รีวิว Sony Xperia XZ2 Premium สานต่อจิตวิญญาณจอ 4K HDR
Our score
7.8

Sony Xperia XZ2 Premium

จุดเด่น

  1. เครื่องแรง ใช้งานทุกอย่างได้ลื่นไหล เล่นเกมก็ดี
  2. กล้องวิดีโอดีมาก ทั้งถ่าย 4K HDR และกันสั่นได้ดีเยี่ยม
  3. กล้องคู่ถ่ายภาพนิ่งได้ดี ถ่ายกลางคืนเยี่ยม สีสันเป็นธรรมชาติ
  4. หน้าจอระดับ 4K HDR ซึ่งน่าจะเป็นมือถือรุ่นเดียวที่มีจอระดับนี้
  5. เทคโนโลยีโซนี่มาเต็ม ทั้งระบบสั่นตามเสียง ระบบสแกนวัตถุ 3 มิติ

จุดสังเกต

  1. ให้ความจุแค่ 64 GB ซึ่งน้อยไปสำหรับเรือธง Android ตอนนี้
  2. หน้าจอดันให้สีอมฟ้ามากเกินไป ทำให้ภาพไม่น่ามอง
  3. กล้องช้า กดแล้วต้องรออึดใจหนึ่งถึงจะได้รูป ถ่าย RAW ไม่ได้
  4. ดีไซน์หลังเต่าที่ใช้กับอุปกรณ์เสริมทั่วไปไม่ได้ ปุ่มควบคุมกระจายรอบขอบเครื่อง ทำให้มือไปได้ปุ่มต่างๆ ได้ง่าย และเครื่องหนัก
  5. ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 mm
  • รูปลักษณ์ภายนอก

    7.0

  • คุณภาพหน้าจอ

    8.0

  • ประสิทธิภาพเครื่อง

    9.0

  • ประสิทธิภาพกล้อง

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    7.0

เรียกว่าโซนี่นั้นมีแนวทางการในการทำมือถือของตัวเองที่ชัดเจนมากนะครับ คือในรุ่นเรือธงนั้นจะแบ่งออกเป็นรุ่นทั่วไป ที่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพดี ราคาเหมาะสม แล้วก็รุ่นพรีเมี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเทคโนโลยีสูงสุดจากโซนี่ และเรือธง Premium ตัวล่าสุดอย่าง Sony Xperia XZ2 Premium ก็มาอยู่ในมือของเราพร้อมรีวิวให้อ่านกันแล้ว ซึ่ง Xperia XZ3 ก็เปิดตัวมาเรียบร้อยตอนนี้ ไม่รู้พี่โซนี่จะออกมือถือถี่ไปไหน และล่าสุด Xperia จะหยุดทำตลาดในไทยไปพักหนึ่งด้วย XZ3 จึงไม่ขายในไทย และ XZ2 Premium ก็จะหาเครื่องยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนำเข้าขายไม่เยอะครับ เอาเป็นว่าใครที่มี XZ2 Premium ก็ภูมิใจได้เลยว่าได้เก็บของหายากรุ่นหนึ่ง

ว่าด้วยเรื่องจอ 4K HDR จุดเด่นของ Sony Xperia XZ2 Premium

จุดเด่นของ Xperia ในตระกูล Premium เลยคือเรื่องจอ 4K ครับ ซึ่งใน XZ2 Premium ก็ใส่หน้าจอ 4K HDR แบบ IPS ขนาด 5.8 นิ้วสัดส่วน 16:9 มาด้วย ทำให้การดูเนื้อหาที่รองรับ 4K HDR อย่าง Youtube หรือภาพยนตร์ใน Netflix (เรื่องที่รองรับ 4K HDR) ดูดีขึ้นมากจริงๆ รายละเอียดของภาพนั้นคมกริบยิ่งกว่าจอทั่วไป และ HDR ก็ช่วยให้แสดงแสงสีสันจนจัดจ้านกว่าเดิม ดูหนังแล้วก็เพลิน

แต่ประโยชน์ของหน้าจอ 4K หลักๆ ก็จะจบลงแค่การดูภาพหรือวิดีโอ (ที่ต้องรองรับ 4K ด้วยนะ) เป็น เพราะการใช้ปกติจะมองความแตกต่างได้ยากมากระหว่างมือถือทั่วไปที่เป็นจอ Full HD+ กับหน้าจอ Xperia XZ2 Premium ถ้าไม่ได้ช่างสังเกตจริงๆ แบบจับ 2 จอมาเทียบกันจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง เราจึงมองว่าจอ 4K HDR นั้นเหมาะสำหรับผู้ใช้เฉพาะกลุ่มที่ต้องความคมชัดของภาพยนตร์ระดับสุดขอบในยุคนี้ ซึ่งความสุดยอดนี้ก็ต้องแลกมาด้วยอายุแบตเตอรี่ที่สั้นลงด้วยนะครับ เพราะจอละเอียดมาก กินไฟเยอะ

เทียบกับ Galaxy Note 9 ตัวบน จะเห็นว่าจอของ Xperia XZ2 Premium อมฟ้ากว่ามาก

จุดที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับจอของ Xperia XZ2 Premium นั้นมี 3 ข้อคือ

  1. สัดส่วนเป็น 16:9 ทำให้ขนาดจอ 5.8 นิ้วกลายเป็นทำให้เครื่องอ้วนกว่ามือถือทั่วไป จับมือเดียวลำบาก นอกจากนี้เวลาดูหนังจริงๆ ที่สัดส่วนภาพยาวกว่า 16:9 ก็ทำให้พื้นที่การดูลดลง
  2. สีจออมฟ้ามากไป เราอาจจะแตกต่างจากคนอื่นๆ ตรงที่เราไม่เคยชอบจอที่ให้แสงอมฟ้าเลย แม้ว่ามันจะทำให้สีขาวดูสะอาดขึ้น แต่ก็ทำให้เวลาชมภาพยนตร์สีสันภาพผิดจากมาตรฐานอุตสาหกรรม (มาตรฐานวงการใช้อุณหภูมิสี 6500 K ซึ่งจะเป็นโทนอุ่นๆ หน่อย)  ซึ่งถ้าเทียบกับ Sony Xperia XZ2 ที่เราเคยรีวิวไป เราว่าสีสันของ XZ2 นั้นดีกว่า XZ2 Premium เยอะครับ ให้โทนภาพที่มีชีวิตชีวากว่า ซึ่งเราพยายามหาทางปรับโทนสีของ XZ2 Premium แล้วนะ แต่ปรับยากเย็นเหลือเกิน
  3. จอไม่ค่อยสว่าง อันนี้เป็นปัญหาเวลาใช้งานกลางแดดครับ จะมองจอยากหน่อย ซึ่งจอตัวนี้จะมืดกว่าจอของ Xperia XZ2 แล้วเวลาดูหนัง HDR ที่แข่งกันเรื่องความสว่างของหน้าจอด้วย ภาพก็จะไม่เด้งเตะตาเท่าจอที่สว่างกว่าครับ

Xperia XZ2 Premium มีกล้องคู่ ถ่ายภาพดีมาก แต่ยังหน่วง!

จุดเด่นสุดๆ ของ XZ2 Premium คือเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโซนี่เลยที่มีกล้องคู่ ขนาด Xperia XZ3 ที่ออกตามมายังไม่มีกล้องคู่เลย ซึ่งสเปกของกล้องคู่ตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา กล้องตัวแรกเป็นกล้องสี ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล f/1.8 เซนเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว ส่วนกล้องอีกตัวเป็นกล้องขาวดำความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.6 ใช้เซนเซอร์ขนาด 1/2.3 นิ้ว แล้วใช้หน่วยประมวลผลพิเศษที่เรียกว่า AUBE รวมภาพจากกล้อง 2 ตัวนี้เข้ามาเป็นภาพเดียว ซึ่งการรวมภาพจากกล้องขาว-ดำที่มีขนาดเม็กพิกเซลใหญ่กว่า เก็บแสงได้มากกว่า ทำให้ Sony Xperia XZ2 Premium สามารถเร่ง ISO ได้สูงสุดถึง 51,200 สำหรับภาพนิ่ง และ ISO 12,800 สำหรับวิดีโอซึ่งสูงมาก แต่ ISO ที่สูงขนาดนี้กล้องจะเลือกใช้เองในโหมดอัตโนมัตินะครับ ในโหมด Manual สามารถเซ็ต ISO สูงสุดได้ที่ 12,800 เท่านั้น

ตัวอย่างภาพจากกล้องหลังของ Sony Xperia XZ2 Premium

ภาพขาวดำจากกล้องหลัง

จริงๆ เราชอบคุณภาพไฟล์ของโซนี่มาตั้งแต่ Xperia XZ2 แล้ว ซึ่งใน XZ2 Premium ก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นไปอีกด้วยการถ่ายภาพกลางคืนที่สวยขึ้น ในขณะที่สีสันของภาพก็ดูเป็นธรรมชาติไม่ตกแต่งจนโอเวอร์เกินจริงเหมือนกล้องหลายๆ แบรนด์ แล้วยังถ่ายภาพขาวดำได้ละเอียดด้วยเซนเซอร์ขาวดำโดยเฉพาะ และไฮไลท์สำคัญของการเป็นกล้องคู่คือมันถ่ายหน้าชัด หลังเบลอด้วยเลนส์ 2 ตัวได้แล้วครับ ซึ่งก็ถ่ายหลังเบลอได้ดีและเร็วกว่ารุ่นเดิมที่ใช้กล้องเดียว แล้วถ่ายภาพหลายๆ ระยะมาทำให้เบลอ แต่ถ้าถามว่าโหมดนี้ถ่ายแล้วได้ภาพเลยไหม กล้องก็ต้องใช้เวลาถ่ายมากกว่าโหมดปกติอยู่ดีครับ ก็ไม่เหมาะสำหรับเอาไปถ่าย Candid นะ

ภาพโหมดหน้าชัดหลังเบลอ

แต่จุดอ่อนที่เดิมของโซนี่อย่างชัตเตอร์หน่วง หรือถ่ายเป็นไฟล์ RAW ไม่ได้ก็ยังไม่ได้รับการปรับปรุงใน XZ2 Premium ครับ โดยเฉพาะเรื่องชัตเตอร์หน่วงนี้ถือเป็นปัญหากวนใจมาก เพราะเมื่อกดชัตเตอร์ กล้องจะใช้เวลาอีกราววินาทีเพื่อหาโฟกัสก่อนที่จะถ่ายภาพออกมา ซึ่งมันก็แก้ไขได้ด้วยการใช้ปุ่มชัตเตอร์ที่อยู่ข้างเครื่อง แทนการกดชัตเตอร์ในจอ โดยกดปุ่มไว้ครึ่งหนึ่งเพื่อหาชัตเตอร์รอไว้ แล้วจึงกดลึกลงไปเพื่อถ่ายภาพ ปัญหาชัตเตอร์หน่วงก็จะลดลง แต่เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ที่ถ่ายภาพให้ทันที แม้จะกดปุ่มถ่ายภาพจากในจอ มันก็น่ารำคาญเหมือนกันเวลารีบๆ

ตัวอย่างภาพจากกล้องหน้า

ในส่วนของกล้องหน้าก็ได้รับการปรับปรุงจาก Xperia XZ2 ไปเยอะครับ อัปเกรดความละเอียดจาก 5 ล้านพิกเซลมาเป็น 13 ล้านพิกเซล f/2.0 ซึ่งก็สามารถถ่าย Selfies ได้คมชัดมากขึ้น ซึ่งลักษณะภาพของมือถือตัวนี้ก็จะเป็นโทนที่สมจริงนะครับ ไม่ได้ทำหน้าฟรุ๊งฟริ๊งให้มากแบบมือถือจีน ก็เอาไปแต่งต่อแล้วกันนะ เราเน้นความจริงมากกว่า

วิดีโอแบบ HDR ที่ถ้าไม่ได้เปิดบนจอ HDR สีจะตุ่นๆ

Play video

Play video

เรื่องเทพที่แท้ทรูของ Xperia XZ2 Premium คือการถ่ายวิดีโอครับ จัดเต็มทุกอย่าง ทั้งการถ่าย 4K HDR ที่ทำได้ตั้งแต่ XZ2 แล้ว อันนี้ยังไม่มีมือถือยี่ห้อไหนทำแบบนี้ได้ แต่การถ่ายวิดีโอ HDR ต้องเข้าใจธรรมชาติการใช้ด้วยนะครับ ไม่ใช่เปิด HDR ค้างไว้แล้วถ่ายอะไรก็สวย มันเหมาะสำหรับซีนที่แสงแตกต่างกันเยอะๆ ซึ่งการถ่ายปกติไม่สามารถเก็บแสงสีมาได้หมด ก็เลือกเป็น HDR แต่ถ้าซีนทั่วไป เช่นถ่ายในห้องที่แสงไม่ได้ต่างกันมาก ปิด HDR ไว้จะทำให้ได้ภาพที่สดใสสวยงามกว่าครับ และอีกเรื่องที่ต้องชมเลยคือระบบป้องกันภาพสั่นไหวที่ดีมาก ไม่ต้องใส่อุปกรณ์ป้องกันภาพสั่นไหว แค่เดินถือถ่ายไปมาก็ให้ภาพที่วิดีโอที่เคลื่อนไหวนุ่มนวล น่าประทับใจจริงๆ ครับ

ดีไซน์หลังเต่าเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือเครื่องหนัก

Sony Xperia XZ2 Premium น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนที่มีน้ำหนักมากที่สุดเท่าที่เราเทสในยุคปัจจุบันแล้วนะครับ ขึ้นชั่งได้น้ำหนักที่ 236 กรัม คือถือในมือนี่รู้สึกว่าเครื่องหนักว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ชัดเจน ถ้ายิ่งใส่เคสก็จะยิ่งหนักเข้าไปอีก จะไม่ใส่เคสเราก็ไม่แนะนำเพราะด้วยฝาหลังกระจกโค้งหลังเต่าเหมือน XZ2 ทำให้เครื่องลื่นมาก เอาไปวางบนพื้นเอียงนิดเดียวมันก็ลื่นตกได้แล้วครับ

โดยรวมดีไซน์ก็ยังอิง XZ2 อยู่คือตัวสแกนนิ้วอยู่กลางเครื่อง ทำให้ต้องถือเครื่องต่ำๆ ปุ่มล็อกหน้าจอก็อยู่กลางเครื่อง ซึ่งกระจายตัวมากๆ กับปุ่มเร่งเสียง-ลดเสียงที่อยู่บนสุดของเครื่อง และปุ่มชัตเตอร์กล้องที่อยู่ขอบล่างเครื่อง ซึ่งปุ่มทั้งหมดนี้จะอยู่ด้านขวาของเครื่องครับ

ด้วยความที่เป็นเครื่องหลังเต่าหนา และมีปุ่มล็อกเครื่องอยู่ตรงกลางพอดี ทำให้เราเอา Sony Xperia XZ2 Premium ไปติดกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ เช่นที่เสียบจอยเกม หรือ Gimbal ป้องกันภาพสั่นไหวเวลาถ่ายวิดีโอที่ขายอยู่ตามท้องตลาดได้ยาก ถ้าจะใช้ได้ก็ต้องเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบสำหรับ XZ2 โดยเฉพาะ ทำให้ใครที่คิดจะเอา XZ2 Premium ไปใช้ถ่ายวิดีโอหรือทำงานไลฟ์ที่ต้องการใช้ Gimbal เราก็ไม่แนะนำรุ่นนี้ครับ

เรื่องเสียงและ Dynamic Vibration System

เรื่องลำโพงของ Sony XZ2 Premium นั้นปรับปรุงจาก XZ Premium ตัวแรกไปเยอะมากครับ มันให้เสียงดังกว่ากันมาก น้ำตาจิไหล (จริงๆ มันปรับปรุงตั้งแต่ XZ2 แล้วนะ แต่เหมือนตัว XZ2 Premium จะดังขึ้นไปอีก) แล้วยังเป็นลำโพงสเตอริโอที่สามารถแยกซ้าย-ขวาได้ชัดเจน ส่วนระบบ Dynamic Vibration System ที่สั่นเครื่องตามจังหวะเพลง ก็ยังอยู่ครบถ้วนในรุ่นนี้ครับ จะดูหนังหรือฟังเพลง ก็ได้ลำโพงเสียงดัง แยกซ้าย-ขวาได้ และการสั่นเครื่องตามจังหวะเสียง ก็ทำให้ความบันเทิงมีรสชาติขึ้นอีกหน่อย

แต่จุดอ่อนเรื่องดนตรีของ XZ2 Premium ก็ยังเหมือนกับ XZ2 ครับ คือมันไม่มีช่องหูฟัง 3.5 mm แล้ว ต้องใช้สายแปลงพอร์ต USB-C หรือหูฟังที่รองรับ USB-C โดยตรง หรือหูฟังไร้สาย Bluetooth เอา (ซึ่งจะดีที่สุดก็ต้องหูฟังที่รองรับระบบ LDAC ของโซนี่ด้วย จะทำให้ได้เสียงดีระดับเสียบสาย ซึ่งเรื่องที่เราแอบเสียดายนิดๆ คือชื่อชั้นของ Sony นั้นเป็นเจ้าแห่งเสียงเพลงนะครับ มี Walkman ที่เป็นตำนาน แต่ใน Xperia รุ่นเรือธงกลับไม่มีช่องหูฟัง 3.5 mm หรือชิปประมวลผลเสียงดีๆ หรือ DAC ดีๆ อย่างที่มือถือเรือธงหลายๆ มี มันก็แอบเสียดายเหมือนกัน

ประสิทธิภาพของ XZ2 Premium

เรื่องประสิทธิภาพนั้นไม่น่าเป็นห่วงสำหรับสมาร์ทโฟนตัวท็อปที่ใช้ชิป Snapdragon 845 พร้อมแรม 6 GB อย่าง Xperia XZ2 Premium ก็สามารถทำคะแนน Multi-core จาก Geekbench 4.3 ไปได้ราว 8,000 คะแนน และได้คะแนนจาก 3Dmark ชุดทดสอบ Slingshot Extreme ไปราว 4,200 คะแนน

ซึ่งแน่นอนว่าคะแนนระดับนี้ ใช้งานเครื่องมันลื่นหมดอยู่แล้วแหละครับ เราเลยเทสกับเกม PUBG แบบปรับทุกอย่างสุดเท่าที่เกมมันจะยอมให้ปรับ เล่นจบไป 1 ตา แอดได้ที่หนึ่ง เอ้ย เกมลื่นไหลตลอดอ่ะครับ อาจจะมีแลคบ้างนานๆ ทีเหมือน Network มันโหลดไม่ทัน แต่ก็ลื่นจนจบเกมที่แอดเป็นผู้ชนะหนึ่งเดียวจริงๆ (ไม่อยากจะโม้)

เล่น PUBG ด้วยคุณภาพภาพแบบนี้ ก็ยังลื่น

สรุป Sony Xperia XZ2 Premium เรือธงกับแนวคิดอินดี้

เราไม่เคยกังขาเรื่องเทคโนโลยีของโซนี่นะครับ บริษัทนี้มีเทคโนโลยีมากมายเป็นทรัพย์สินที่พร้อมจะนำไปใช้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะวางแผนใช้ถูกจุดรึเปล่า

จุดที่เราชอบเกี่ยวกับ XZ2 Premium คือคุณภาพของกล้องวิดีโอที่ดีมากจริงๆ ส่วนภาพถ่ายก็สวยแบบธรรมชาติ ประสิทธิภาพเครื่องก็ดี

แต่จุดที่เราไม่ชอบคือดีไซน์ตัวเครื่องที่หลังเต่าทำให้ชีวิตลำบากเวลาจะใช้กับอุปกรณ์อื่นๆ ซอฟต์แวร์กล้องที่ยังล้าหลัง ทำงานช้า และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของการใช้งานครับ เช่นเซนเซอร์ปรับแสงหน้าจอชอบปรับภาพจอมืดเวลาไม่เจอแหล่งกำเนิดแสงจริงๆ เช่นเวลาหันจอเข้าหาหน้า แต่แหล่งกำเนิดแสงอยู่หลังเครื่อง หรือเซนเซอร์แนบหูที่อาจจะอยู่ห่างจากหูเวลาคุยโทรศัพท์ไปหน่อย ทำให้บางครั้งหน้าจอก็ติดขึ้นมาเวลาคุยโทรศัพท์ หรือหน้าจอ 4K ที่ดันอมฟ้ามากเกินไป ซึ่งแอดไม่ชอบอ่ะ

ส่วนราคาของ Sony Xperia XZ2 Premium นั้นเปิดตัวที่ 27,990 บาท ครับ แต่ไม่รู้ตอนนี้ยังหาซื้อได้รึเปล่านะครับ