รีวิวเกม Megaton Musashi หุ่นยนต์กู้โลกฉบับอนิเมะจากค่าย Level 5
Our score
7.0

Megaton Musashi

จุดเด่น

  1. งานออกแบบดูดีเหมือนได้ดูการ์ตูนพร้อมเล่นเกม
  2. รูปแบบการเล่นเข้าใจง่ายแม้จะเป็นภาษาญี่ปุ่น

จุดสังเกต

  1. กราฟิกในเกมธรรมดาบน Switch เฟรมเรตตก
  2. เกมเพลย์ดูเชยไปหน่อย

เมื่อพูดถึงหนึ่งในค่ายเกมแถวหน้าของญี่ปุ่น ต้องมีชื่อ Level 5 อยู่ด้วยเพราะหลังจากสร้างชื่อกับการร่วมสร้าง Dragon Quest 8 แล้วก็มีผลงานของตัวเองที่โด่งดังมากมายไม่ว่าจะเป็น Inazuma Eleven หรือ Yo-kai Watch รวมทั้งเคยจับมือกับค่าย จิบลิทำเกม Ninokuni ด้วย แม้ว่าพักหลังจะดูเงียบ ๆ ไปหน่อยแต่ก็ยังมีผลงานออกมาอย่างต่อเนื่อง

และล่าสุดมีการเปิดตัว Megaton Musashi เกมแนวหุ่นยนต์ยักษ์ออกวางขายบนคอนโซลทั้ง PS4 , Nintendo Switch ในโซนญี่ปุ่นก่อน ซึ่งเป็นผลงานของทีมงานสร้าง Inazuma Eleven หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ “นักเตะแข้งสายฟ้า” ซึ่งนอกจากจะวางขายในรูปแบบเกมแล้วค่าย Level 5 ยังสร้างการ์ตูนฉายทางทีวีในประเทศญี่ปุ่นด้วย ถือว่าเป็นแนวทางเดียวกับเกม Inazuma Eleven และ Yo-kai Watch แต่ในไทยยังไม่มีใครซื้อเข้ามาให้ชมกันในตอนนี้

เรื่องราวเมื่อโลกอนาคตถูกทำลายล้าง

ส่วนเนื้อเรื่องใน Megaton Musashi จะเกิดในโลกอนาคต ที่มนุษยชาติ 90% ถูกกวาดล้างจากการรุกรานของพวกต่างดาว และมนุษย์ที่ยังคงมีชีวิตรอดจากการทำลายล้างจะถูกล้างสมองลบความทรงจำให้ลืมเหตุการณ์การบุกรุก และต้องอยู่ในศูนย์พักพิงที่จำลองเป็นโลกก่อนถูกทำลาย และผู้คนที่เหลือไม่รู้ว่าโลกภายนอกเกิดอะไรขึ้น แต่แล้ววัยรุ่น 3 คนได้ถูกเลือกมาเพื่อเป็นผู้บังคับหุ่นยนต์ยักษ์ Musashi ที่สร้างจากโลหะผสม Megatronium ออกต่อสู้กับพวกต่างดาวเพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ

กราฟิกมาแนวผสมผสาน 2D กับ 3D

ภาพใน Megaton Musashi จะมาแปลกหน่อยคือจะแบ่งภาคกันชัดเจน โดยในฉากต่อสู้จะมาในรูปแบบ 3 มิติที่ใช้กราฟิกแบบเกมยุคใหม่ที่แม้จะไม่ได้มีความละเอียดอะไรมากมายแต่ก็พอรับได้ แต่หากคุณเล่นบน Nintendo Switch ในส่วนนี้จะพบว่าเฟรมเรตตกกระจายโดยเฉพาะตอนที่ศัตรูออกมาจำนวนมาก ถือว่าน่าผิดหวังสำหรับเกมที่ออกวางขายปลายปี 2021 และอีกส่วนคือฉากทำเนื้อเรื่องในเมืองที่จะมาในแบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างที่ตัวละครจะแบนเรียบไร้มิติ แต่ก็ถือว่าลื่นไหลและดูดีถือว่าเป็นการผสมผสานกราฟิก 2 แบบได้ลงตัว

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนทำกราฟิกคัทซีนงาม ๆ ที่เป็นฉากต่อสู้หรือตอนแปลงร่างของหุ่นยักษ์ และมีฉากเล่าเรื่องที่ยกมาจากการ์ตูนที่ฉายทางทีวีหลายฉาก ทำให้เหมือนเราได้ดูอนิเมะดี ๆ ไปพร้อมกับการเล่นเกม นอกจากนี้ในส่วนของเพลงประกอบก็ต้องถือว่าเป็นของดี เพราะมีการลงทุนแบบจัดเต็มทั้งเพลงประกอบ , เสียงพากย์ที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งเพลงธีมสนุก ๆ เวลาเราต่อสู้กับศัตรู หรือเข้าฉากดราม่าก็มีซีนที่เรียกน้ำตาได้ หากคุณฟังภาษาญี่ปุ่นออก

เกมเพลย์แอ็กชันหุ่นยักษ์ที่ดูเชยไปหน่อย

รูปแบบการเล่นในส่วนของแอ็กชันจะไม่มีอะไรซับซ้อนเข้าใจง่าย โดยจะเป็นแอ็กชัน 3 มิติมุมมองบุคคลที่ 3 ที่เราจะได้บังคับหุ่นยนต์ยักษ์ที่จะมีฉากรวมร่างที่เหมือนถอดแบบมาจากการ์ตูนที่เราดูตอนเด็ก และจะถูกส่งไปยังโลกนอกที่กักกันเพื่อต่อสู้กับเอเลียน ที่มาในรูปแบบที่หลากหลายทั้งแบบหุ่นธรรมดา และมีทั้งยานที่บินได้ รวมทั้งบอสขนาดยักษ์ และฉากก็ไม่มีความซับซ้อนอะไรเลยเพราะแค่เดินกำจัดศัตรูหรือทำภารกิจเล็กน้อยเท่านั้น และมีการบอกว่าต้องไปที่ไหนตลอดทำให้ขาดความซับซ้อนและดูเชยไปหน่อย อีกทั้งยังประสบปัญหามุมกล้องที่ดูสับสนไปหน่อย ทำให้หลายครั้งเราอาจจะโดนโจมตีแบบไม่รู้ตัวจากศัตรูที่อยู่ในมุมอับ

ส่วนตัวละครหุ่นยนต์ของเราจะมาพร้อมกับอาวุธหลายชนิด โดยมีทั้งอาวุธโจมตีระยะใกล้อย่างดาบที่สามารถใส่ได้ 3 ชนิดและสลับเปลี่ยนออกมาได้ และยังมาหลากหลายรูปแบบทั้งดาบเลเซอร์หรือกระบองกับโล่ที่สามารถป้องกันการโจมตีได้ด้วย และยังมีอาวุธยิงไกลอย่างปืนที่มาให้ใช้งานหลายแบบเช่นกัน ทั้งปืนกลที่เน้นยิงรัวแต่ไม่แม่นยำ หรือปืนลูกซองที่โจมตีระยะใกล้และยังมีปืนกระสุนกระจายที่ช่วยผู้เล่นเวลาเจอศัตรูหลายตัวพร้อมกันได้ และยังพกพาได้หลายกระบอก รวมทั้งยังเปลี่ยนได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ยังมีระบบท่าไม้ตายที่ต้องกดปุ่มหลายปุ่มพร้อมกันเพื่อใช้งาน เช่นการปล่อยพลังโดยใช้ดาบเพื่อโจมตีศัตรูแต่จะใช้ได้จำกัดหากใช้ไปแล้วต้องเก็บค่าพลังให้เต็มอีกรอบถึงจะใช้ได้อีกครั้ง และยังมีบางท่าไม้ตายที่จะทำให้เกมเปลี่ยนมุมกล้องเป็นแบบบุคคลที่ 1 แล้วใช้ปืนพลังแรงสูงเล็งยิงศัตรู และท่าไม้ตายยังมีจำนวนมากมายที่ผู้เล่นจะสามารถปรับแต่งได้ละเอียด และกำหนดได้ว่าจะใช้ปุ่มไหนเพื่อกดมันออกมาใช้งานได้ด้วย ที่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นระบบที่เข้าใจง่าย แต่โดยรวมมันดูเชยไปหน่อยสำหรับมาตรฐานเกมในยุคนี้

ปรับแต่งหุ่นได้ละเอียดมาก

อีกส่วนที่เป็นจุดเด่นของ Megaton Musashi และทำให้เราอยู่กับเกมได้ยาวนานมากคือ ระบบปรับแต่งตัวละครที่จัดเต็ม เพราะเราสามารถเปลี่ยนชิ้นส่วนได้ทั้งตัวหุ่นยักษ์ ไม่ว่าจะเป็นแขนขา หรือลำตัว รวมทั้งยังปรับเปลี่ยนสีหรือแต่งลวดลายได้ตามใจด้วย และแน่นอนว่ามันคือการอัปเกรดค่าพลังของตัวละคร ที่สามารถลงรายละเอียดได้มากเพราะผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะให้แขนซ้ายโดดเด่นด้านไหนแตกต่างจากแขนขวา และยังมีการลงลึกถึงการปรับแต่งเมนบอร์ดที่เป็นสมองกลของหุ่นยนต์ที่จะเพิ่มค่าหรือทำให้เราใช้ท่าไม้ตายได้มากกว่าเดิม เรียกว่าจุดนี้ทำให้เราต้องนั่งปรับแต่งกันยาวนานจนบางครั้งอาจจะยาวกว่าเกมเพลย์หลักด้วยซ้ำ

อีกส่วนที่น่าสนใจคือการดำเนินเรื่องราวในเมืองกักกัน ที่ดูเหมือนผู้สร้างจะเข้าใจความใจร้อนของคอเกมรุ่นใหม่ เพราะฉากในเกมจะไม่ซับซ้อนเป็นแบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างที่เข้าใจง่าย และมีการบอกว่าต้องไปทำเนื้อเนื่องที่ไหนตลอดทำให้ไม่มีการหลงทาง และหลายส่วนผู้เล่นสามารถเลือกจุดที่ต้องการแล้ววอร์ปไปได้เลย ถือว่าช่วยอำนวยความสำดวกและทำให้เราไม่ต้องเสียเวลาเดินไปทำเนื้อเรื่องได้ด้วย เรียกว่าใครเบื่อเกมแนว RPG ที่ต้องเสียเวลาเดินสำรวจกันยาว ๆ ต้องชอบรูปแบบนี้แน่นอน และแน่นอนว่าสิ่งที่ต้องมีคือโหมดเล่นกับเพื่อนที่ใน Megaton Musashi สามารถเล่นกับเพื่อนได้ 3 คนพร้อมกัน และรองรับระบบออนไลน์ได้ด้วย

แม้ว่าพักหลังค่าย Level 5 อาจจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่ายุคก่อน เพราะกระแสเกม Megaton Musashi ก็เงียบมากทั้งเกมและอนิเมะ แม้แต่ในญี่ปุ่นก็ตาม แต่เกมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรแม้จะดูเชยไปแล้วสำหรับรูปแบบการเล่น แต่ก็ยังอยู้ในมาตรฐานเกมดีที่เล่นได้เพลิน ๆ และมีอะไรให้ทำมากมาย แถมยังมีเนื้อเรื่องให้เสพกันตลอดการเล่นด้วย ถือว่ายังคงเป็นอีกหนึ่งเกมที่สอบผ่านเล่นได้แบบไม่เสียดายเงินแน่ แต่หากคุณอยากเล่นแบบอ่านออกเข้าใจเนื้อเรื่องก็ต้องรอให้ออกเวอร์ชันภาษาอังกฤษก่อน คาดว่าจะมีการวางขายในปี 2022

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส