รีวิว OPPO Enco X2 – หูฟัง TWS งบ 6,000 ที่เสียงดี ใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่ !
Our score
8.8

OPPO Enco X2

จุดเด่น

  1. เป็นหูฟังที่สามารถเล่นเสียงได้ดีในทุกย่านความถี่ แม้จะเล่นเสียงเบสเบา แต่เป็นเสียงเบสที่ดี
  2. โหมด EQ ที่สามารถตั้งค่าได้ง่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไรมากมาย และมีโหมดเสียงที่แต่ละคนชอบ รวมในแอปเดียว
  3. เป็นหูฟังที่ใส่สบาย ใส่แล้วให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่
  4. เชื่อมต่อได้ง่าย เมื่อเป็นสมาร์ตโฟน Android ผ่านระบบ Google Fast Pair แถมยังเป็น 1 ในไม่กี่รุ่นที่สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้ถึง 2 เครื่อง !
  5. หูฟังแบตอึดมากกกก ถ้าใช้งานไม่หนักมากสามารถใช้ได้เป็นอาทิตย์โดยไม่ต้องชาร์จกล่องชาร์จ
  6. กล่องชาร์จสามารถชาร์จกับแท่นชาร์จไร้สายได้เลย

จุดสังเกต

  1. การเชื่อมต่อกับโน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์พิเศษใด ๆ ของหูฟังได้เลย (โดยเฉพาะ EQ)
  2. ยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้แอป HeyMelody ประกอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งเสียง, เชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์, EQ หรือกระทั่ง Codec
  3. บางจังหวะที่เราใส่หูฟังเข้าออก อาจจะเกิดการลั่นคำสั่งโดยที่เราไม่ต้องการได้
  4. การออกคำสั่งผ่านการบีบ ยังมีอาการดีเลย์ให้เห็นอยู่
  5. ดีไซน์ที่เกิดข้อถกเถียงค่อนข้างมาก ว่าเหมือนแบรนด์อื่น
  • คุณภาพเสียง

    9.0

  • คุณภาพวัสดุ

    8.5

  • ความคล่องตัวในการใช้

    9.5

  • ความสามารถในการคุยโทรศัพท์

    8.0

  • ความคุ้มค่า

    9.0

หลังจากที่ OPPO ได้เปิดตัวหูฟังไร้สาย OPPO Enco X2 พร้อมกับสมาร์ตโฟนเรือธง OPPO Find X5 Pro ไป ต้องบอกว่ามีคนจับตามองอยู่พอสมควรเลย เพราะว่าเป็นความร่วมมืออีกครั้งกับ Dynaudio แบรนด์เครื่องเสียงระดับสตูดิโอจากเดนมาร์ก ออกมาเป็นหูฟังไร้สายของแท้ (TWS) รุ่นเรือธงของ OPPO รุ่นที่ 2 พร้อมฟีเจอร์ใหม่ต่าง ๆ มากมาย บทความนี้เราจะมาแบไต๋กันว่ารุ่นที่ 2 นี้มีดี มีข้อสังเกตอย่างไรบ้าง

ปีที่แล้ว ทางแบไต๋ก็ได้รีวิว OPPO Enco X รุ่นแรกเอาไว้เช่นเดียวกัน สามารถดูประกอบด้วยได้เลยนะ

ดีไซน์ของ OPPO Enco X2

ดีไซน์ของ OPPO Enco X2 ปีนี้มีความคล้ายคลึง แต่ก็แตกต่างจากปีที่แล้วอยู่บ้าง โดยกล่องชาร์จของ OPPO Enco X2 นี้เป็นทรงรี แบน เหมือนกับใน Enco X แต่ที่ต่างก็คือ ในรุ่นนี้จะไม่มีการคาดเส้นสีเทาเหมือนเดิมแล้ว แถมยังมีการย้ายตำแหน่งไฟไปอยู่ด้านในกล่องชาร์จ มีไว้แสดงสถานะของหูฟัง ว่าอยู่ในโหมดใด และบริเวณพอร์ตชาร์จอีกด้วย

ส่วนประกอบอื่น ๆ ของกล่องชาร์จก็จะมีปุ่มกด ที่รอบนี้เรียบเนียนไปกับกล่องชาร์จ (ตอนแรกหาเกือบไม่เจอ) แต่ยังสามารถใช้กดค้าง เพื่อเข้าโหมด Pair หรือโหมดเชื่อมต่อหูฟังเข้ากับอุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth ได้เหมือนเดิม แล้วก็จะมีพอร์ตชาร์จแบบ USB-C ที่ไฟบริเวณพอร์ตชาร์จจะมีไว้แสดงสถานะการชาร์จ โดยสีเหลือง แสดงว่ากำลังชาร์จอยู่ ส่วนสีเขียวแปลว่าแบตเตอรี่เต็มแล้วนั่นเอง

ส่วนด้านหลังก็ยังมี โลโก Co-Created With Dynaudio ที่ชัดเจนเหมือนกับใน Enco X เลยด้วย โดยรวมแล้วดีไซน์กล่องชาร์จของรุ่นนี้จะมีความหรูกว่า ด้วยตัวกล่องชาร์จที่เป็นสีขาวทั้งตัวนี้เอง

ส่วนตัวหูฟังก็จะเป็นดีไซน์แบบ In-Ear แต่เป็นจุกขนาดไม่ใหญ่มาก ทำให้ใส่แล้วสบายอย่างมาก ตามความเห็นแล้วเป็นหูฟังที่ใส่สบายมาก เมื่อเทียบกับหูฟัง In-Ear แบบทั่วไปแล้ว ความรู้สึกของ OPPO Enco X2 นั้นใส่สบายเหมือนไม่ได้ใส่เลย ไม่เมื่อยหู ไม่ปวดหูเวลาใส่นาน ๆ เลยด้วย นอกจากนั้นยังกันน้้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP54 เหมือนเดิม

โดย OPPO Enco X2 มีอยู่ด้วยกัน 2 สี คือสีขาว และสีดำ (แต่ในไทยมีจำหน่ายเฉพาะสีขาวนะ !)

การเชื่อมต่อกับ OPPO Enco X2

การเชื่อมต่อหูฟัง OPPO Enco X2 กับสมาร์ตโฟนนั้นทำได้ค่อนข้างง่าย ถ้าเป็นสมาร์ตโฟนของ OPPO ก็สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายดายผ่ายการเปิดฝาและกดปุ่มด้านข้างให้ไฟด้านในกล่องชาร์จเป็นสีขาวก่อน จากนั้นก็จะมีกราฟิกเด้งขึ้นมาให้เราเชื่อมต่อหูฟังได้เลยแบบง่าย ๆ แต่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟน Android รุ่นอื่น ๆ ที่ใช้ Android Version 6.0 ขึ้นไป ก็จะเด้งขึ้นมาให้เชื่อมต่อด้วยเช่นกันครับ ผ่านระบบ Google Fast Pair ที่จะช่วยให้การจับคู่เป็นครั้งแรก ทำได้ง่ายดายมากเลย ! (แต่เท่าที่ทดสอบมากับสมาร์ตโฟน OPPO ที่ใช้ ColorOS 7.1 – Android 10 จะยังไม่ขึ้นเป็นกราฟิกของ OPPO เองนะครับ จะขึ้นเป็นของ Google Fast Pair แทน)

เสียงของ OPPO Enco X2

ในด้านเสียงของ OPPO Enco X2 นั้นจัดได้ว่าทำได้ดีในทุกย่าน ในย่านใส และกลาง จำพวกเพลงที่มีเสียงร้อง ก็ให้ความรู้สึกได้ถึงความเคลียร์ของเสียง แยกกันได้ชัดเจนระหว่างดนตรีและเสียงร้อง รวมไปถึงระบบเสียงรอบทิศทางของรุ่นนี้ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน เวลาที่เราฟังเพลงต่าง ๆ หรือกระทั่งดูหนัง วิดีโอบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ก็มีการแยกเสียงรอบทิศทางที่ชัดเจน ถ้าเสียงเข้าข้างหลัง เราก็จะรู้สึกเหมือนต้นกำเนิดมาจากข้างหลังจริง ๆ โดยทาง OPPO เรียกระบบเสียงในรุ่นนี้ว่า Super DBEE และ Coaxial dual-driver five-magnet sound system นอกจากนั้นยังรองรับ Hi-Res Audio Wireless ที่ความถี่ 20 Hz ถึงประมาณ 40,000 Hz และ Golden Sound Boost (ที่ต้องตั้งค่าในแอปของเขาเอง) ด้วยนะ

ในขณะเดียวกันถ้าผู้อ่านเป็นเหมือน ๆ กับเราที่ชอบฟังเพลงเสียงเบสค่อนข้างจัด รุ่นนี้ก็ทำได้ดีเช่นเดียวกัน แต่ต้องขอบอกก่อนว่า OPPO Enco X2 นั้นมีเบสที่ไม่ได้มีการอัดแน่นมากจนเกินไป ปริมาณของเบสที่สามารถปล่อยออกมาได้ (โดยไม่ตั้งค่าเพิ่มเติม) นั้นมีไม่ได้มากนัก แต่ความรู้สึกของเบสที่ขับออกมา จะออกไปในทางเบส ‘สายหรู’ ที่จะมีความแน่น ความกระชับ แต่ไม่หนักจนเกินพอดี

ในเรื่องของระบบเสียงนี้ สามารถปรับการตั้งค่า ตามความชอบของเราได้ผ่านแอปพลิเคชัน HeyMelody ที่สามารถดาวน์โหลดได้ ทั้งบน iOS และ Android เลยด้วย

พอเราเข้ามาในแอปแล้ว หลังจากที่เราเชื่อมต่อ OPPO Enco X2 ของเราเข้ากับสมาร์ตโฟนแล้ว ก็สามารถเลื่อนไปกดที่ ENCO Master EQ เพื่อตั้งโหมดเสียงได้แบบง่าย ๆ เลยด้วย โดยจะประกอบไปด้วย

  • Dynaudio Real ที่จะให้เสียงที่สมจริง ตรงกับเสียงต้นฉบับมากที่สุด (ปกติแล้ว OPPO Enco X2 จะตั้งโหมดนี้เอาไว้แบบอัตโนมัติ)
  • Dynaudio Simple & Clear ที่จะให้เสียงที่มีความเรียบ และใส ตามชื่อโหมด แต่ในขณะเดียวกัน ก็จะทำให้เพลงที่มีเสียงร้องมีเสียงที่ชัดขึ้น
  • Dynaudio Punchy โหมดนี้จะให้เสียงที่มีเบสหนักแน่นกว่าโหมดอื่น พอเปิดโหมดนี้แล้วจะให้เสียงเบสที่มากขึ้นกว่าปกติ แต่ก็ไม่ได้มากจนเกินพอดี ตามที่ได้เล่าเอาไว้ตอนแรก (เราชอบเปิดโหมดนี้ทิ้งไว้นะ เบสหนักแน่นดีมาก)
  • Enco X Classic คาดว่าเป็นโหมดเสียงที่ดึงมาจากใน OPPO Enco X แต่เสียงที่ได้จะมีความเบสมากขึ้นคล้าย ๆ ใน Dynaudio Punchy แต่จะมีการเร่งเบสที่ไม่มากเท่า

หูฟัง OPPO Enco X2 นั้นรองรับการเล่นเสียงผ่าน Codec 3 รูปแบบด้วยกัน นั่นก็คือ LHDC, LDAC, AAC และก็ SBC ซึ่งเราสามารถตั้งค่าเปิดได้ผ่านแอปพลิเคชัน HeyMelody เหมือนเดิมเลย (Codec LDAC ต้องมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ของหูฟังเป็นเวอร์ชัน 133.133.112 หรือมากกว่าผ่านแอปฯก่อนด้วยนะ !)

นอกจากนั้นภายในแอปยังสามารถตั้งค่าการตัดเสียงรบกวนผ่านระบบ ANC หรือ Active Noise Cancellation ได้อีกด้วย เพียงแค่เข้าไปในแอป HeyMelody ก็จะมีให้ตั้งค่าโหมดในการตัดการกับเสียงถึง 3 รูปแบบ (ไม่ใช่ 4 รูปแบบ เหมือนใน OPPO Enco X แล้วนะ) ประกอบไปด้วย Noise Cancellation ที่จะตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ซึ่งในรุ่นนี้ทำได้ค่อนข้างดีทีเดียว ด้วยฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนแบบคลืนความถี่กว้างพิเศษ (Ultra-Wide Frequency Active Noise Cancellation) ที่ทาง OPPO เคลมว่าสามารถตัดเสียงรบกวนได้ถึง 45 dB เลย ทำให้ตัดเสียงรบกวนได้เงียบมากครับ เราเคยเอาไปขึ้นรถไฟฟ้า แล้วเปิดโหมดนี้ไปด้วย เปิดเพลงไปด้วย เล่นซะไม่ได้ยินเสียงเสียงประกาศสถานีถัดไป เกือบนั่งรถเลยแหน่ะครับ ! แล้วก็จะมีปุ่มปิดโหมด ANC และก็จะมีปุ่ม Transparency ที่จะทำให้หูฟัง รับเสียงจากรอบข้างและส่งเข้าไปในหูของเรา โหมดนี้ทำให้เราได้ยินเสียงรอบข้างได้ดี เสมือนเราถอดหูฟังออกเลยล่ะครับ

โหมดการตัดเสียงรบกวนของ OPPO Enco X2 ที่มีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน

ส่วนการตั้งค่า Golden Sound Boost ก็สามารถตั้งค่าผ่านการเลื่อนลงไปด้านล่างแล้วกดที่เมนู Golden sound Sound เพื่อเข้าการทดสอบเสียงผ่านแอปได้เลย แอปจะทำการวัดว่าหูเราต้องได้รับการบูสต์ในคลื่นความถี่ใดบ้าง เพื่อที่จะให้หูของเรา รับเสียงได้ครบทุกคลื่นความถี่ หลังจากทดสอบเสร็จแล้ว ผลที่ได้ก็จะเซฟเอาไว้ในแอป ให้เราสามารถเปิด-ปิด หรือทดสอบใหม่ได้อีกด้วย สามารถดูภาพด้านล่างเพื่อดูการทดสอบ และผลที่ได้แบบคร่าว ๆ ได้เลย !

การควบคุม OPPO Enco X2

การควบคุมหูฟัง OPPO Enco X2 นั้นสามารถทำได้ผ่านหูฟังทั้งข้างซ้ายและขวา จะมีความแตกต่างจาก OPPO Enco X เล็กน้อย แทนที่จะเป็นการแตะที่ตัวหูฟังเฉย ๆ ท่ามาตรฐานของรุ่นนี้จะใช้การ ‘บีบ’ ที่ก้านของหูฟังให้โดนบริเวณด้านแบนของก้านหูฟังด้วยแทนครับ ค่าเริ่มต้นก็จะมี

  • ถ้าเราบีบแบบเร็ว ๆ 1 ครั้ง จะเป็นการเล่น – หยุดเพลง
  • ถ้าเราบีบ 2 ครั้ง จะเป็นการสั่งให้เล่นเพลงถัดไป
  • ถ้าเราบีบ 3 ครั้ง จะเป็นการสั่งให้เล่นเพลงก่อนหน้า
  • ถ้าสไลด์ที่ด้านแบนของก้านหูฟัง จะเป็นการเพิ่ม-ลดเสียง
  • ถ้าบีบที่ก้านค้างไว้ 1 วินาที จะเป็นการเปิด-ปิดโหมด Moise Cancellation

ทั้งหมดนี้สามารถใช้ได้กับทั้งหูฟังข้างซ้ายและข้างขวาเลย แต่เราก็สามารถเปลี่ยนการตั้งค่าที่แอป HeyMelody เช่นเดียวกัน โดยแต่ละท่าในการควบคุมก็สามารถเปลี่ยนคำสั่งได้แตกต่างกัน เช่นถ้าบีบ 1 ครั้ง จะสามารถเปลี่ยนเป็นเล่นเพลงถัดไป หรือก่อนหน้าได้เท่านั้น ในขณะที่แตก 2-3 ครั้ง สามารถตั้งให้เปิด Voice Assistant ได้ด้วย เป็นต้น ทั้งหมดนี้สามารถตั้งค่าแยกกันได้ในแอปด้วยนะ

ฟีเจอร์ที่เราว่าเด็ด และน่าใช้งานมากอีกฟีเจอร์ก็คือการเชื่อมต่อหูฟัง OPPO Enco X2 พร้อมกัน 2 เครื่อง ผ่านฟีเจอร์ Multi-Point แต่ใน OPPO Enco X2 จะเรียกว่า Dual Connection ซึ่งสามารถเปิด แล้วทำการเชื่อมต่อทั้งสมาร์ตโฟนของเรา และโน้ตบุ๊กไปพร้อมกันได้ เมื่อเปิดแล้ว อุปกรณ์ไหนที่เล่นเสียง ก็จะนำเอาเสียงเข้ามาเล่นในหูฟังได้เลย โดยที่ไม่ต้องสลับการเชื่อมต่อใด ๆ เลย แต่เราต้องตั้งค่าในแอป HeyMelody ก่อนนะ (และก็ไม่สามารถใช้ Codec แบบ LDAC ได้ด้วย เนื่องจากปัญหาด้านข้อมูลที่ต้องส่งมากกว่าปกติ)

ตัวอย่างการเชื่อมต่อ OPPO Enco X2 กับอุปกรณ์พร้อมกัน 2 เครื่อง

แบตเตอรี่ของ OPPO Enco X2

ด้านแบตเตอรี่ของ OPPO Enco X2 นั้น ทาง OPPO ได้แจ้งบนเว็บไซต์ว่า ตัวหูฟังมีแบตเตอรี่ 57 mAh และกล่องชาร์จมีแบตเตอรี่ 566 mAh ซึ่งสามารถใช้งานได้ 5 ชั่วโมง ใน 1 ชาร์จ และ 20 ชั่วโมงเมื่อรวมกล่องชาร์จแล้ว (เมื่อเปิดโหมด ANC เล่นเสียงที่ระดับ 50% และใช้ระบบเสียง LHDC) และสูงสุดที่ 9.5 ชั่วโมง ใน 1 ชาร์จ และ 40 ชั่วโมงเมื่อรวมกล่องชาร์จแล้ว (เมื่อปิดโหมด ANC เล่นเสียงที่ระดับ 50% และใช้ระบบเสียง AAC) ซึ่งจากการใช้งานของเราแล้ว พบว่ายังไม่ได้มีการชาร์จแบตเตอรี่ที่กล่องชาร์จเลย มากว่า 1 สัปดาห์แล้ว และแบตเตอรี่ของกล่องชาร์จยังอยู่ที่ 60 % (เราเปิดเสียงที่ 70% ปิดโหมด ANC เป็นส่วนมาก และใช้ระบบเสียง AAC)

ส่วนถ้าเป็นเรื่องของการชาร์จ เราสามารถชาร์จแบตเตอรี่ของกล่อง OPPO ผ่านสายชาร์จแบบ USB-C โดยตรง หรือผ่านการชาร์จไร้สายบนที่ชาร์จที่รองรับมาตรฐาน Qi Wireless ก็ได้เช่นกันนะ !

OPPO Enco X2 ขณะที่กำลังชาร์จบนแท่นชาร์จไร้สาย (Soucrce : Weibo)

ข้อสังเกตหลังจากการใช้งาน

ปํญหาดั้งเดิมจากใน OPPO Enco X ที่บางจังหวะที่เราใส่หูฟังเข้าออก ก็อาจจะมีการลั่นคำสั่งนั้นยังคงมีอยู่ เนื่องจากหูฟังมีการตรวจจับการใส่หูฟัง และถอดออกแบบอัตโนมัติ ทำให้บางครั้งหูฟังหยุดเล่นจากการถอดออกแล้ว แต่มือของเราไปบีบโดนบริเวณที่ควบคุมหูฟัง ทำให้เพลงเล่นต่อทั้ง ๆ ที่เราถอดหูฟังออกไปแล้วได้ และด้านแบนที่ใช้ควบคุมหูฟังนั้นยังสามารถควบคุมได้ค่อนข้างยาก บางครั้งต้องบีบแรงเกินความจำเป็น หูฟังถึงจะรับคำสั่งที่เราบีบไปได้ (โดยเฉพาะการบีบหูฟังพร้อมกัน 2 ครั้งเพื่อข้ามเพลง) รวมถึงการออกคำสั่งผ่านการบีบนั้น ยังมีอาการดีเลย์ให้เห็นอยู่ คาดว่าน่าจะมีการอัปเดตซอฟต์แวร์ของหูฟังมาให้ในอนาคตเพื่อแก้ปัญหาจุดนี้ (เหมือนที่มีการตั้งค่า ANC และ EQ จากในแอปเลย) นอกจากนั้น การตั้งค่าทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ANC หรือ EQ ไม่สามารถทำได้ หากเราใช้งาน OPPO Enco X2 กับคอมพิวเตอร์ หรือโน้ตบุ๊กด้วย

สรุปและราคา

OPPO Enco X2 เป็นหูฟังไร้สายแบบ TWS เรือธงรุ่นใหม่จากทาง OPPO ซึ่งเป็นหูฟังที่มีคุณภาพดี สามารถเล่นเสียงในหลากหลายย่านความถี่ของเสียง ไม่ว่าจะเป็นเสียงสูง เสียงกลาง หรือเสียงเบส ในราคาที่ค่อนข้างเข้าถึงได้ รวมถึงยังเป็นมิตรกับสมาร์ตโฟนทุกแบรนด์ ผ่านการเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน HeyMelody อีกด้วย หากใครที่กำลังมองหาหูฟังที่สามารถเล่นเสียงได้รอบด้าน ทำได้ค่อนข้างดีในราคาที่รับไหว อยากให้ลองพิจารณา OPPO Enco X2 ตัวนี้ดูครับ

สำหรับราคาของ OPPO Enco X2 นั้นสนนราคาอยู่ที่ 5,999 บาท (เท่ากับ OPPO Enco X เลย)