Play video

Fitbit Flex สายรัดข้อมือตรวจสุขภาพ

ราคา 4,590 บาท

จุดเด่น

  • ตัวเครื่องแยกออกจากยางรัดข้อมือ ทำให้สามารถเปลี่ยนสายยางตามสไตล์ที่ชอบหรือเปลี่ยนขนาดสายยางได้ง่ายๆ
  • กันน้ำได้ 10 เมตร
  • มีไฟบอกสถานะที่ตัวเครื่อง เมื่อแตะเบาๆ 2 ครั้งก็จะบอกได้ว่าวันนี้เราเดินไปมากแค่ไหนแล้ว
  • เมื่อเดินได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ตัว Flex จะสั่นพร้อมกระพริบไฟแสดงความยินดี
  • สามารถบันทึกข้อมูลการนอนพร้อมสั่นปลุกในเวลาที่กำหนด
  • สามารถซิงค์ข้อมูลจากตัวกำไลเข้าคอมพิวเตอร์ได้โดยตรงผ่าน Dongle USB ที่แถมให้ในชุด
  • ซิงค์ข้อมูลแบบไร้สาย
  • สามารถอ่านข้อมูลสุขภาพที่เก็บได้ ทั้งจากในเว็บและแอปของสมาร์ทโฟน
  • สามารถใส่รายละเอียดอาหารที่รับประทาน ปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวันได้ภายในแอป
  • สำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ในเครือ Fitbit อยู่แล้วอย่างเครื่องชั่งน้ำหนัก Aria ก็ใช้แอปตัวเดียว
  • ดูข้อมูลร่วมกันไปได้เลย

จุดสังเกต

  • ใช้การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth Low Energy ทำให้ใช้ได้กับ Android 4.3 ขึ้นไปและ iPhone 4s
  • ถ้าต้องการให้ Fitbit ให้คำแนะนำการใช้ชีวิตที่ดี (Trainer) พร้อมวิเคราะห์วิถีชีวิตอย่างละเอียดต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกปีละ $49.99 (Jawbone Upจะให้คำแนะนำในแอปเลย)
  • เป็นแค่กำไล ไม่สามารถแสดงนาฬิกาได้ ก็ต้องใส่นาฬิกาข้อมือเพิ่มอยู่ดี
  • การวัดเกิดจาก accelerometer ทำให้ใช้สมาร์ทโฟนวัดแทนได้อยู่แล้วแถมได้ข้อมูลการเดินทางที่ละเอียดกว่าด้วย
  • บันทึกการนอนได้ แต่ข้อมูลไม่ละเอียดสู้แอปอย่าง Sleep Cycle ไม่ได้ แถมยังเป็นการปลุกตรงๆไม่ได้วิเคราะห์เวลาที่ควรปลุก
  • การเปลี่ยนโหมดระหว่างกลางวันกับเก็บข้อมูลตอนกลางคืนค่อนข้างยาก ต้องเปลี่ยนผ่านแอปหรือเคาะที่เครื่อง 5 ครั้ง

Garmin Vivofit สายรัดข้อมือตรวจสุขภาพพร้อมนาฬิกา

ราคา 4,800 บาท

จุดเด่น

  • มีหน้าจอในตัว ทำให้แสดงเวลา วันที่ จำนวนก้าว เป้าหมายในการเดิน ระยะทางแคลอรี่ที่เผาผลาญได้โดยตรง ไม่ต้องรออ่านผลกับสมาร์ทโฟน
  • แจ้งเตือนให้ยืดเส้นยืดสายได้จากหน้าจอโดยตรง (ขีดแดงเท่ากับนั่งนาน 1 ชั่วโมง ขีดเล็กๆ คือ 15 นาที)
  • สามารถเปลี่ยนโหมดระหว่างปกติกับตรวจจับการนอนได้ง่ายๆ จากหน้าเครื่อง
  • เก็บข้อมูลการใช้งานได้ยาวนาน 30 วัน ทำให้ไม่ต้องซิงค์กับสมาร์ทโฟนบ่อยๆ
  • แบตอยู่ยาวนานมาก ใช้ได้เป็นปีโดยไม่ต้องเปลี่ยนแบต
  • สามารถเชื่อมต่อกับบริการ MyFitnessPal เพื่อบันทึกการกินอาหารได้
  • สามารถดูข้อมูลได้ทั้งในเว็บและในแอป
  • ตัวเครื่องสามารถดึงออกจากสายได้ ทำให้สามารถเปลี่ยนสายเป็นสีที่ต้องการได้ง่าย
  • สามารถเชื่อมต่อกับเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้
  • กันน้ำได้ 50 เมตร

จุดสังเกต

  • เนื่องจากแบตใช้ได้นานมาก จึงไม่มีฟังก์ชั่นการสั่น หรือส่งเสียงใดๆ ทั้งนั้น ต้องดูจออย่างเดียว
  • เพราะแจ้งเตือนไม่ได้ ทำให้ใช้เป็นนาฬิกาปลุกไม่ได้
  • การตรวจสอบวิถีชีวิตด้วย accelerometer ก็สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนได้ (ยกเว้นถ้าใช้อุปกรณ์วัดการเต้นของหัวใจด้วย)
  • ข้อมูลที่แสดงในแอป เป็นแค่ข้อมูลดิบ ไม่ได้มีคำแนะนำว่าควรปรับปรุงการใช้ชีวิตอย่างไร กราฟการนอนหมายความว่าอย่างไร ก็ต้องศึกษาเอง