TOZO เป็นแบรนด์หูฟังที่กำเนิดในอเมริกา ซึ่งกำลังมาแรงในช่วงนี้ เพราะทำหูฟังไร้สายแบบ TWS ที่คนฮิต ๆ ใส่กันนี่ในราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง หาซื้อง่าย เข้าถึงง่าย คนก็ใช้กันเยอะ ซึ่ง TOZO Golden X1 ที่เรารีวิวในวันนี้เป็นหูฟังแบบ TWS รุ่นท็อปเลย ใส่เทคโนโลยีสูงสุดของแบรนด์จัดเต็ม

เสียง

เรื่องเสียง TOZO Golden X1 เป็นตัวท็อปของค่าย ก็จัดเต็มไดรเวอร์แบบไฮบริด ให้มาข้างละ 2 ตัว เป็น Dynamic Driver ขนาด 12 mm ที่ให้เบสได้ลงต่ำถึง 12 Hz ลึกกว่าที่หูคนทั่วไปจะได้ยินที่ 20 Hz และ Balanced Armature จาก knowles แบรนด์ผู้เชี่ยวชาญด้านไดรเวอร์แบบนี้อีก 1 ตัว จึงให้เสียงแหลมได้ถึง 44,100 Hz ก็มากกว่าที่หูมนุษย์จะได้ยินที่ 20,000 Hz อีกด้วย

ซึ่งด้วยการตอบสนองย่านเสียงกว้างขนาดนี้ และรองรับ Codec เสียง LDAC จากโซนี่ที่ส่งข้อมูลเสียงระดับนี้ได้ ทำให้ได้ตรา Hi-Res Audio Wireless จาก Japan Audio Association ซึ่งทั้ง 3 โลโก้โชว์อยู่ด้านในเป็นสีทองตรงนี้

แน่นอนว่าการใช้ LDAC เพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงสุด คุณต้องฟังเพลงผ่านสมาร์ตโฟน Android ส่วน iPhone จะใช้ได้แค่ AAC และ SBC ซึ่งหูฟังรุ่นนี้ก็รองรับทั้ง 2 Codec นี้เช่นกัน

แล้วเสียงของ TOZO Golden X1 เป็นยังไง โดยวัดจากการ Settings แบบมาตรฐาน ไม่มีปรับ EQ หรือชดเชยอะไรก่อนเลยนะ คือถ้าเปิดโหมด Noise Cancellation ตัดเสียงภายนอกไว้ จะให้เสียงแน่นมาก ย่านเบสสั่นโสตประสาทแบบรู้สึกถึงความสั่นไหวในรูหูเลย แถมเป็นเบสที่มีรายละเอียดด้วย ไม่ใช่เบสบวม ๆ มันจึงไม่กลบเสียงกลางหรือเสียงแหลม เสียงร้องหรือเสียงสแนร์ก็ยังสดใส เชิดหัวออกมาจากเบสที่หนักแน่นอยู่ดี เป็นเสียงอุ่น ๆ ที่แพงเกินค่าตัว ซึ่งฟากของเสียงแหลมก็ต้องให้เครดิตตัว BA Driver ของ Knowles ด้วย ที่ทำให้เสียงแหลมแสดงตัวชัดเจนอยู่ ส่วนเรื่องการตัดเสียงก็ทำได้ดี เปิด ANC แล้วแทบไม่ได้ยินเสียงภายนอกเลย ถือว่าทำได้ในระดับมาตรฐานที่ควรจะเป็น

แต่ถ้าคุณเปลี่ยนโหมดจาก Noise Cancellation เป็นโหมดอื่น ๆ อย่าง Normal หรือ Transparency เสียงจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบเลย เสียงเบสจะจางลงไปมาก เหลือเสียงกลาง เสียงแหลมที่ยังเด่นอยู่ ซึ่งบางคนอาจจะชอบเสียงแบบที่เบสน้อย ๆ หน่อยแบบนี้ก็ได้

ซึ่งโหมด Transparency ก็ทำงานได้ดีนะ ใช้แล้วได้ยินเสียงรอบข้างชัดเจน ซึ่งน่าจะชัดกว่าตอนไม่ใส่หูฟังด้วย จะได้ยินเสียงกลาง-แหลมชัดขึ้น แล้วก็สามารถระบุตำแหน่งซ้าย-ขวาได้ดีเลย

นอกจากนี้ TOZO Golden X1 ยังปรับแต่งการทำงานได้อย่างหลายอย่างผ่านแอป TOZO ปรับรูปแบบการสัมผัสที่หูให้เป็นคำสั่งอื่น ๆ ก็ได้

หลังจากลงแอป สิ่งแรกที่อยากให้ลองใช้คือ Eartune ระบบปรับเสียงให้เหมาะกับการได้ยินของเรา อย่างที่รู้กันว่าประสาทรับเสียงของคนเรา จะเปลี่ยนแปลงและเสื่อมลงตามอายุขัย TOZO เลยทำโปรแกรมจูนออกมา

วิธีทำโปรไฟล์เสียงของตัวเองก็ง่าย ๆ ให้อยู่ในห้องเงียบ ๆ แล้วกดเทสต์ Eartune แอปจะให้เราตอบช่วงอายุกับเพศกับปรับระดับเสียงของหูฟังให้เหมาะสมก่อน แล้วเริ่มให้เราฟังคลื่นเสียงสูง-ต่ำจากหูฟัง เราแค่ตอบว่าได้ยินหรือไม่ได้ยินเสียงเท่านั้นเอง สุดท้ายก็จะได้โปรไฟล์เสียงส่วนตัวมา

ลองทำ Eartune แล้วได้กราฟการชดเชยเสียงแบบนี้

นอกจากนี้เรายังสามารถปรับ EQ เสียงให้ถูกใจได้ด้วยตัวเองด้วย โดยสามารถปรับด้วยตัวเองได้ 10 Band หรือเลือกจาก Preset ที่มีมาให้ 10 แบบก็ได้

และยังสามารถปรับรูปแบบการตัดเสียงรบกวนได้อีก 6 แบบในแอป โดยมีโหมดพิเศษอย่าง Reduce Wind Noise เพื่อลดเสียงรบกวนของลมภายนอก หรือ Leisure Mode ที่จะตัดเสียงรบกวนในระดับที่ TOZO บอกว่ารู้สึกสบายหู และยังสามารถเลือกระดับด้วยตัวเองในโหมด Custom Pattern ก็ได้
เรื่องที่ชอบอีกอย่างของ TOZO Golden X1 คือมันรองรับ Bluetooth 5.3 และ Multipoint ทำให้เชื่อมอุปกรณ์ 2 ตัวเข้ากับหูฟังพร้อมกันได้ เช่นคุณเชื่อมต่อ Notebook กับสมาร์ตโฟนเข้ากับหูฟังพร้อมกัน แล้วเวลาคุณดูคลิปในโน้ตบุ๊กอยู่ มีคนโทรเข้ามือถือ เราก็สลับไปใช้งานเสียงจากมือถือ รับสายแล้วคุยที่หูฟังได้เลย สะดวกมาก!

ดีไซน์

มาดูดีไซน์กันต่อ ตัวเคสของหูฟังรุ่นนี้เป็นทรงไข่ขนาดย่อม ๆ ขนาดกำลังพอดีในกำมือ ด้านบนก็เป็นโลโก้ TOZO สีทอง ส่วนด้านหลังเป็นช่องชาร์จแบบ USB-C ที่เมื่อเสียบชาร์จไฟด้านหน้าก็จะติดขึ้นมาบอกสถานะ และหูฟังรุ่นนี้สามารถเอาไปวางชาร์จไร้สายได้ด้วย

ซึ่งทาง TOZO เคลมว่าหูฟังรุ่นนี้ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุด 8 ชม./ชาร์จ ที่ความดัง 50% และปิดการตัดเสียงรบกวน ส่วนถ้าเปิดระบบตัดเสียงรบกวนจะเหลือ 5 ชั่วโมง ที่นำกลับไปชาร์จกับเคสจะได้เวลาสูงสุด 32 ชม

เห็นด้านนอกเรียบ ๆ แต่ด้านในแปลกตาไม่น้อย สิ่งแรกที่คุณเห็นเมื่อเปิดฝาคือจอ LCD แสดงข้อมูลชัดเจนว่าแบตเตอรี่ที่เคสเหลือเท่าไหร่ แล้วแบตที่หูฟังแต่ละข้างมีแค่ไหน ไม่ต้องดูปริมาณแบตเหลือจากสีไฟ หรือการกระพริบของไฟเหมือนแบรนด์อื่น ๆ แล้วก็เห็นชัด ๆ เลยว่าเราเก็บหูฟังถูกต้องไหม เพราะถ้าใส่ไม่เข้าที่ มันจะไม่ขึ้นว่าชาร์จ และด้านในนี้จะมีปุ่มเล็ก ๆ ที่กดค้างเพื่อเข้าโหมด Pair อุปกรณ์ใหม่ได้

มาดูตัวหูฟัง TOZO Golden X1 ก็มีดีไซน์ไม่เหมือนใคร ขนาดตัวเล็ก ใส่เข้าไปในหูได้สบาย ๆ ไม่เจ็บหู ถ้าใส่พอดีแล้วก็ไม่หลุดออกจากหูง่าย ๆ แล้วยังป้องกันน้ำในระดับ IPX6 หรือโดนน้ำหยด โดนฝน โดนเหงื่อไม่เป็นไร แต่ไม่ใช่ระดับที่แช่น้ำได้นะ

ส่วนเรื่องจุกหูฟัง ในกล่องยังมีจุกแบบซิลิโคนให้เลือกเปลี่ยนทั้งหมด 5 คู่ 5 ขนาด รวมกับที่ติดกับหูฟังมาอยู่แล้วก็เป็น 6 คู่ ให้เยอะมาก เลือกขนาดที่เหมาะกับหูของเราได้ละเอียดสุด ๆ แล้วที่ตัวหูฟังจะมีก้านเล็ก ๆ สำหรับที่มีไมค์ยื่นลงมาเพื่อรับเสียงพูดด้วย และจะมีไมค์อีก 2 ตัวสำหรับตัดเสียงรบกวน รวมแล้วหูฟังแต่ละข้างจะมีไมค์ 3 ตัว

ข้อสังเกต

มันยังขาดฟีเจอร์ถอดหูฟังแล้วหยุดเพลงเองนะ บางทีเราต้องถอดหูฟังคุยกับคนอื่น ๆ ก็อยากให้เพลงมันหยุดเอง แล้วเล่นต่อเมื่อใส่กลับเข้าไปเหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้ก็กดหยุดเพลงเองไปก่อน

รีวิวที่ดีต้องมีราคา

TOZO Golden X1 ตั้งราคาไว้ที่ 4,990 บาทเท่านั้น สำหรับหูฟังเกรดท็อปของแบรนด์ มาพร้อมประกันศูนย์ไทย 1 ปีเต็ม สั่งซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย