OPPO Reno สมาร์ตโฟนระดับกลางจากออปโป้เดินทางมาถึงรุ่นที่ 4 แล้ว ซึ่งเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้คือเครื่องสวย กล้องดี ลูกเล่นเพียบ วันนี้เราสรุปให้ฟังครับว่า OPPO Reno4 รุ่นนี้ทำอะไรได้บ้างครับ

ดีไซน์

หนาแค่ 7.7 mm และหนักแค่ 165 กรัมเท่านั้นครับ แต่เรื่องนี้สิบตาเห็น ไม่เท่ามาสัมผัสเองเนอะ ลองไปสัมผัสกันที่หน้าร้านได้ครับ

หน้าจอ

หน้าจอ AMOLED ของ OPPO Reno4 นั้นมีขนาด 6.4 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ซึ่งก็ให้ภาพได้สวยสดใส เล่น Youtube แบบ HDR ได้ และสามารถเล่น Netflix ได้เต็มความละเอียด Full HD โดยหน้าจอจะมีกล้องหน้าแบบ Dual Punch Hole Display อยู่มุมบนนี้ และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ใต้จอ ซึ่งจอนี้เป็นแบบ 60 Hz ครับ

ดีไซน์ฝาหลัง

ดีไซน์ฝาหลัง สีที่เราได้มารีวิววันนี้คือสีดำ Space Black ซึ่งมันไม่ใช่สีดำธรรมดานะครับ ถ้าเอาไปส่องกับแสงจะเห็นตัวอักษร OP จากชื่อแบรนด์ OPPO ซ่อนอยู่ ทำให้เรามองสีดำนี้เป็นสีขรึม ๆ ก็ได้ หรือจะมองให้สนุกก็ทำได้ด้วยลูกเล่นที่ซ่อนอยู่ภายใน

นอกจากนี้ OPPO Reno4 ยังมีสี Galactic Blue สีน้ำเงินสว่างๆ ที่มีการไล่เฉดอย่างสวย ด้วยเทคนิค “Reno Glow” ซึ่งเป็นการเคลือบสีแบบด้าน พร้อมประกายบนฝาหลัง และสามารถป้องกันการติดรอยนิ้วมือด้วย
ซึ่งตัวดีไซน์กล้องหลังนี้ก็แตกต่างจากสมาร์ตโฟนรุ่นที่ผ่าน ๆ มานะครับ คือ OPPO Reno4 นั้นมีกล้องหลัง 4 ตัวที่ซ้อนเป็น 3 เลเยอร์ คือชั้นล่างสุดคือฝาหลังของเครื่อง ชั้นกลางคือกรอบสี่เหลี่ยมมน ๆ ของกล้องที่มีเลนส์เล็ก ๆ ตัวนี้คือกล้องขาวดำ 2 ล้านพิกเซลอยู่ตรงนี้ และชั้นบนสุดคือเลนส์หลัก 3 ตัวครับ

กล้องหลัง

  • เลนส์ตัวบนสุดคือนี้กล้องมุมกว้างมาก 8 ล้านพิกเซล f/2.2 ครับ
  • ส่วนกล้องตัวกลางนี้คือกล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล f/1.7 โดยใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 ครับ
  • กล้องตัวล่างสุดนี้คือกล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล

Portrait

การถ่ายภาพบุคคล คือจุดเด่นของรุ่นนี้เลย ให้ภาพออกมาสวยงามดูดี เป็นธรรมชาติ สามารถเบลอฉากหลังได้ดูเนียนตา แต่ความพิเศษของโหมด Portrait ใหม่นี้คือ AI Color Portrait ซึ่ง AI จะวิเคราะห์บุคคลในภาพ แล้วเปลี่ยนให้ฉากหลังกลายเป็นขาวดำแถมทำให้ฉากหลังเบลอได้ด้วย ก็ทำให้ได้ภาพที่สวยงามแปลกตา ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งกล้องหน้า กล้องหลัง ภาพนิ่ง และวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีโหมด Night Flare Portrait สำหรับการถ่ายภาพบุคคลในยามค่ำคืนให้เก็บแสงของฉากหลังได้สวยงาม สร้างฉากหลังที่ไฟยามค่ำคืนกลายเป็น Bokeh ที่สุกสกาวได้ง่ายๆ เหมือนกล้องโปร พร้อมให้ภาพที่สดใส

ซึ่ง OPPO Reno4 ยังมาพร้อม Ultra Night Mode ที่สามารถเก็บภาพยามค่ำคืนที่มืดมากๆ จนตาเราเกือบมองไม่เห็นให้สว่างขึ้นมาได้ ซึ่งโหมดนี้จะใช้เวลาในการถ่ายรูปเพื่อเก็บแสงพักหนึ่งครับ ก็ต้องถือมือถือนิ่ง ๆ เวลาถ่าย

การถ่ายวีดีโอ

  • OPPO Reno4 สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion ได้สูงสุด 960 fps หรือที่เรียกว่า 960fps AI Slow-motion ซึ่งสามารถยืดช่วงอึดใจให้ยาวออกไปได้มาก โดยมีการใช้ AI ช่วยตรวจจับพื้นที่ในภาพ หากจุดที่ต้องการมีการเคลื่อนไหวจะลั่นกล้องให้ทันที ทำให้กดถ่ายได้ง่ายขึ้นอีก
  • OPPO Reno4 สามารถถ่ายวิดีโอได้สูงสุดในระดับ 4K และสามารถใช้โหมดป้องกันภาพสั่นไหว Ultra Steady Video ได้สำหรับวิดีโอความละเอียด 1080p 60 fps ซึ่งก็ให้ภาพที่นุ่มนวลมากพอสำหรับการเดินถ่ายแล้ว แต่ถ้าต้องการป้องกันการสั่นไหวมากกว่านี้ในระดับที่วิ่งถ่ายได้ ก็สามารถใช้โหมด Ultra Steady Video Pro ที่กล้องจะปรับไปใช้เลนส์มุมกว้างในการถ่ายวิดีโอแล้วครอปเข้ามาให้ได้มุมภาพประมาณเลนส์หลัก ซึ่งแม้คุณภาพวิดีโอจะไม่สวยเท่าโหมด Ultra Steady Video ธรรมดา แต่ก็ใช้ในยามที่ต้องออกแอ็กชันเยอะ ๆ ได้ครับ
  • สามารถใส่ฟิลเตอร์เพื่อเบลอฉากหลังได้อย่างเนียนตา และสามารถใส่ฟิลเตอร์ให้ฉากหลังเป็นขาวดำ หรือจะเก็บบางสีอย่างสีแดง, สีเขียว หรือสีน้ำเงินในภาพไว้ก็ได้

โดยรวมคุณภาพภาพของ OPPO Reno4 ถือว่าทำได้ดีมากในทุกสภาพแสงนะครับ การใช้งานในพื้นที่ที่มีแสงเยอะ ก็ให้ภาพได้สดใส เก็บรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีทั้งส่วนสว่างและส่วนมืด นอกจากนี้เลนส์มุมกว้างของ OPPO Reno4 ก็ให้มุมภาพที่กว้างมาก ทำให้การถ่ายภาพสนุกขึ้นอีกเยอะ เพียงแต่ว่ากล้องชุดนี้ไม่ได้มีเลนส์ซูมโดยเฉพาะ ใช้เลนส์หลัก 48 ล้านพิกเซลมาซูมภาพ ซึ่งก็ทำผลงานได้ดีในระยะ 2 เท่าครับ

ข้อสังเกตของการถ่ายวิดีโอ

ระหว่างถ่ายเราไม่สามารถสลับเลนส์ไปมาได้นะครับ ถ้าถ่ายด้วยเลนส์หลัก เราก็สามารถซูมเข้าไปได้ แต่ไม่สามารถซูมออกมาใช้เลนส์มุมกว้างได้ ส่วนถ้าเริ่มต้นถ่ายด้วยเลนส์มุมกว้างก็ไม่สามารถซูมเข้าได้เลยครับ

กล้องหน้า

  • ส่วนกล้องหน้าของ OPPO Reno4 แม้ว่าเราจะเห็นว่ามันเป็นกล้อง 2 เลนส์ รูบนหน้าจอเจาะเป็นแนวรียาว แต่จริงๆ แล้วกล้องหน้าที่ใช้ถ่ายรูปนั้นมีตัวเดียว คือเลนส์ตัวในทางขวานี้ครับ ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล f/2.4 ส่วนกล้องตัวซ้ายเป็นเซนเซอร์พิเศษที่ใช้ทำงานร่วมกับ AI มากมาย ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังหลังจากนี้ครับ
  • คุณภาพของกล้องหน้า OPPO Reno4 ก็ต้องชมเลยว่าออกมาดีมากทั้งในโหมดมาตรฐานที่ใช้ AI ปรับแต่งใบหน้าให้ดูดีขึ้น ที่แต่งออกมาได้ดูสวยแต่ไม่หลอกตา และสามารถเบลอฉากหลังได้นุ่มนวลดีด้วย ส่วนโหมดถ่ายภาพแบบไม่ปรับแต่ง ก็สามารถเก็บรายละเอียดของใบหน้าออกมาได้ดูดี ซึ่งมาพร้อมความสามารถ HDR ที่สามารถเก็บรายละเอียดฉากหลังให้ดูดีไปพร้อมๆ กับใบหน้าได้ นอกจากนี้ยังมี Ultra Night Selfie Mode สำหรับการถ่าย Selfie ในยามค่ำคืนให้ได้ภาพที่สว่างสดใสมากขึ้นทั้งตัวแบบและฉากหลัง
  • กล้องหน้าของ OPPO Reno4 สามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับ 1080p ซึ่งสามารถเปิดโหมดป้องกันภาพสั่นไหวหรือ Front Steady Video ให้กล้องหน้าถ่ายวิดีโอได้นุ่มนวลขึ้น ภาพไม่สั่น แถมยังสามารถทำหน้าชัดหลังเบลอระหว่างถ่ายวิดีโอได้เหมือนกล้องหลัง เพียงแต่ว่าการเปิดโหมดเบลอหลังจะลดความละเอียดวิดีโอลงเหลือ 720p ครับ

โดยรวมแล้วกล้องของ OPPO Reno4 ถือว่าดีมากสำหรับสมาร์ตโฟนในระดับกลางครับ แต่อีกฟังก์ชันใหญ่ๆ ที่ซ่อนอยู่ในกล้องหน้าคือ AI-enhanced Smart Sensor ความสามารถของ ColorOS 7.2 ที่ช่วยให้เราใช้สมาร์ตโฟนได้ง่ายขึ้นครับ

  • Smart Spying Prevention ที่สามารถจดจำใบหน้าของเรา และซ่อนการแจ้งเตือนจากแอปสำคัญที่เราเลือกไว้จนกว่าจะเห็นใบหน้าของเรา และถ้าคนอื่นมาแอบดูจอเราขณะที่กำลังใช้งานอยู่ การแจ้งเตือนเหล่านี้ก็จะถูกซ่อนไปด้วยครับ
  • Smart Rotation ที่เซนเซอร์จะคอยตรวจจับลักษณะใบหน้าของเรา เพื่อพิจารณาว่าจะพลิกจอหรือไม่ หมดปัญหานอนเล่นมือถือแล้วจอมันพลิกเอง เพราะตอนนี้ OPPO Reno4 จะรู้แล้วว่าตอนไหนควรพลิกหรือไม่ควรพลิก นอกจากนี้ยังมี Adaptive Sleep ที่ป้องกันจอดับเองเมื่อเรายังมองหน้าจออยู่ด้วย

เซนเซอร์ที่อยู่ข้างกล้องหน้าตัวนี้ยังสามารถใช้ Smart AirControl ได้ด้วย คือเราสามารถเปิดโหมดนี้ใน Settings > Convenient Tools > Gestures & Motions > Air Gestures เพื่อใช้การปัดมือกลางอากาศแบบนี้เพื่อเลื่อนหน้าแอปอย่าง facebook, instagram, TikTok ได้ หรือเมื่อมีโทรศัพท์เข้าก็สามารถปัดมือขึ้นด้านบนเพื่อรับสายได้ด้วย ใช้สะดวกแบบไม่ต้องเอามือไปแตะเครื่องก็ได้ เผื่อเวลาที่มือเลอะ เราก็ยังใช้โทรศัพท์ได้

การชาร์จ

มือถือรุ่นนี้ใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C ซึ่งรองรับ 30W VOOC 4.0 ชาร์จกำลังไฟ 30 Watt ซึ่งชาร์จ 20 นาทีก็ได้แบต 50% แล้ว โดยแบตเตอรี่ความจุ 4015 mAh ตัวนี้สามารถใช้งานทั้งวันได้สบาย ๆ ครับ ไม่ต้องห่วงว่าแบตเตอรี่จะหมดระหว่างวันเลย

OPPO Reno4 ยังมาพร้อมช่องหูฟังแบบ 3.5 mm ซึ่งในกล่องก็มีหูฟังและเคสแถมมาให้ด้วย ไม่ต้องซื้อเพิ่ม

นอกจากนี้ด้านล่างยังมีลำโพงเสียงดังและเสียงดีใช้ได้เลยที่ด้านล่างตรงนี้ เพียงแต่ว่าจะไม่ใช่ลำโพงสเตอริโอนะ ออกด้านล่างอย่างเดียว

สเปค

สำหรับสเปกของ OPPO Reno4 นั้นใช้ซีพียูเป็น Snapdragon 720G ชิปรุ่นกลาง พร้อมแรม 8 GB และหน่วยความจำ 128 GB โดยรวมแล้วสเปกนี้แรงเกินพอสำหรับงานทั่วไป ท่องเว็บ เล่นเฟซ เล่นไลน์ลื่นทั้งหมด ไม่มีความหน่วง

โดยวัดประสิทธิภาพด้วย Geekbench 5.2 ออกมาได้คะแนน Multi-core ที่ 1695 คะแนน ซึ่งก็เป็นคะแนนระดับเดียวกับ Snapdragon 845 เรือธงเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ส่วนคะแนนประสิทธิภาพกราฟิกจาก 3Dmark ก็ทำไปได้ 2499 คะแนน ก็เร็วกว่าชิป Snapdragon 712 อยู่ราว 300 คะแนน ซึ่งเราทดสอบเล่นเกม Honkai Impact 3rd ก็สามารถเล่นได้ลื่น ๆ ที่กราฟิกระดับ 3 ครับ

OPPO Reno4 รุ่นนี้เป็นสมาร์ตโฟน 4G นะครับ ยังไม่รองรับคลื่น 5G


รีวิวที่ดีต้องมีราคา

OPPO Reno4 นั้นเปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 11,990 บาท
ราคานี้คุณจะได้สมาร์ตโฟนดีไซน์สวยที่บางเบาแต่ได้จอใหญ่ กล้องดี ถ่ายกลางวัน กลางคืนสวย ถ่ายคนก็สวย ระบบ ColorOS 7 ที่มีลูกเล่นเพียบ ความสามารถเยอะขนาดนี้ ต้องจัดครับ

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส