วันนี้การรีวิวสมาร์ตโฟนของแบไต๋นั้นแปลกหน่อย เพราะเรามาอยู่นอกสถานที่ เพื่อรีวิวกล้องของ Samsung Galaxy S21 FE 5G กันเน้น ๆ ว่าถ่ายภาพและวิดีโอทั้งกลางวัน-กลางคืนเป็นยังไง พร้อมแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนอย่างไรให้สวย ไปลุยกันเลย!

สเปก

ต้องบอกไว้ก่อนว่า รีวิวนี้เราเน้นเรื่องการถ่ายภาพและเทคนิคการใช้กล้อง แต่เผื่อใครอยากรู้เรื่องประสิทธิภาพเครื่องด้วย ขอสรุปสั้น ๆ ว่า Samsung Galaxy S21 FE 5G รุ่นที่วางขายในไทยใช้ชิป Samsung Exynos 2100 รุ่นเดียวกับ S21 รุ่นพี่ทั้งตระกูล โดยมาพร้อมแรม 8 GB และมีพื้นที่เก็บข้อมูล 128 GB และ 256 GB ให้เลือก แต่ไม่สามารถใส่ microSD เพิ่มได้ และใส่ได้ 2 ซิม

โดยผลการทดสอบจาก Geekbench 5 ของเราได้คะแนน Multi-core ที่ 3251 คะแนน ซึ่งสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของ Galaxy S21 Ultra ที่ใช้ชิปเดียวกันอีก ส่วน 3Dmark ชุด Wild Life Stress Test ทดสอบ 20 รอบ 20 นาที ได้คะแนนสูงสุดไป 6,042 คะแนน ส่วนคะแนนต่ำสุดเริ่มที่รอบ 3 อยู่ที่ราว ๆ 4,100 คะแนน ไปจนจบการทดสอบ ก็ถือว่ามีการพัฒนาเรื่องการจัดการความร้อนได้ดีขึ้น ใช้งานได้แบบไม่ต้องกังวล

ดีไซน์

ดีไซน์ของ Samsung Galaxy S21 FE 5G เป็น Contour cut เอกลักษณ์เฉพาะ Galaxy S Series แต่จะต่างจากรุ่นพี่นิดหน่อยตรงระหว่างชุดกล้องกับบอดี้จะเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่มีรอยเชื่อมต่อเหมือนรุ่นพี่ ทำให้ฝาหลังดูเป็นชิ้นเดียวกันมากขึ้น

ซึ่งรุ่นนี้มีสีให้เลือก 4 สี คือ สีดำ Graphite, สีเขียว Olive, สีม่วง Lavender และสีขาว

หน้าจอ

หน้าจอของ Samsung Galaxy S21 FE 5G มีขนาด 6.4 นิ้ว เป็นจอ Dynamic AMOLED 2X ที่มีความละเอียด Full HD+ พร้อม Refresh Rate สูงสุดที่ 120 Hz ทำให้การใช้งานลื่นไหล พร้อมให้สีสันสดใส ใช้แต่งภาพได้สบาย ๆ แถมใช้งานกลางแจ้งก็ไม่มีปัญหาเพราะหน้าจอสว่างพอ ไม่ต้องเอามือมาป้องหรือวิ่งมาดูภาพในร่ม ดีไซน์ของหน้าจอก็เป็นแบบแบนเรียบไปทั้งแผ่นอีกด้วย ไม่มีขอบโค้ง ก็ทำให้ลากใช้งานทุกส่วนในหน้าจอได้ไม่มีปัญหา

กล้อง

Samsung Galaxy S21 FE 5G เป็นสมาร์ตโฟนเกรดเรือธง เพราะงั้นเรื่องกล้องไม่ธรรมดาอยู่แล้ว อีกทั้งรุ่นนี้ซัมซุงบอกว่าเป็นกล้องระดับโปรที่สามารถถ่าย Night Mode ได้ทุกเลนส์ อีกทั้งยังมีฟังก์ชันที่สายโซเซียลต้องชอบ โดยมีสเปกของกล้องทั้งหมด ดังนี้

  • กล้องหลังตัวบนสุดนี้เป็นกล้องมุมกว้าง 123 องศา 12 ล้านพิกเซล f/2.2
  • กล้องหลังตัวกลางเป็นกล้องหลัก 12 ล้านพิกเซล f/1.8 พร้อม OIS
  • กล้องหลังตัวล่างสุดเป็นกล้องซูม 3 เท่า 8 ล้านพิกเซล f/2.4
  • กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล f/2.2

เทคนิคการถ่าย

1. ใช้เลนส์ที่หลากหลาย

เริ่มต้นเทคนิคแรก คือใช้เลนส์ที่หลากหลายของกล้องให้เป็นประโยชน์ ซึ่งความแตกต่างของแต่ละเลนส์ ไม่ใช่แค่การซูมภาพ ว่าจะดึงภาพจากระยะไกลเข้ามาได้ใกล้แค่ไหน แต่หมายถึงทัศนมิติหรือ Perspective ของภาพ

การถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างและเลนส์ซูม 3 เท่าของ Galaxy S21 FE 5G แม้ว่าจะพยายามจัดขนาดนางแบบในภาพให้เท่า ๆ กันแล้ว แต่สัดส่วนของร่างกายและลักษณะฉากหลังจะต่างกัน เพราะใช้เลนส์ระยะต่างกัน

อย่างภาพที่ใช้เลนส์มุมกว้าง เวลาถ่ายก็ต้องเข้าใกล้นางแบบมากกว่าเลนส์ปกติ เพื่อให้ขนาดนางแบบในภาพออกมาเท่า ๆ กับเลนส์ปกติ ทำให้ภาพที่ออกมาจะเห็นฉากหลังมุมกว้างกว่า นอกจากนี้ด้วยลักษณะพิเศษของเลนส์มุมกว้าง ทำให้เราสามารถวางช่วงตัว หรือแขนขาให้อยู่ขอบภาพเพื่อให้ดูตัวเรียวกว่าปกติ

แต่ถ้าต้องการให้ฉากหลังกับนางแบบอยู่ใกล้ชิดกัน เช่น อยากให้ป้ายหรืออะไรสักอย่างที่เด่นในฉากหลัง ดูมีขนาดใหญ่เข้ามาใกล้ชิดกับนางแบบด้านหน้า ก็จะใช้เลนส์ซูม 3 เท่า มาถ่าย ซึ่งเลนส์ซูมจะมีมุมภาพที่แคบ จึงสามารถดึงวัตถุในฉากหลังเข้ามาใกล้ตัวแบบได้มากกว่าเลนส์ปกติ

การที่ Samsung Galaxy S21 FE 5G มีเลนส์ถึง 3 แบบในตัว ก็ทำให้คุณสามารถสร้างมุมภาพได้หลากหลายเพียงพกมือถือแค่เครื่องเดียวเท่านั้น

2. การจัดท่าทางและองค์ประกอบภาพ

เทคนิคนี้สายตาคุณต้องซอกแซกหน่อย ว่าอะไรน่าจะสามารถเป็นกรอบ หรือเป็นเส้นนำสายตาให้ภาพได้บ้าง

ซึ่งภาพถ่ายจาก Samsung Galaxy S21 FE 5G ก็ออกมาดูดีแม้ว่าจะถ่ายโหมดปกติ กล้องมี AI ช่วยวิเคราะห์และปรับแต่งภาพ เกลี่ยแสงสีให้เหมาะสมอัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปตกแต่งต่อเยอะ

แต่ถ้าอยากได้ภาพความสดใสของนางแบบเต็ม ๆ ก็ใช้โหมด Portrait แล้วเลือกฉากหลังที่มีประกายแสง หรือส่วน Highlight หน่อย ก็จะได้โบเก้ที่สวยงาม ซึ่ง Galaxy S21 FE 5G สามารถไปเลือกรูปแบบโบเก้ได้หลังจากถ่ายแล้วก็ได้ คือ หน้างานคุณแค่มีสมาธิกับการจัดเฟรมถ่ายรูปก็พอ แล้วไปเลือกรูปแบบฉากหลังละลายได้ภายหลัง

นอกจากนี้รูปแบบฉากหลังละลายแล้ว ยังสามารถเลือกแบบเจ๋ง ๆ ได้อีกหลายแบบเลยเช่นแบบ Backdrop ที่ AI ในเครื่องจะสร้างสีฉากหลังให้สอดคล้องกับสีในภาพ หรือแบบ Color Point ที่ทำฉากหลังให้เป็นขาว-ดำ หรือทำแบบ High-Key หรือ Low-key ก็ได้

3. แสง

แสงที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง แสงที่เหมาะสมกับสิ่งเราต้องการถ่าย เช่น ถ่ายวิว แสงตอนเช้าหรือตอนเย็นก็จะให้ภาพที่สวยกว่าแสงจัด ๆ ในตอนกลางวัน ซึ่งก็ต้องเลือกกันตั้งแต่เวลาถ่ายรูปให้เหมาะสม

ส่วนถ้าเป็นการถ่ายบุคคล ก็สามารถเลือกแสงนุ่ม ๆ จากหน้าต่าง หรือแสงสะท้อนฟุ้ง ๆ ก็เหมาะกว่าแสงคม ๆ กลางแจ้งแน่นอน ซึ่งเราก็สามารถสร้างแสงนุ่ม ๆ นี้ได้โดยหาวัตถุสีขาวเข้าไปสะท้อนแสง และปรับความสว่างของภาพเวลาถ่ายจากกล้องให้เหมาะสมได้เลย

4. ฟิลเตอร์

การแต่งภาพด้วยฟิลเตอร์ เชื่อว่าแต่ละคนคงมีแอปฯ แต่งภาพในใจอยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการแต่งภาพแบบคุมโทน ก็สามารถใช้ฟังก์ชัน My Filter ในกล้องหรือแอปฯ Gallery ของซัมซุงได้ แค่เลือกฟิลเตอร์ระหว่างถ่ายรูป หรือกด Edit รูปที่ต้องการจากแอป Gallery เสร็จแล้วเลือก My Filter ก็สามารถแต่งสีภาพโดยอ้างอิงโทนสีจากภาพอื่นที่เราชอบได้เลย เมื่อได้ฟิลเตอร์ส่วนตัวที่ชอบแล้วเซฟเก็บไว้ใช้ครั้งต่อๆ ไปได้ เพิ่มได้สูงสุด 99 แบบ ทำให้เราตกแต่งภาพคุมโทนสีส่วนตัวได้ง่าย ๆ

นอกจากเพิ่มสติกเกอร์เข้าไปได้แล้ว ยังสามารถลบวัตถุในภาพที่ไม่ถูกใจออกไปได้ ด้วยคำสั่ง Object Eraser แค่เลือกรูปจากในแอป Gallery กดปุ่ม Edit จากนั้นก็กด 3 จุด เพื่อเลือก Object Eraser แล้วแตะวัตถุที่ต้องการลบ เท่านี้ก็เรียบร้อย ลองดูผลงานก่อนและหลังได้

5. รู้ข้อจำกัดของเครื่องมือ

เทคนิคแรกของการถ่ายยามค่ำคืน คือ รู้ข้อจำกัดของเครื่องมือตัวเอง ปกติสมาร์ตโฟนจะใช้เลนส์หลักถ่ายกลางคืนได้ดีที่สุด เพราะเป็นเลนส์ที่สว่างที่สุด มีรูรับแสงกว้างที่สุด เราจึงควรใช้เลนส์หลักถ่ายภาพเวลากลางคืนเป็นหลัก

นอกจากนี้การใช้ Night Mode ก็ต้องเข้าใจว่าเหมาะสำหรับวัตถุที่ไม่ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และรอการถ่ายระหว่างรูปได้ เพราะ Night Mode ต้องอาศัยเวลาประมวลผลนานกว่าปกติกว่าจะพร้อมถ่ายรูปต่อไป ซึ่งถ้าคุณใจเย็นพอ ก็จะได้ผลงานสวย ๆ

จะเห็นว่ารูปนางแบบยามค่ำคืนด้วย Night Mode ของ Samsung Galaxy S21 FE 5G สว่างกว่าโหมดปกติอยู่ระดับหนึ่งเลย แล้วโหมดนี้ทำให้ถ่ายภาพกลางคืนด้วยเลนส์มุมกว้างหรือเลนส์ซูมได้ดีกว่าโหมดปกติมาก ชนิดถ้าคุณต้องการถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้างหรือเลนส์ซูมเวลากลางคืน ก็ควรต้องเปิด Night Mode แทนการถ่ายธรรมดาไปเลย เพราะมี AI Multi Frame Composition รวมภาพ 14 เฟรมเข้าเป็น 1 ภายใน 5 วินาที เพื่อช่วยลด noise และความเบลอที่อาจเกิดขึ้น และทำให้ภาพสว่างขึ้นมา

6. โหมด Pro

เทคนิคต่อมาคือการใช้โหมด Pro เข้ามาช่วยถ่ายกลางคืน ซึ่งโหมด Pro ของ Galaxy S21 FE 5G นั้นสามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ได้นานสูงสุดถึง 30 วินาที แถมสามารถดันความไวแสงหรือ ISO ได้สูงสุดถึง 3200 ด้วย จะทำให้จัดการภาพในที่แสงน้อยได้อย่างใจมากขึ้น เอาไปถ่ายดาวก็ยังไหว แถมเซฟออกมาเป็นไฟล์ RAW ให้เอาไปแต่งต่อได้ด้วย

แต่การเปิดหน้ากล้องนาน ๆ ก็ต้องมีขาตั้งกล้องด้วย ไม่สามารถใช้มือถือเครื่องเพื่อถ่ายได้แน่ ๆ

7. วิดีโอ

วิดีโอ 4K 60 fps จาก Galaxy S21 FE 5G ภาพจะมืดกว่าวิดีโอแบบ 4K 30 fps เพราะว่าเฟรมภาพเยอะกว่าเท่าตัว ทำให้กินแสงมากกว่า สูงสุด 1 stop เพราะฉะนั้นเทคนิคการถ่ายวิดีโอในยามค่ำคืนคือใช้แค่ 30 fps จะได้ภาพที่สว่างกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ Speed shutter หรือ Shutter angle ด้วย

อีกทั้งยังมีโหมด Dual Recording ที่สามารถถ่ายวิดีโอทั้งกล้องหน้ากล้องหลังได้พร้อมกันแบบนี้ แล้วก็สามารถลากกรอบเล็กในวิดีโอไปมาระหว่างถ่ายได้เลย หรือจะกดสลับกรอบไปมาก็ได้

ข้อสังเกต

กล้อง Galaxy S21 FE 5G นั้นไม่มีโหมดมาโครโดยเฉพาะ การถ่ายภาพระยะใกล้ภาพอาจไม่ได้ชัดทั้งภาพ ก็ต้องค่อย ๆ ถ่าย ค่อย ๆ ซูม

ราคา

Samsung Galaxy S21 FE 5G เปิดตัวด้วยราคาเริ่มต้น 22,900 บาทสำหรับรุ่น 128 GB ส่วนรุ่น 256 GB ตั้งราคาไว้ 25,900 บาท

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส