วยที่เพิ่มความสนุกตามรูปแบบที่เมื่อหาเพื่อน ๆ มาล้อมวงมาเล่นจะสนุกขึ้นหลายเท่า

เกม Scott Pilgrim vs The World The Game ถือว่าทำได้ดีงามตามต้นฉบับที่วางขายมา 10 ปีแล้วไม่ใช่เกมใหม่ทำให้หากคุณมีต้นฉบับอยู่แล้วถือว่าไม่ต้องเสียเงินซื้อก็ได้ เพราะมันคือเกมเดิมแต่หากคุณไม่เคยเล่นมาก่อนถือเป็นโอกาสอันดีที่ไม่ควรพลาดสำหรับเกมที่นำเอาแนวทางคลาสสิกมายำรวมกับเรื่องราวที่สนุกน่าติดตาม และเพิ่มเติมความสนุกโอเวอร์ของภาพยนตร์รวมทั้งการ์ตูนได้ลงตัว ไม่ควรพลาดกับเกมที่วางขายในช่วงเดือนมกราคมที่ไม่ค่อยมีเกมดัง ๆ วางขาย แถมเกมมีราคาไม่แพงราคาขายประมาณ 450 บาทเท่านั้นทำให้มันคุ้มค่าเงินทุกบาทแน่นอน

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส