รีวิว Sony Xperia XZ2 เรือธงเปลี่ยนดีไซน์ ใช้แล้วเวิร์คไหมนะ
Our score
8.9

Sony Xperia XZ2

จุดเด่น

  1. เครื่องดีไซน์ใหม่ สร้างความสดใหม่ ดูพรีเมี่ยม ซึ่งสัมผัสจากการจับถือก็เข้ามือดีจริงอย่างที่ผู้ออกแบบต้องการ
  2. สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่ถ่ายวิดีโอ HDR ได้ ซึ่งวิดีโอที่ออกมาก็คุณภาพดีอย่างที่โฆษณา แต่การใช้งานจะต้องมีความรู้ว่าซีนไหนที่เหมาะกับการถ่าย HDR ไม่งั้นจะได้วิดีโอที่ไม่สดใส
  3. Dynamic Vibration System ทำให้เครื่องสั่นตามจังหวะเพลง ดูหนังแล้วสนุกขึ้น
  4. 3D Creator ยังเป็นฟีเจอร์ที่ว้าวได้เสมอ สมาร์ทโฟนค่ายอื่นทำไม่ได้
  5. ประทับใจหน้าจอสุดๆ เป็นจอ IPS ที่สีสันสดใสสวยงามมาก

จุดสังเกต

  1. เครื่องลื่น จะหยิบ จะวางเครื่องก็ต้องระวัง เดี๋ยวหล่นแตก
  2. แอปกล้องทำงานช้า และฟีเจอร์ตามคู่แข่งไม่ทัน ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอลำบาก ถ่ายเป็นไฟล์ RAW ไม่ได้
  3. เซนเซอร์รับปรับแสงหน้าจอมีปัญหา ในบางกรณีชอบปรับจอจนมืดเกินไป
  4. ไม่มีฟีเจอร์เล็กๆ ที่จำเป็นอย่างการบันทึกเสียงโทรศัพท์ แชร์ WiFi แบบ 5 GHz หรือการบันทึกหน้าจอตามยาว
  5. ไม่มีช่องต่อหูฟัง 3.5 mm
  • รูปลักษณ์ภายนอก

    9.5

  • คุณภาพหน้าจอ

    10.0

  • ประสิทธิภาพเครื่อง

    9.0

  • คุณภาพกล้อง

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    8.0

เมื่อนึกถึงสมาร์ทโฟนจาก Sony เรื่องที่เราคิดถึงเป็นอันดับแรกคือเรื่องของดีไซน์นะครับ ที่โซนี่จะอ้างอิงดีไซน์พื้นฐานลักษณะหนึ่ง แล้วแตกย่อยเป็นหลายๆ รุ่น ซึ่งดีไซน์พื้นฐานตัวนี้ก็ใช้กันอยู่หลายปีเลยกว่าจะเปลี่ยนสักครั้ง สมาร์ทโฟนจากโซนี่เลยค่อนข้างมีเอกลักษณ์มาก และใน Sony Xperia XZ2 ก็เป็นการเปลี่ยนดีไซน์ครั้งสำคัญจากเครื่องแบนหน้า-หลัง ขอบโค้งที่เรียกว่า OmniBalance มาสู่ Ambient Flow ดีไซน์หลังเต่าครับ ซึ่งเราจะเจาะลึกรายละเอียดของ XZ2 ในรีวิวนี้กัน

Play video

ดีไซน์ใหม่ของ Xperia XZ2 “Ambient Flow”

  • ดีไซน์ใหม่ คืนความรู้สึกแปลกใหม่กับมือถือของโซนี่ ทำให้รุ่นนี้เป็นที่สนใจมาก
  • ฝาหลังโค้งแบบหลังเต่าทำด้วยกระจกที่ดัดโค้งด้วยความร้อน เข้ารูปกับฝามือ ทำให้จับแล้วเกาะมือดี
  • แต่ด้วยความที่ฝาหลังโค้งและเป็นแก้ว การใช้งานแบบไม่มีเคส เครื่องจะลื่นมาก ต้องมีสติเวลาจับเครื่องออกจากกระเป๋า และวางเครื่องก็ต้องระวังลื่นตก

Sony Xperia XZ2 เป็นสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นแรกที่ใช้ดีไซน์เครื่องแบบใหม่ที่เรียกว่า Ambient Flow โดยฝาหลังเครื่องจะเป็นแบบหลังเต่า เข้ารูปกับอุ้งมือ

ซึ่งหลังจากใช้ในชีวิตประจำวันมาครึ่งเดือนก็พบว่า ดีไซน์ใหม่นี้จับถนัดมือดี เพราะจอปรับเป็นจอยาวสัดส่วน 18:9 แล้ว ทำให้เครื่องไม่กว้างเกินไป ฝาหลังเป็นหลังเต่าก็กระชับอุ้งมือ ขอบมนก็ทำให้ถือมือถือแล้วไม่เจ็บมือ ความรู้สึกของวัสดุที่เป็นแก้วทั้งด้านหน้าและด้านหลังให้สัมผัสที่ดีและพรีเมี่ยมมาก มีความลื่น มีความหนักแน่น จับแล้วรู้สึกทนทาน และด้วยความที่ฝาหลังเป็นแก้วทำให้ XZ2 รองรับการชาร์จไร้สายด้วย โดยรวมถือว่าดีไซน์ใหม่ทำให้หยิบจับโทรศัพท์เข้าฝ่ามือได้ดีกว่าเดิม

ดีไซน์ให้ความรู้สึกเป็นโทรศัพท์เกรดพรีเมี่ยม หรูหรา

แต่ข้อเสียคือด้วยความที่ด้านหลังเครื่องทำจากแก้วและดีไซน์หลังเต่าแบบนี้ ทำให้เครื่องลื่นมาก ต้องมีสติเวลาหหยิบเครื่องออกจากกระเป๋า วางที่ไหนก็ต้องมีสติดูว่าพื้นเอียงไหม เพราะต้องระวังเครื่องลื่นตกให้ดี แต่ถ้าใส่เคสก็น่ายึดเกาะดีขึ้น (พอดีเครื่องรีวิวไม่มีเคสมาด้วย ทีมงานเลยต้องใช้ในชีวิตประจำวันอย่างระมัดระวังที่สุด)

นอกจากนี้ตำแหน่งสแกนลายนิ้วมือ ที่อยู่ด้านหลัง กลางเครื่อง ตรงจุดสูงสุดของหลังเต่า ใช้แรกๆ ไม่ถนัดเลย ต้องถือเครื่องต่ำๆ เพื่อจะสแกนนิ้ว ไม่งั้นไปแตะสแกนที่กล้องตลอด ใช้ไปสักพักจะเริ่มชิน แต่ก็ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีอยู่ดี เพราะเป็นจุดที่นูนที่สุดในฝาหลัง ทำให้เครื่องมักไปสแกนนู้นสแกนนี่ เช่นหยิบเครื่องออกจากกระเป๋าก็อาจจะสแกนฝ่ามือแล้ว และเครื่องก็จะสั่นๆ บอกว่าสแกนไม่ผ่าน

หน้าจอ Sony Xperia XZ2 ดีงามพร้อม HDR

  • หน้าจอ XZ2 ทำได้ไม่ทิ้งลายความเป็นโซนี่ ใส่เทคโนโลยีจาก Bravia TV มาเต็ม ให้ภาพสวยมาก
  • เป็นสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นในโลกที่รองรับเนื้อหา HDR จาก Netflix และจอยังสามารถเปิดเนื้อหา HDR จากแหล่งอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี
  • บางทีเราอาจจะไม่ต้องการจอ 4K หรือจอ OLED บนมือถือ ถ้ามันสามารถแสดงสีสันและ Contrast ได้เนี๊ยบเหมือนจอ XZ2

แม้ว่า Xperia XZ2 จะมีหน้าจอ 5.7 นิ้วในระดับ Full HD+ ความละเอียด 1080 x 2160 pixel แบบ 18:9 ยังไม่ได้กระโดดเป็นจอ 4K เหมือนตระกูล XZ Premium รุ่นพี่ แถมยังไม่ใช่จอ OLED แบบสมัยนิยม แต่ขึ้นชื่อว่า Sony ราชาแห่งวงการจอ TV หน้าจอของ XZ2 จึงไม่ธรรมดาครับ

Netflix รองรับ HDR บน XZ2

ด้วยเทคโนโลยี TRILUMINOS ของโซนี่ที่ขึ้นชื่อจากวงการทีวี ทำให้แม้ XZ2 จะไม่ใช่จอ OLED แต่ก็แสดงสีสันได้เยี่ยม Contrast สูง และการแสดงผลวิดีโอก็ใช้เทคโนโลยี X-Reality เข้ามาช่วยปรับการแสดงผล ทำให้ตัววิดีโอสดใสไปด้วย ซึ่ง XZ2 ถือเป็นสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นในโลกที่ Netflix รองรับการแสดงภาพ HDR เต็มตัว ทำให้เวลาเปิดหนังที่รองรับ HDR จะให้ภาพที่สวยงามมาก

นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถปรับรูปแบบการแสดงสีได้ 3 แบบ คือ

  • โหมดโปรจะให้สีจืดหน่อย เหมือนที่สายตาเรามองเห็น ก็ใช้ขอบเขตสีมาตรฐาน sRGB
  • โหมดมาตรฐาน ใช้เทคโนโลยี TRILUMINOS เข้ามาปรับปรุงการแสดงสีสัน ทำให้ได้ภาพจากหน้าจอที่ชวนมอง แต่ไม่สดจนแสบตา ซึ่งเราชอบโหมดนี้มากครับ
  • โหมดสีจัด เร่งความสดของสีและ Contrast ไปสูงสุดที่จะไม่หลอกตาเกินไปนัก ก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบจอสีสดๆ จริงๆ

สเปก Sony Xperia XZ2 แรงแถวหน้าของวงการ

  • ใช้ซีพียูตัวท็อปของวงการแอนดรอยด์ตอนนี้ ประสิทธิภาพเครื่องเลยหายห่วง
  • เล่นเกมลื่นมาก เป็นสมาร์ทโฟนระดับท็อปๆ ของวงการเล่นเกมได้
  • แต่ราคานี้ น่าจะได้ RAM 4 GB และหน่วยความจำ 128 GB นะ

Sony Xperia XZ2 นั้นใช้หน่วยประมวลผลตัวท็อปของยุคนี้คือ Snapdragon 845 พร้อม Ram 4 GB และหน่วยความจำในเครื่องแบบ UFS อีก 64 GB

ตัว CPU ไม่ต้องพูดถึง คือแรงมาก แรงที่สุดในโลก Android ตอนนี้แล้ว ทดสอบด้วย Geekbench 4 จัดคะแนน multi-core จัดไปเกือบ 8500 เร็วกว่า Pixel 2 เกือบ 2000 คะแนน (แต่ถ้านับตัวเลขอย่างเดียว ก็ยังไม่เร็วเท่า Apple A11 ใน iPhone 8 ที่ได้คะแนนไปหมื่นกว่านะ)

การใช้งานเครื่องทุกอย่างจึงลื่นหมด พวก facebook, line ไม่ต้องพูดถึง ลื่นมาก เล่น PUBG Mobile ในโหมด High ก็ลื่นไหลตลอดทั้งเกม คือด้วยซีพียูที่เป็น Snapdragon แถมยังเป็นตัวท็อป มันจึงเหมาะสำหรับการเล่นเกมมาก ถ้าเป็นซีพียูค่ายอื่นๆ แม้จะเป็นตัวท็อป แต่ก็ยังอาจกระตุกได้อยู่ดี

แต่ในสเปกนี้ติดอยู่ตรง RAM ที่ให้มาแค่ 4 GB กับหน่วยความจำ 64 GB คือด้วยราคาเปิดตัว 26,000 บาท เราก็อยากให้เป็นแรม 6 GB และหน่วยความจำ 128 GB อย่างคู่แข่งนะ แม้ว่า XZ2 จะยังใส่ MicroSD ได้สูงสุด 400 GB (ต้องเลือกระหว่างใส่ MicroSD หรือใส่ซิม 2) แต่เราก็อยากได้ความจุเยอะกว่านี้อยู่ดีนะ

เทคโนโลยีเสียงของโซนี่ จัดเต็มใน Xperia XZ2

  • เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีเสียงจาก Sony
  • ลำโพงเครื่องเป็นสเตอริโอและดังขึ้นกว่าเดิม 20%! (น้ำตาจะไหล)
  • ไม่มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm แล้ว ต้องแปลงจาก USB-C อย่างเดียว

โซนี่นั้นเป็นแบรนด์ที่มีเทคโนโลยีด้านเสียงอยู่ในตัวเยอะมากอยู่แล้ว (ค่ายอื่นอาจจะใช้ Dolby กัน แต่โซนี่มีของดีของตัวเองที่เจ๋งพอเลยไม่แคร์ Dolby ก็ได้) ซึ่งใน Sony Xperia XZ2 ก็ใส่เทคโนโลยีเสียงมาหลายตัว ที่เลือกเปิด-ปิดได้ใน Settings คือ

  • DSEE HX ปรับปรุงคุณภาพเสียงเพลงจากไฟล์ที่ถูกบีบอัดให้กลับมาใกล้เคียงกับไฟล์เสียงระดับ Hi-Res แต่ไม่สามารถใช้ได้กับลำโพงหรือหูฟัง Bluetooth นะโหมดนี้ ต้องฟังจากลำโพงเครื่อง หรือต่อสายหูฟังผ่านพอร์ต USB-C ก็แนะนำให้เปิดสำหรับเวลาฟังเพลงนะครับ ถ้าใช้งานอื่นๆ อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ก็ลองฟังดู
  • ClearAudio+ ปรับรูปแบบเสียงให้เหมาะสำหรับสิ่งที่เราจะใช้โดยอัตโนมัติ อันนี้เปิดใช้งานได้ตลอด แต่ไม่สามารถเปิดพร้อมกับ DSEE HX ได้ ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง
  • S-Force Front Surround ปรับปรุงเสียงจากลำโพงสเตอริโอของเครื่องให้เซอร์ราวมากขึ้น ซึ่งจะเปิดเองเมื่อใช้ ClearAudio+ หรือถ้าปิด ClearAudio+ ก็เข้าไปเปิดจากหน้า Sound Effect ได้

โดยรวมแล้วเราพอใจคุณภาพเสียงจาก XZ2 โดยเฉพาะเสียงที่ผ่านหูฟังแบบสายครับ ไม่ทิ้งความเป็นโซนี่ผู้นำเรื่องเครื่องเสียงเลย ส่วนใครที่ฟังลำโพงหรือหูฟัง Bluetooth ที่ใช้เทคโนโลยีการปรับแต่งเสียงของโซนี่ไม่ได้ Xperia XZ2 ก็ยังรองรับ Bluetooth Codec ตัวท็อปทั้ง LDAC ซึ่งรองรับในลำโพงและหูฟังไร้สายของโซนี่เอง และ aptX HD สำหรับอุปกรณ์ระดับท็อปค่ายอื่นๆ เพื่อให้อุปกรณ์ที่รองรับสามารถนำเสียงจาก XZ2 ไปเล่นได้ดีที่สุด

ซึ่งตัวลำโพงของ Xperia XZ2 โซนี่เคลมว่าดังกว่า XZ Premium 20% ถือเป็นสมาร์ทโฟน Xperia ที่มีลำโพงดังที่สุดแล้ว แถมเป็นลำโพงสเตอริโอบนล่างด้วย ซึ่งเราทดสอบแล้วก็จริงตามนั้นครับ ให้เสียงดังจริง แม้จะยังไม่ดังเท่าคู่แข่งหลายตัว แต่ก็เป็นการปรับปรุงที่ดีมาก แถมเสียงจากลำโพงคู่นี้ยังดีใช้ได้อีกด้วย

ระบบเสียงพร้อมระบบสั่น ทำให้การถือ Sony Xperia XZ2 ฟังเพลงสุนทรีย์กว่าเดิม

  • Dynamic Vibration System ทำให้ประสบการณ์การดูหนัง ฟังเพลงเปลี่ยนไป เพราะเครื่องสั่นตามจังหวะเพลงได้
  • รองรับการสั่นจากเกมด้วย แต่ไม่ใช่ทุกเกม ก็ต้องรอนักพัฒนาปรับปรุงให้รองรับ
  • แต่ถ้าถามว่าเป็นฟีเจอร์จำเป็นแบบขาดไม่ได้ไหม ก็ยังไม่ใช่นะ คือมีก็ดี ใช้สนุกดี แต่ถ้าไม่มีระบบสั่นก็ไม่เป็นไร

กิมมิกล่าสุดของ Sony Xperia XZ2 คือ Dynamic Vibration System หรือระบบสั่นเครื่องตามเสียงที่เล่นครับ ซึ่งระบบนี้ทำให้การดูหนังได้อารมณ์มากขึ้น เพราะมันสั่นตามเสียงเบสของหนัง ใครที่ชอบถือมือถือดู Youtube, Line TV ก็น่าจะชอบระบบนี้แน่ๆ เพราะทำให้ประสบการณ์ชมแตกต่างไปเลย แม้จะฟังเพลงจาก Spotify หรือแอปเล่นเพลงในเครื่อง XZ2 ก็สั่นตามจังหวะเพลงไปด้วย โดยผู้ใช้จะสามารถเลือกระดับความแรงได้ 3 ระดับ คือสั่นน้อย สั่นปกติ สั่นมาก แต่ถ้าใครไม่ชอบก็ปิดฟังก์ชัี่นสั่นนี้ได้ครับ

แต่การใช้งานร่วมกับแอปอื่นๆ อย่างเกม อาจจะต้องรอผู้พัฒนาปรับปรุงเกมให้รองรับกันสักนิดครับ ตอนนี้ก็มีเกมที่รองรับอย่าง Angry Bird, Clash of Clans, Clash Royale, Boom Beach, Mini Guns, Mini Metro และเกมอื่นๆ ที่รองรับแล้ว เวลาเล่นนั้นได้อารมณ์เหมือนถือจอย Dual Shocked ของ PlayStation เลย แต่บางเกมอย่าง PUBG Mobile ช่วงที่เราทดสอบก็ยังไม่สั่น ก็ต้องรอการพัฒนาต่อไป

เรามองว่า Dynamic Vibration System เป็นกิมมิกที่น่าสนใจ สร้างอารมณ์ร่วมระหว่างชมเนื้อหาได้ดี แต่ก็ไม่ใช่จุดเด่นที่มีน้ำหนักมากพอจนทำให้ตัดสินใจซื้อรุ่นนี้นะ เพราะหลายคนก็ไม่ได้ดูเนื้อหาผ่านหน้าจอมือถือนานๆ เท่าไหร่ เป็นความสามารถที่มีก็ตื่นเต้นดี ได้ใช้เรื่อยๆ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร

กล้องใหม่ สู่ความคมชัดใหม่ๆ ฟีเจอร์ใหม่ แต่ยังช้าเหมือนเดิม

  • คุณภาพกล้องทั้งกล้องหน้าและกล้องหลังดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • สามารถถ่ายวิดีโอแบบ HDR ได้ในตัว ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่ทำได้ตอนนี้
  • แต่แอปกล้องหน้าตายังโบราณ ฟีเจอร์น้อย และช้าเหมือนเดิม

ระบบกล้องตัวใหม่ของ Sony Xperia XZ2 นั้นเรียกว่า Motion Eye Advance นะครับ โดยกล้องหลังความละเอียด 19 ล้าน f/2.0 เป็นกล้องเดี่ยว ส่วนกล้องหน้านั้นมีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล f/2.2

ที่กล้องตัวใหม่นี้เรียกว่า Motion Eye Advance เพราะมีความสามารถสุดเจ๋งคือสามารถถ่ายวิดีโอแบบ HDR ออกมาได้เลยในรูปแบบ HLG (Hybird Log Gamma) ซึ่งเราทดสอบแล้ว สำหรับสภาพแสงที่โอเค คือมีความแตกต่างกันระหว่างส่วนมืดกับส่วนสว่างเยอะๆ วิดีโอที่ออกมาสวยจริง สามารถเก็บรายละเอียดแสงได้ดี และใช้งานได้เลย ไม่ต้องไปผ่านกระบวนการอะไรอีก เปิดดูได้ทั้งจากจอของ Xperia XZ2 ที่รองรับ HDR อยู่แล้ว และจอทีวีที่รองรับ HDR ทั่วไป

วิดีโอ HDR จาก XZ2 (ตัวบน) เทียบกับการถ่าย SDR ธรรมดา (วิดีโอตัวล่าง)

Play video

Play video

จุดที่แตกต่างชัดๆ คือวิดีโอ HDR สามารถเก็บรายละเอียดคำว่า Xperia ในหน้าจอทีวีที่มีความสว่างสูงมาได้ แต่วิดีโอ SDR ทำไม่ได้ แต่สีสันวิดีโอ HDR จะชัดเจนเมื่อดูในจอ HDR นะครับ ถ้าดูบนจอปกติจะรู้สึกว่ามันหม่น

แต่สำหรับซีนธรรมดาที่ไม่ได้มีความแตกต่างของแสงเยอะๆ เราก็ยังแนะนำให้ถ่ายแบบ SDR หรือถ่ายแบบเดิมครับ จะให้ภาพที่สดใสกว่า เพราะไม่ต้องดึงช่วงแสงกว้างๆ เหมือน HDR นอกจากนี้การถ่าย SDR นั้นยังทำงานได้ดีกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวของเครื่อง ซึ่งถ้าถ่าย HDR เราแนะนำให้ปิดโหมดป้องกันภาพสั่นไหวเพื่อให้ได้ผลลัทธ์ที่ดีที่สุดครับ และวิดีโอแบบ HDR จะสามารถ Trim คลิปได้อย่างเดียวนะครับ ไม่สามารถใช้แอปในเครื่องตัดต่อให้ออกมาเป็นไฟล์ HDR ได้ ก็ต้องเอาไฟล์ HDR มาใส่ในโปรแกรมตัดต่อดีๆ ของคอมพิวเตอร์เพื่อจะคงคุณลักษณะ HDR เอาไว้

Play video

นอกจากนี้ Xperia XZ2 ยังสามารถถ่าย Super Slow Motion แบบ 960 fps ได้ที่ความละเอียดสูงสุด Full HD 1080P จากรุ่นเดิมที่ได้แค่ HD 720P แต่การใช้โหมดนี้ต้องเข้าใจการทำงานพอสมควร คือต้องถ่ายในที่แสงเยอะ และกดจังหวะให้ทันนะครับ ไม่งั้นภาพจะแตกๆ เพราะมันต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงมาก

ด้านข้างเครื่องมีปุ่มซัตเตอร์ให้กดแยก

ที่นี้มาถึงเรื่องการถ่ายภาพนิ่งธรรมดากันบ้าง คุณภาพไฟล์จากกล้องหลังของ Xperia XZ2 นั้นถือว่าดีมาก ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติ สีสันสดใสแบบไม่เกินจริง ดูแล้วไม่เบื่อ ส่วนการถ่ายภาพกลางคืนก็ทำได้ดีครับ ภาพเนียนสวยงาม เก็บแสงสีสันได้ดีกว่า Xperia รุ่นก่อนๆ แถมตัวกล้องยังมาพร้อมปุ่มซัตเตอร์ที่ตัวเครื่อง ก็ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นไปอีก ส่วนคุณภาพไฟล์จากกล้องหน้า อันนี้ยังไม่ได้ลองมากนัก แต่ภาพที่ได้มา ก็ถือว่าโอเคเลย

ความเร็วชัตเตอร์ได้สูงสุดแค่ 1 วินาที

ที่นี้ส่วนที่ไม่ชอบในกล้องของ Xperia XZ2 คือหน้าตาและฟังก์ชั่นที่เหมือนตกยุคไปหน่อย แอปกล้องของ Xperia ก็ยังคงหน้าตาแบบเดิม รูปแบบการใช้งานแบบเดิมที่มีแอปย่อยหลายๆ ตัวสนับสนุนการถ่ายภาพ เหมือนสมาร์ทโฟนโซนี่เมื่อหลายปีก่อน ในขณะที่คู่แข่งก้าวไปสู่การแข่งขันถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบถ่าย Portrait มืออาชีพ แต่โซนี่ก็ยังใช้การถ่าย 2 ครั้งเพื่อละลายฉากหลัง ซึ่งมันเก่าไปมากแล้ว รวมถึงการควบคุมแบบมืออาชีพที่เลือกเซฟเป็น RAW File ได้ หรือตั้งซัตเตอร์นานๆ ได้ แต่ XZ2 ก็ยังบันทึกเป็น RAW File ไม่ได้ แถมซัตเตอร์ในโหมดโปรลากยาวสุดได้แค่ 1 วินาทีเท่านั้น

แอปกล้องแบบเดิมๆ

ส่วนที่เราขัดใจที่สุดในแอปกล้องของ Xperia XZ2 คือแม้เราจะใช้ซีพียูตัวท็อปเบอร์ไหน แต่กล้องของ Xperia ก็ยังเป็นกล้องที่ต้องรอเสมอ ถ่ายแล้วจะต้องรออึดใจหนึ่ง สัก 1-2 วินาที กว่าภาพจะขึ้น ซึ่งบางทีแอปกล้องก็แฮงค์ไปเลยโดยที่ยังไม่ทันเซฟภาพ ทำให้ภาพนั้นหายไป และจังหวะที่กดถ่ายรูปก็ต้องรอหน่วงแป๊บหนึ่ง อย่างมากก็เกือบวินาทีกว่ากล้องจะบันทึกภาพตรงหน้าให้ ก็ทำให้ต้องเป็นคนใจเย็นนิดหนึ่งเวลาจะใช้กล้องของ Xperia ครับ

ตัวอย่างภาพจาก Sony Xperia XZ2

 

แต่ถ้าแสงเข้าหน้ากล้อง จะเจอแสงแฟลร์ที่โหดมาก ต้องเอามือบังแสงให้เลนส์หน่อย

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า

ภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบถ่าย 2 ครั้งด้วยกล้องหลัง

เรื่องอื่นๆ จากการใช้งาน Sony Xperia XZ2

  • แบตเตอรี่ 3,180mAh เทสใช้งานจริงแล้ว อยู่ได้ทั้งวัน
  • 3D Creator เป็นฟังก์ชั่นที่ยังว้าวอยู่ เป็นจุดขายของ Sony Xperia ตัวท็อปก็ยังอยู่ใน XZ2 พร้อมสามารถถ่าย 3D ด้วยกล้องหน้าแบบ Selfie ได้ แชร์ขึ้น facebook ก็ได้ เล่นสนุกขึ้นเยอะ
  • เครื่องที่ได้มารีวิวยังไม่รองรับทั้ง VoLTE และ VoWiFi ก็ต้องรอซอฟต์แวร์ปรับปรุงอีกนิด (แต่เห็นว่าเครื่องขายจริงนั้นรองรับทั้งคู่แล้ว)
  • หนัก 198 กรัม ก็รู้สึกเครื่องหนาๆ หนักๆ กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไป แต่ให้ความรู้สึกว่างานประกอบดี ดูหนักแน่น
  • กันน้ำระดับ IP65/68 อันนี้ยังไม่เคยทำตกน้ำ เลยไม่รู้ว่ากันได้ดีจริงแค่ไหน
  • ไม่มีฟังก์ชั่นแฟนซีอย่าง บันทึกเสียงสนทนาโทรศัพท์ บันทึกภาพหน้าจอตามแนวยาว หรือฟังก์ชั่นตกแต่งภาพหลังจากแคปหน้าจอทันที ซึ่งทำให้การใช้งานลำบากขึ้นอีกหน่อย
  • ช่วงที่ทดสอบมีปัญหากับเซนเซอร์ปรับแสงหน้าจอ เมื่อเซนเซอร์ไม่ได้รับแสงจากแหล่งกำเนิดแสงโดยตรงหน้าจอจะมืดลง เช่นถ้าเรานั่งมุมหลังหลอดไฟ หน้าจอจะมืดเพราะคิดว่าเราอยู่ในที่มืด ทั้งที่จริงๆ ควรจะสว่างกว่านี้ ซึ่งก็เป็นปัญหาที่น่ารำคาญในการใช้