[รีวิวเกม] Microsoft Flight Simulator (ฉบับอัปเดตปี 2021)
Our score
9.5

จุดเด่น

  1. ภาพสวยสะท้านโลกจนแทบแยกไม่ออกจากภาพถ่าย
  2. ฟีเจอร์ Open-World สุดล้ำที่ให้บินชมวิวจากมุมไหนก็ได้บนโลก
  3. เครื่องบินขับสนุกสุดสมจริง
  4. ตลาดของซื้อของขายชาว Mod ที่มีแต่จะทำให้เกมยิ่งสมจริงและต่ออายุให้เล่นได้ไปอีกนาน

จุดสังเกต

  1. เกมหนักเครื่องและยังมีปัญหาทางเทคนิคกระจุกกระจิก
  2. น่าจะมีโหมดสอนบินที่ละเอียดกว่านี้หน่อย

เวลาที่มีเครื่องเกมคอนโซลออกใหม่หรือมีเทคโนโลยีสุดล้ำตัวล่าสุดเปิดตัวในวงการการ์ดจอ เกมเมอร์อย่างเราก็มักจะมองหาเกมที่สามารถรีดเค้นศักยภาพฮาร์ดแวร์ของใหม่ถอดด้ามออกมาให้ได้เต็มแม็กซ์ที่สุด ใช้หน่วยความจำทุกเม็ด แผงวงจรทุกแผง ไฟทุกวัตต์แบบทุ่มสุดตัวให้พัดลมระบายความร้อนได้หมุนกันอย่างบ้าคลั่ง น่าเสียดายที่เกมที่จะทำได้ในระดับนี้มักจะมาในยุคท้าย ๆ เจเนอเรชันโน่น เพราะส่วนมากเกมที่ออกมาตอนแรก ๆ ก็จะมีแต่เกมข้ามเจ็นที่อัปเกรดงานภาพนิดหน่อย กะว่าให้สวยกว่าพอกล้อมแกล้ม มีโหลดเร็วกว่าเดิมบ้างเล็กน้อย หรือเฟรมเรตสูงกว่าเดิมนิดหน่อยก็พอ

  • ทีมพัฒนา: Asobo Studio
  • แพลตฟอร์ม: PC, Xbox Series S/X

แต่เทรนด์ที่ว่ามาข้างต้นกลับตาลปัตรไปหมดกับเกม Microsoft Flight Simulator เกมที่บินแรงทะลุเพดานสเปก PC ตั้งแต่แว่บแรกที่วางตลาดในปี 2020 เกมที่ปฏิวัติทั้งในแง่งานภาพและเกมดีไซน์จนบินนำเกมอื่นแบบไม่เห็นฝุ่น ซึ่งล่าสุดก็เพิ่งได้พอร์ตลงเครื่องเกมคอนโซล Xbox Series S และ X เป็นครั้งแรกเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งหลังจากได้สัมผัสประสบการณ์การบินในเกมนี้มาหลายสิบชั่วโมงก็ต้องขอบอกว่านี่แหละคือเกมที่สามารถเรียกตัวเองได้ว่าเป็นเกมเน็กซ์เจ็นที่แท้จริง ที่น่าทึ่งกว่านั้นคือเกมยังเจ๋งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดยั้งกับของใหม่เด็ด ๆ ที่เติมเข้ามาอย่างต่อเนื่องในปี 2021 ทำให้มันผันตัวเป็นเกมจำลองการขับเครื่องบินที่สมจริง น่าทึ่ง และยกระดับเพดานบินของวงการเกมให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งจะเจ๋งขนาดไหนนั้น เรามาเจาะรายละเอียดเครื่องบินลำนี้ไปพร้อมกันได้เลย

งานภาพพื้นพิภพที่สวยเกินคำบรรยาย

จุดเด่นของ Microsoft Flight Simulator ที่กระแทกตาทันทีที่คุณนำเครื่องขึ้นบินก็คือ งานภาพในเกมที่สวยมาก ๆ ๆ ชนิดที่ใส่ไม้ยมกไปอีกพันตัวก็ยังไม่พอ ความสวยงามของภาพกราฟิกในเกมนี้จะมาในสไตล์สวยสมจริงราวกับภาพถ่าย เหมาะกับการใช้บินดูวิวในเกมนี้เป็นอย่างดี และถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้ผู้เล่นบินเพลินจนลืมกินข้าวกินปลา 

โดยทีมพัฒนาเขาได้ออกแบบกราฟิกเอนจินของ Microsoft Flight Simulator ภาคใหม่ให้แสดงผลภาพออกมาอย่างละเอียดยิบ ไม่ว่าจะเป็นตึกรามบ้านช่องในเมืองใหญ่ที่แต่ละอาคารมีรูปทรงที่แตกต่างกันไป วิวทิวทัศน์ของแนวเขาทอดยาวสุดลูกหูลูกตาหรือหาดทรายโค้งริมทะเลก็ดูเป็นธรรมชาติ แม้แต่ก้อนเมฆก็ดูมีมิติและเปลี่ยนสภาพไปมาได้อย่างมีพลวัตรจนแทบไม่ต่างจากของจริงบนฟ้า ส่วนแสงแดดก็ยังมีเฉดสีแตกต่างกันไปในแต่ละที่ ขึ้นอยู่กับฤดูกาล สภาพอากาศ และเวลาที่คุณนำเครื่องขึ้นเวหา

ใครจะไปเชื่อว่างานภาพระดับศิลปะเหล่านี้เกิดจากการทำงานผสานกันระหว่างเทคโนโลยีคลาวด์ Microsoft Azure และปัญญาประดิษฐ์ (AI)​ ที่รังสรรค์ข้อมูลภาพถ่ายแผนที่โลกจากดาวเทียม วาดให้เห็นเป็นโมเดล 3 มิติในเกม โดยทีมพัฒนาแค่คอยวาดมือเติมสิ่งก่อสร้างและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังให้อีกนิด ๆ หน่อย ๆ ทั่วโลก เพื่อให้วิวดูสวยสมจริงขึ้นไปอีก กราฟิกเอนจินสุดล้ำและระบบสร้างโลกที่ว่ามาทำให้นี่เป็นหนึ่งในเกมที่เหมาะกับการใช้เล่นผ่อนคลาย (และเที่ยวทิพย์)​ เป็นที่สุด เพราะไม่มีอะไรจะให้อารมณ์สุนทรีย์ได้มากกว่าการได้ชมวิวธรรมชาติสวย ๆ บนโลกจากมุมมอง Bird Eye view ที่สูงจากระดับน้ำทะเลเป็นพันฟุตอีกแล้ว

ขับเครื่องบินขับสนุกสุดสมจริง ออกชมวิวที่ไหนก็ได้บนโลก

ฟีเจอร์โดดเด่นอีกอย่างของ Microsoft Flight Simulator ที่เด็ดไม่แพ้ภาพกราฟิกก็คือการที่เกมเปิดให้คุณบินชมวิวสวย ๆ ของมุมไหนก็ได้บนโลกพร้อมกับสภาพภูมิอากาศที่เป็นไปตามสภาพจริงในเวลานั้น ๆ จุดนี้เป็นอะไรที่ล้ำหน้ามากในวงการเกม เพราะถึงแม้เกมอย่าง No Man Sky จะสามารถสุ่มสร้างจักรวาลขึ้นมาได้ทั้งจักรวาลแบบสุ่ม แต่เกมนี้สามารถสร้างโลกของเราแบบ Open-World ละเอียดยิบเหมือนจริงออกมาได้เกือบทั้งโลก ด้วยแผนที่ขนาดเท่าโลก 510 ล้านตารางกิโลเมตร เต็มไปด้วยภูเขาลำเนาไพร แหล่งที่อยู่อาศัยของผู้คนในประเทศต่าง ๆ และแลนด์มาร์กสำคัญทั่วโลกที่ดูคล้ายของจริงมาก แม้จะยังมีบางจุดบนโลกที่ดูไม่ค่อยเหมือนหรือขาดรายละเอียดไปหน่อย แต่ก็ใช่ว่าผู้เล่นจะมีโอกาสบินไปเจอได้บ่อยขนาดนั้น 

นอกจากนี้การผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีแผนที่ ข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยา เทคโนโลยีคลาวด์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI)​ ก็ช่วยให้แสงอาทิตย์ในมุมต่าง ๆ ของโลกแตกต่างกันไปอย่างที่ควรจะเป็น รูปทรงของเมฆ แรงลม และสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่ก็แทบไม่ซ้ำกันเลย องค์ประกอบเหล่านี้มันเนียนถึงขั้นที่อาจทำให้คุณลืมตัวไปแป๊บหนึ่งเลยว่ากำลังบินไปเที่ยวตรงนั้นจริง ๆ ถึงแม้ตัวจะยังนั่งอยู่หน้าจอทีวีก็ตาม

ส่วนระบบบังคับเครื่องบินในเกมนี้แม้จะไม่ได้สมจริงระดับ 100% เท่าโปรแกรม Flight Simulator จริงจังที่เอาไว้ฝึกนักบิน แต่แค่นี้ก็สามารถบินเล่นได้สนุกแล้ว ทั้งยังปรับระดับความละเอียดในการบินได้หลากหลาย แล้วแต่ว่าคุณเป็นนักบินแนวกินลมชมวิว หรือเป็นสายเน้นประสบการณ์การบินที่สมจริงเหนือสิ่งอื่นใด อีกทั้งตัวเกมยังรองรับการเล่นกับจอยแพด Xbox เมาส์และคีย์บอร์ด หรือจอยสติ๊กบังคับเครื่องบินพร้อมกับคันโยกเต็มรูปแบบก็ยังไหว ซึ่งเกมเวอร์ชันพื้นฐานจะมีเครื่องบินมาให้ขับได้ทั้งหมด 20 รุ่น ครอบคลุมหมดทั้งเครื่องบินใบพัดเดี่ยว เครื่องบินใบพัดคู่ เครื่องเจ็ต และเครื่องบินโดยสารระดับโบอิ้ง และหากผู้เล่นรู้สึกไม่จุใจก็ยังสามารถซื้อเครื่องบินรุ่นอื่น ๆ มาเติมได้ด้วย 

อีกจุดที่น่าสนใจก็คือเครื่องบินแต่ละลำได้รับการออกแบบมาอย่างละเอียดมาก ทั้งในแง่ของโมเดลเครื่องบิน สมรรถนะการบิน และระบบฟิสิกส์จากระบบอากาศพลศาสตร์ ส่งผลให้เครื่องบินแต่ละลำมอบประสบการณ์การบินที่แตกต่างกันพอสมควร และหากคุณต้องการขับเครื่องบินเหล่านี้ให้โปรทุกลำ คุณก็สามารถใช้เวลาไปกับการบินในเกมนี้แตะหลัก 100 ชั่วโมงได้สบาย เฉกเช่นนักบินเก่ง ๆ ในชีวิตจริงที่สามารถหาช่องทางพัฒนาทักษะการบินของตัวเองให้ราบรื่นได้ทั้งชีวิต โดยคุณยังสามารถไปดาวน์โหลดคู่มือการบินของจริงมาใช้ในเกมนี้ได้เลย ละเอียดแค่ไหนคิดดูละกัน

อัปเกรดเครื่องยนต์ไม่หยุดยั้งยันปี 2021

ฟีเจอร์ที่โดดเด่นมาก ๆ อีกเรื่องหนึ่งของ Microsoft Flight Simulator ซึ่งเกมอื่นทุกเกมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างก็คือเรื่องที่ทีมพัฒนาเขาทยอยปล่อยของออกมาไม่หยุด แม้เกมจะออกวางตลาดมาปีกว่าแล้วก็ตาม ที่สำคัญคือเกมนี้ไม่ได้เน้นโหมดมัลติเพลเยอร์หรือเป็นเกมแนว Live Service ด้วยซ้ำไป จุดแรกคือทีมพัฒนาออกแพตช์ปรับปรุงเกมนี้มาอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ตอนนี้เกม Microsoft Flight Simulator เสถียรกว่าตอนที่เกมเพิ่งวางตลาดแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โดยเฉพาะแพตช์เกมเวอร์ชัน PC ที่ออกมาหลังจากที่เกมลงเครื่อง Xbox เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ การพอร์ตลงเครื่องคอนโซลครั้งแรก ทั้งบน Xbox Series S และ X ก็ทำได้ดีเกินคาด จากเดิมที่มีแต่คนปรามาสว่าเกมนี้ต้องทำเครื่อง Xbox ละลายเป็นน้ำแหง ๆ แต่มันก็สามารถส่งมอบเฟรมเรต 30 fps พร้อมกับภาพคม ๆ ที่ไม่ค่อยต่างจากเวอร์ชัน PC อย่างไม่มีสะดุด และในอนาคตทีมพัฒนายังมีแผนจะให้เกมเมอร์บนเครื่อง Xbox One สามารถเล่นเกมนี้ผ่านระบบการสตรีมเกมผ่านคลาวด์ได้อีกต่างหาก รวมถึงยังมีข่าวลือว่าเกมอาจจะเพิ่มเอฟเฟกต์อย่าง Ray Tracing เข้ามาด้วย

นอกจากการปรับปรุงด้านเทคนิค เกมยังมีคอนเทนท์ใหม่ทั้งฟรีและไม่ฟรีเพิ่มเข้ามาเรื่อย ๆ โดยเฉพาะของใหม่แพ็กใหญ่ในชื่อว่า “World Update” ซึ่งอันที่จริงฉากโลกทั้งใบที่ได้รับการสร้างด้วยอัลกอริทึมก็สวยงามน่าดูชมแล้ว แต่ทีมพัฒนาเขาก็ยังออก World Update เหล่านี้เข้ามาเพิ่มความสวยงามและสมจริงให้กับเมืองท่องเที่ยวสวย ๆ บนโลกให้ดูดียิ่งขึ้น ด้วยการวาดมือสิ่งก่อสร้างหรือวิวที่เป็นจุดแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองนั้น ๆ ลงไปเลย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างฝีมือมนุษย์อย่างหอไอเฟล สะพานโกลเดนเกต โตเกียวทาวเวอร์ ฯลฯ หรือแม้แต่ภูมิทัศน์ทางธรรมชาติสวย ๆ อย่างภูเขาไฟฟูจิ ยอดเขาเอเวอเรส ลวดลายชายหาดน้ำตื้นของทะเลแถบแคริบเบียน ล่าสุดทีมพัฒนาก็เพิ่งเติมวิวในเยอรมนีและสวิตเซอร์แลนด์อย่างยอดเขาทอปเบอโรน (แมทเทอร์ฮอร์น) เข้ามาหมาด ๆ โดยตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ทีมพัฒนาได้ปล่อย World Update มาให้โหลดเติมกันฟรีได้ถึง 6 แพ็กด้วยกัน ครอบคลุมวิวตั้งแต่ในทวีปอเมริกา ทวีปยุโรป ยันทวีปเอเชียอย่างญี่ปุ่น 

นอกจากวิวใหม่ ทีมพัฒนาก็ยังขยันออกเครื่องบินใหม่มาให้ซื้อเพิ่มกันอีกหลายลำ ซึ่งก็มีทั้งเครื่องใบพัดที่เราคุ้นตาอย่าง Aviat Huskey A-1C เครื่องบินเจ็ตขับไล่ F-15 ชื่อดัง และช่วงปลายปีก็จะมีเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ air taxi อย่าง Volocopter VoloCity ตอบโจทย์เกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การบินที่แปลกใหม่ไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ ทีมพัฒนายังออกเครื่องบินรุ่นย่อยจากของที่มีอยู่แล้วมาเพิ่มด้วยการเปลี่ยนล้อสำหรับลงจอดให้เป็นแบบจอดบนผิวน้ำหรือบนหิมะให้โหลดกันได้ฟรี รวมถึงยังเพิ่มโหมดมัลติเพลเยอร์แบบบินแข่งกันมาให้อีกต่างหาก

อีกจุดที่ต้องพูดถึงก็คือ Microsoft Flight Simulator ถือเป็นสวรรค์สำหรับคอเกมที่ชอบลง Mod เลยทีเดียว เนื่องจากทีมพัฒนาเขาเปิดตลาดซื้อขายของในเกมให้แก่เหล่าเกมเมอร์ใน Community และทีมทำคอนเทนต์อิสระอย่างเต็มที่ และบรรดาแฟนเกมซีรีส์นี้ก็คึกคักกันมาก แห่กันทำคอนเทนท์ใหม่ออกมาขายปนแจกฟรีแบบไม่หยุดหย่อน (ซึ่งทีมพัฒนาก็ให้ความร่วมมือกับ Modder เหล่านี้เป็นอย่างดี)​ จุดนี้ยิ่งทำให้ MFS มีของเล่นใหม่ออกมาสารพัดชนิด เช่น เครื่องบินสงครามโลก P51 Mustang, ยาน X-Wing โมเดลสนามบินในเมืองใหญ่แบบละเอียดยิบ คอนเทนท์จำลองการจราจรของบุคลากรในรันเวย์ แม้แต่โมเดลต้นไม้หรือ Mod จำลองการเปลี่ยนสีของใบไม้ตามฤดูก็ยังมี และคงจะยังเป็นแบบนี้ไปอีกหลายปี เรียกว่า Microsoft Flight Simulator ได้ผันตัวจากเกมจนกลายเป็นแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์สาย Simulator อย่างเต็มตัวไปแล้ว

จุดบกพร่องเล็กน้อยบนตัวเครื่อง

ดั่งสัจธรรมที่ว่าไม่มีเกมไหนในโลกที่เพอร์เฟกต์ 100% เกม Microsoft Flight Simulator ก็ยังมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เห็นอยู่บ้างไม่ จุดแรกก็คือความหนักเครื่องและหนักอินเทอร์เน็ตบ้านนี่แหละ เนื่องจากเกมใช้เวลาโหลดเข้าเกมนานมากแถมยังกินพื้นที่ในฮาร์ดดิสก์โหดระดับเกิน 100 GB ซ้ำร้ายเกมยังต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงพอสมควรในการสตรีมข้อมูลแผนที่ระหว่างเล่น ดังนั้นถ้าหากคุณใช้ฮาร์ดดิสก์ SATA แบบดั้งเดิม ไม่ใช่ SSD คู่กับเน็ตบ้านที่ความเร็วไม่สูงระดับ 50-100 Mbps ขึ้นไป ก็เตรียมไปทำกับข้าว ชงกาแฟ หรืออาบน้ำระหว่างรอเข้าเกมได้เลย เพราะกว่าคุณจะได้ขึ้นบินในเกมนี่อาจต้องรอนานพอ ๆ กับตอนรอเช็คอินขึ้นเครื่องบินจริง ๆ และการที่เกมยังคงกินสเปกเครื่อง PC ค่อนข้างโหดแม้จะผ่านมาหลายแพตช์ก็ไม่ได้ช่วยให้ปัญหาข้อนี้ดีขึ้นสักเท่าไหร่

จุดสังเกตเรื่องที่ 2 ก็คือระบบฝึกบินที่มีให้ใน Microsoft Flight Simulator ถือว่าดีใช้ได้ แต่ก็ควรมีระบบฝึกสอนการขับเครื่องบินรุ่นใหญ่ รวมถึงหน้าต่างอธิบายการทำงานของปุ่มต่าง ๆ บนหน้าปัดเครื่องบินให้มากกว่านี้อยู่ดี อย่างน้อยช่วยอธิบายข้อมูลการบินที่ควรรู้ให้เข้าใจง่ายกว่านี้หน่อยก็ได้ เพราะมันจะช่วยให้เกมเมอร์หน้าใหม่สามารถบินผ่านเพดานบินในเกมนี้ได้สะดวกกว่าเดิมมาก ๆ ซึ่งประเด็นนี้ก็ต่อยอดมาถึงเรื่องการบังคับเครื่องบินในเกมที่ต้องใช้ปุ่มเยอะมาก จำให้การเล่นกับจอยเกมอย่างเดียวอาจไม่ค่อยราบรื่น อย่างน้อยคุณควรจะมีคีย์บอร์ดกับเมาส์เสียบไว้คู่กับจอยหรือจอยบังคับเครื่องบินด้วย โดยเฉพาะหากคุณต้องการปรับความละเอียดในการบังคับเครื่องบินให้ค่อนข้างสมจริงกว่าแค่การบินเล่นชมวิว

อีกจุดสังเกตเล็ก ๆ ก็คือยังมีสถานที่อีกหลายแห่งบนโลกใน Microsoft Flight Simulator ที่รายละเอียดภาพภูมิทัศน์ค่อนข้างต่ำมาก อาจจะทำให้วิวตรงนั้นดูไม่ค่อยสวยสะใจหรือไม่ละม้ายคล้ายของจริงเท่าไหร่ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ค่อยมีแลนด์มาร์กที่ทีมพัฒนาเขาวาดมือเติมมาให้เยอะ ๆ (เช่น ไทยหรือแถบทะเลทรายทั้งหลาย)​ แน่นอนว่าเวลาคุณบังเอิญบินไปเจอมุมเหล่านี้ก็คงจะเสียอารมณ์บ้างนิดหน่อย แต่ก็ไปโทษทีมพัฒนาเขาไม่ได้หรอก ก็แผนที่ Open-World ในเกมนี้มันใหญ่เท่าโลกนี่หว่า อีกอย่างปัญหาพวกนี้น่าจะดีขึ้นได้ตามกาลเวลา

อากาศยานสุดล้ำที่บินนำวงการเกมสู่ยุคใหม่

Microsoft Flight Simulator อาจไม่ใช่เกมที่เพอร์เฟกต์และอาจไม่ถูกใจเกมเมอร์ผู้มองหาความท้าทายจากเกมเพลย์หรือโหมดเนื้อเรื่องเข้มข้น แต่ข้อเสียทั้งหมดในเกมนี้ก็ถือว่าเล็กน้อยจุ๋มจิ๋มมาก หากนำไปเทียบกับข้อดีทั้งหลายที่เกมทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะเรื่ององค์ประกอบด้านงานภาพและฟีเจอร์สุดไฮเทคที่ถือว่ายืนหนึ่งในวงการไปแล้ว 

หากจะว่ากันให้เห็นภาพง่าย ๆ ระดับความล้ำหน้าทางเทคนิคที่เกม CRYSIS ออกมาประกาศศักดาในปี 2007 กลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลยเมื่อเทียบกับสิ่งที่ Microsoft Flight Simulator ได้มอบให้แก่วงการในปี 2020 เกมนี้เป็นมากกว่าแค่เกมภาพสวย มันคือวิวัฒนาการที่เกิดจากการผสมผสานสารพัดเทคโนโลยีทั้งจากในและนอกวงการเกมเข้าด้วยกัน และมันสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่จะทำให้แม้แต่เกมเมอร์รุ่นเก๋าและฮาร์ดคอที่สุดก็ยังอดทึ่งไม่ได้ คุณไม่ควรเล่นเกมนี้เพราะแค่อยากเล่นเกมขับเครื่องบินนะครับ คุณควรเล่นเกมนี้เพื่อที่จะแง้มดูว่าอนาคตสุดล้ำของวงการเกมต่อจากนี้จะไต่ระดับไปได้ถึงไหนต่างหาก… ซึ่งถ้าเกมนี้เป็นแค่ความสูงระดับเทคออฟ ต่อจากนี้คงจะไต่สูงถึงชั้นสตราโตสเฟียร์แน่นอนครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส