วันนี้ beartai Battle! ได้นำหูฟัง True Wireless รุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกัน โดยทั้ง 4 รุ่น ที่เรานำมาถือว่าเป็นรุ่นรองท็อปของแต่ละแบรนด์ (ในระดับเดียวกัน) มาวัดกันให้ดูไปเลยว่ารุ่นไหนเหมาะกับคุณ

โดยผู้เข้าแข่งขันในวันนี้ประกอบไปด้วย

  1. Apple AirPods 3 ราคา 6,790 บาท (Earbuds)
  2. Marshall Minor 3 ราคา 4,790 บาท (Earbuds)
  3. Samsung Galaxy Buds2 ราคา 3,990 บาท (In-ear)
  4. Technics EAH-AZ40 ราคา 6,990 บาท (In-ear)

ยกที่ 1 ดีไซน์

Apple AirPods 3 – มาในกล่องสีขาวอันเป็นเอกลักษณ์ของหูฟังตระกูลนี้ โดยดีไซน์เคสออกเป็นสี่เหลี่ยมป้าน ๆ ใกล้เคียงกับเคสของ AirPods Pro มากกว่า AirPods 2 รุ่นเดิม แล้วก็มีปุ่มซ่อนอยู่ด้านหลังนี้สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใหม่ โดย AirPods 3 เป็นรุ่นเดียวที่ใช้หัวชาร์จเป็น Lightning รุ่นอื่นที่เหลือจะเป็น USB-C ทั้งหมด ซึ่งในกล่องก็จะมีสาย USB-C เป็น Lightning มาให้

Marshall Minor 3 – ดีไซน์เคสรุ่นนี้ลักษณะเหมือนเคส AirPods 2 มาก ด้วยลักษณะที่เป็นสี่เหลี่ยมแนวตั้ง จนคนล้อว่าเอาเคสของ AirPods 2 มาพ่นสีใหม่รึเปล่าเนี่ย แต่รูปลักษณ์คือเท่ที่สุดแล้ว ที่เคสจะมีลวดลายเหมือนหนังอยู่ ซึ่งไม่ใช่หนังจริง ๆ แล้วเป็นพลาสติกทำลวดลายซึ่งดีตรงทนทานกว่าเอาหนังหรือยางมาทำแน่ ๆ ส่วนโลโก้ Marshall สีขาวเป็นยาง ให้สัมผัสนุ่ม ๆ นึบ ๆ มือ ส่วนตัวหูฟังก็ดีไซน์สวย มีตัว M โลโก้ของมาร์เซล และที่คงความเป็น Marshall ได้นี้ที่สุด คือ ตรงก้านจะให้ความรู้สึกเหมือนโลหะสีทองเหลือง

Samsung Galaxy Buds2 – เห็นเป็นกล่องขาวแบบนี้แต่ซ่อนสีสันไว้นะครับ อย่างตัวที่เรารีวิวนี้เป็นสี Graphite เปิดออกมาก็จะเป็นสีดำพร้อมหูฟัง นอกจากนี้ก็ยังมี สีขาว, สีม่วง Lavender และสีเขียว Olive ให้เลือก ทุกสีเคสด้านนอกจะเป็นสีขาวหมด ต่างกันที่สีภายใน ซึ่งเป็นหูฟังที่มีสีสันให้เลือกมากที่สุดใน 4 รุ่นนี้ครับ

Technics EAH-AZ40 – ดีไซน์เคสมีความอนุรักษ์นิยมแบบญี่ปุ่น ไม่ได้ดูโมเดิร์นเหมือน Apple กับ Samsung และไม่ได้รีโทรเหมือน Marshall แต่ก็มีสีให้เลือกถึง 3 สี คือ เทาเข้ม, สีขาว-เงิน และสี Rose Gold โดยใน 4 รุ่นนี้มีแค่ตัวนี้ที่ชาร์จไร้สายไม่ได้

สรุปยกที่ 1 ดีไซน์ ทั้ง 4 ตัว มีความสวยในแบบของตัวเอง

ยกที่ 2 การสวมใส่

Apple AirPods 3 – คงไว้ซึ่งรูปทรงมาตรฐานตั้งแต่รุ่นแรก ความรู้สึกแรกเหมือนลำโพงจะรุ่นกว่ารุ่นก่อนหน้านิดนึง แต่ใส่แล้วยังคงความสบายตามสไตล์ Apple แต่หากใส่ไว้นาน ๆ หลายคนอาจรู้สึกระคายเคืองได้

Marshall Minor 3 – รูปทรงมีความใกล้เคียง AirPods แต่ตัวลำโพงจะมีขนาดที่เล็กกว่าประมาณนึง ทำให้ใส่แล้วรู้สบายกว่า

Samsung Galaxy Buds2 – ขนาดค่อนข้างเล็ก ทำให้ใส่แล้วรู้สึกสบาย หากใส่แล้วไม่ได้เปิดอะไรฟัง อาจทำให้ลืมไปเลยว่าใส่ไว้

Technics EAH-AZ40 – ส่วนที่จะต้องเข้าไปอยู่ในหู (ที่มียางครอบ) จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าเมื่อเทียบเทียบกับ Galaxy Buds2 ทำให้รู้สึกกระชับแนบสนิท อาจจะส่งผลถึงคุณภาพเสียงที่ได้ด้วยเช่นกัน

สรุปยกที่ 2 การสวมใส่ ทั้ง 4 ตัว มีขนาดที่แตกต่างกัน อีกทั้งสรีระของแต่ละคนก็ต่างกัน

ยกที่ 3 คุณภาพเสียง

เริ่มจากสเปกด้านเสียงของหูฟังทั้ง 4 รุ่น

Apple AirPods 3 – Bluetooth 5.0 รองรับ Codec SBC และ AAC, ไดนามิกไดร์เวอร์ พร้อมระบบปรับแต่งเสียงอัตโนมัติให้เหมาะกับการฟังตอนนั้น

Marshall Minor 3 – ไดนามิกไดร์เวอร์ขนาด 12 mm Bluetooth 5.2 รองรับ Codec SBC และ aptX ไม่รองรับ AAC 

Samsung Galaxy Buds2 – ไดร์เวอร์แบบ 2-Way คือมีทั้ง Tweeter และ Woofer Bluetooth 5.2 รองรับ Codec เสียง SBC, AAC และ Scalable ของซัมซุงเอง

Technics EAH-AZ40 – ไดร์เวอร์ขนาด 6 mm Bluetooth 5.2 รองรับ Codec SBC, AAC

สรุปจากสเปกเสียง

  • AirPods 3 ใช้งานกับ Android ก็ให้เสียงได้คุณภาพดีอยู่
  • Marshall Minor 3 ใช้บน Android จะให้เสียงดีกว่าใช้บน iPhone เพราะในไอโฟนใช้ได้แค่ SBC
  • Galaxy Buds2 ใช้กับสมาร์ตโฟนซัมซุงจะให้เสียงดีที่สุด แต่ใช้กับ Android อื่นๆ หรือ iPhone เสียงก็ไม่ได้ด้อยไปมาก เพราะรองรับ AAC เหมือนกัน และเป็นรุ่นเดียวใน 4 รุ่นนี้ที่มี ANC หรือ Active Noise Cancelling 
  • Technics EAH-AZ40 หูฟังที่เป็นกลางสุด ๆ ใช้กับค่ายไหนก็ดีที่สุดเหมือนกัน

สรุปจากการใช้งาน

AirPods 3 – โดยรวมมีความกลมกล่อม เสียงกลางทำได้ใส ส่วนเสียงแหลมมีซ่า ๆ ตามธรรมชาติ

Marshall Minor 3 – เบสค่อนข้างมาน้อยกว่า Airpods 3 ด้วยความเป็น Marshall แหลมจะมีความแหบตามสไตล์ ส่วนเสียงกลางมีความอุ่น

Galaxy Buds2 – เบสจัดว่าหนัก แต่ไม่ลึกเท่า Airpods 3 แต่ด้วยความเป็น True Wireless แบบ in-ear จึงได้เปรียบเรื่องมิติเสียง ในเรื่องของเสียงกลางไม่อุ่นเท่า Marshall Minor 3 ส่วนของเสียงแหลมมาปลาย ๆ อีกทั้ง ยังเป็นรุ่นเดียวที่มี Active Noise Cancelling ที่ช่วยตัดเสียงรอบข้าง

Technics EAH-AZ40 – เบสของตัวนี้ถือเป็นเบสที่มีคุณภาพ ลึกกว่า Marshall Minor 3 และ Galaxy Buds 2 แต่ไม่ลึกเท่า AirPods 3 ให้รายละเอียดเสียงค่อนข้างดี เสียงกลาง-แหลมสดใส

สรุปยกที่ 3 คุณภาพเสียง เรื่องนี้ตัดสินกันยาก ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง แต่ถ้าสรุปโดยง่ายแล้ว Technics EAH-AZ40 มีเสียงเบสที่ลงลึกแต่ยังนุ่ม กลางแหลมสดใส ในขณะที่ Galaxy Buds2 ให้เสียงค่อนข้างไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับอีก 3 รุ่น แต่ทดแทนด้วย Active Noise Cancelling ที่ช่วยให้คุณได้อยู่กับเสียงดนตรีกันแบบ 2 ต่อ 2 และไม่ว่าจะเป็น AirPods 3 หรือ Marshall Minor 3 ก็มีข้อดีที่ไม่ทิ้งกัน แต่ถ้าต้องเลือกผู้ชนะที่ครบถ้วนกระบวนความ คงต้องยกให้ Technics EAH-AZ40 เป็นผู้ชนะ

ยกที่ 4 คุณภาพไมค์

ต้องบอกก่อนว่าในการทดสอบนี้เราใช้ Voice Memo ของ Apple เป็นตัวอัดเสียง ในขณะที่อัดเสียงอยู่เราได้เปิดเสียงรบกวนเอาไว้ด้วย และในการฟังเสียงเราใช้ Technics EAH-AZ40 เป็นหูฟัง เนื่องจากเป็นผู้ชนะจากยกที่แล้ว

ผลการทดสอบ

AirPods 3 – ตอนที่ยังไม่พูดตัวไมค์ถือว่ารับเสียงรบกวนไม่มาก ถ้าจะได้ยินก็แค่เบา ๆ แต่เมื่อเริ่มพูด เสียงรบกวนจะลดลง ได้ยินเสียงพูดที่ชัดเจน

Marshall Minor 3 – ในเรื่องของการรับเสียงรบกวนถือได้ว่าใกล้เคียงกับ AirPods 3 แต่เมื่อเริ่มพูด เสียงรบกวนไม่ได้ลดลง ส่วนในเรื่องของเสียงพูดชัดและดังกว่า AirPods 3

Galaxy Buds2 – ได้ยินเสียงพูดชัดเจน แต่เสียงไม่ Clear เท่า Airpods 3 และ Marshall Minor 3

Technics EAH-AZ40 – เสียงพูดชัดเจน ด้วยเทคโนโลยีที่เรียกว่า Just My Voice ที่สามารถช่วยตัดเสียงรบกวนได้ แต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนมีอีกเสียงซ้อนอยู่

สรุปยกที่ 4 คุณภาพไมค์ ในเรื่องของการตัดเสียงรบกวน ต้องยอมรับว่า Galaxy Buds2 ทำได้โดดเด่นมาก ๆ ส่วนทาง AirPods 3 และ Marshall Minor 3 ถึงแม้จะยีงมีเสียงรบกวนอยู่บ้าง แต่ทั้ง 3 รุ่นก็ต้องยอมแพ้ให้กับ Technics EAH-AZ40

ยกที่ 5 การควบคุม

AirPods 3 – มีวิธีการควบคุมที่ต่างจากคู่แข่งอีก 3 รุ่น เพราะจำเป็นจะต้อง ‘บีบ’ ที่ก้านถึงจะเป็นการส่งสัญญาณ สามารถปรับแต่งการทำงานผ่าน iOS ได้ แต่ไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับ Android

Marshall Minor 3 – ควบคุมง่าย แต่ก็ลั่นง่ายเช่นเดียวกัน ไม่มีแอปพลิชันในการปรับแต่งการทำงาน

Galaxy Buds2 – ควบคุมง่าย แต่ก็ลั่นง่ายเช่นเดียวกัน มีแอปพลิเคชันปรับแต่งเสียง การทำงานต่าง ๆ ได้บน Android แต่ไม่มีบน iOS

Technics EAH-AZ40 – ควบคุมง่าย มีจุดสัมผัสเพียงจุดเดียว มีแอปพลิเคชันทั้ง iOS และ Android จะใช้ระบบไหน เครื่องอะไร ก็ปรับเสียง ปรับรูปแบบการใช้งานได้ แต่เป็นเพียงรุ่นเดียวที่เมื่อคุณถอดหูฟังแล้วเพลงไม่หยุด

สรุปยกที่ 5 การควบคุม ถ้าใช้ iOS การใช้ AirPods 3 ง่ายกว่าอยู่แล้ว หรือถ้าคุณเป็นสาย SAMSUNG Galaxy Buds ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใช้หลายอุปกรณ์ Technics EAH-AZ40 คือดีงาม เป็นกลาง ไปได้ทุกเครื่องทุกค่าย

ยกที่ 6 ความสามารถพิเศษ

AirPods 3

  • โดดเด่นมากเรื่องเสียงเสียงตามตำแหน่งครับ คือถ้าคุณใช้กับอุปกรณ์ของแอปเปิ้ลเช่น iPhone, iPad และเปิดแอปพลิเคชันที่รองรับเสียงรอบทิศทางเช่น Apple TV+ หรือ Netflix จะเหมือนคุณนั่งดูอยู่ในโรงภาพยนตร์เลย เสียงมารอบทิศทาง ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากหูฟังแบรนด์อื่น
  • หรือถ้าคุณฟัง Apple Music ก็สามารถฟังเสียง Spatial Audio เพื่อให้ประสบการณ์เสียงดนตรีรอบทิศทางได้ด้วย แต่ผมไม่ได้บอกนะว่ามันดีหรือไม่ดี บางคนอาจจะชอบเพลงมิกซ์สเตอริโอแบบเดิมมากกว่าเสียงมิกซ์รอบทิศทางก็ได้
  • นอกจากนี้ยังสามารถสลับอุปกรณ์ไปมาได้สะดวกมาก ถ้าคุณใช้ iPhone, iPad, Mac ที่ล็อกอินด้วย Apple ID เดียวกัน ก็สลับอุปกรณ์ตามการใช้ได้ทันที โดยไม่ต้องไป pair อุปกรณ์ใหม่
  • แต่ถ้าไม่ได้ใช้ Apply ทั้งระบบ มันก็เป็นความลำบากนิดหนึ่ง เพราะก็ต้องเชื่อมต่อด้วยตัวเองอยู่ดี
  • หูฟังสามารถอ่านการแจ้งเตือนที่เข้ามาใน iPhone ได้ด้วย (แต่คนฟังเพลงจะไม่ชอบที่เสียงมาแทรกระหว่างฟังเพลง ก็ปิดได้)
  • นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาหูฟังผ่านแอป Find my ได้ด้วย

Marshall Minor 3

  • นอกจากหน้าตาแล้ว ไม่มีความสามารถพิเศษอะไรเลย

Galaxy Buds2

  • หูฟังสามารถสลับไปมาระหว่างอุปกรณ์ของ SAMSUNG ได้ เหมือนกับที่ AirPods 3 ทำได้กับอุปกรณ์ของ Apple

Technics EAH-AZ40

  • เป็นหูฟังรุ่นเดียวที่มีเทคโนโลยี Multipoint คือสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ 2 ตัว พร้อมกันได้ เช่น ฟังเพลงจากคอมพิวเตอร์ แล้วมีสายโทรเข้า ก็รับสายได้ทันที โดยไม่ต้องรอเชื่อมต่อใหม่
  • แม้ไม่มีโหมด Active Noise Cancelling ตัดเสียงรบกวนภายนอก แต่มีโหมด Transparent ดึงเสียงภายนอกเข้าไป ทำให้ใช้ชีวิตประจำวันปลอดภัยขึ้น
  • ใช้อุปกรณ์ได้หลายค่าย

สรุปยกที่ 6 ความสามารถพิเศษ AirPods 3 ชนะไปแบบใส ๆ เนื่องจากคุณสมบัติที่เยอะมาก ๆ

สรุป

AirPods 3 – เหมาะสำหรับคนใช้อุปกรณ์ Apple อยู่แล้ว เพราะเชื่อมต่อสลับกันง่ายสุด ๆ แถมได้เสียงรอบทิศทางที่ไม่มีใครทำได้

Marshall Minor 3 – อันนี้ต้องใจรักเสียงแบบมาร์แซล เพราะเสียงต่างจากอีก 3 รุ่นมากเลย และเสียงจะดีที่สุดเมื่อใช้กับ Android

Galaxy Buds2 – สำหรับผู้ใช้ Android (โดยเฉพาะผู้ใช้อุปกรณ์ SAMSUNG) ที่อยากได้หูฟังเสียงดี ในงบไม่สูงเป็นรุ่นเดียวจาก 4 รุ่น ที่มี Active Noise Cancelling

Technics EAH-AZ40 – เด่นเรื่องเสียงดี เบสแน่น รายละเอียดเสียงดี ไมค์ดี ที่สำคัญ คือ เป็นกลาง ใช้ได้เต็มประสิทธิภาพกับอุปกรณ์ทุกค่าย แถมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 อุปกรณ์

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส