วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ประกาศโครงการใหม่สำหรับสร้างฐานการผลิตโดรนของสหรัฐฯ เพื่อรับมือกับการจัดหาอาวุธและทรัพยากรทางทหารของจีนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เพราะถึงแม้ว่าสหรัฐฯ จะมีเครื่องบินรบที่ทันสมัยอย่าง F-22 และ F-35 ราคาสูงถึง 143 ล้านเหรียญ (5,000 ล้านบาท) และ 75 ล้านเหรียญ (2,622 ล้านบาท) ต่อลำตามลำดับ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ดังนั้นจึงได้ของบจากรัฐบาลกลางในช่วง 5 ปีข้างหน้า 6,000 ล้านเหรียญ (209,800 ล้านบาท) สำหรับสร้างฝูงโดรนหรือเครื่องบินรบไร้คนขับ XQ-58A Valkyrie ที่มีราคาแค่ลำละ 3 ล้านเหรียญ (105 ล้านบาท)

Valkyrie เป็นโดรนหรือเครื่องบินรบไร้คนขับของกองทัพอากาศในโครงการต้นแบบเครื่องบินโจมตีต้นทุนต่ำ (LCASD) มีความสูง 30 ฟุต (91 เมตร) หนัก 2,500 ปอนด์ (1,134 กิโลกรัม) ในขณะที่ไม่มีเชื้อเพลิง และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 1,200 ปอนด์ (544 กิโลกรัม)

XQ-58 เป็นเครื่องบินคุ้มกันล่องหนสำหรับสนับสนุน F-22 และ F-35 ในระหว่างทำภารกิจรบ สามารถปรับใช้อาวุธ หรือเป็นระบบเฝ้าระวัง รวมทั้งช่วยทำการสอดแนม การป้องกันการยิง หรือรับมือจากการยิงของศัตรู

ต้นเดือนสิงหาคม Kratos (บริษัทผู้ผลิต) ได้ประสบความสำเร็จในการบินทดสอบ XQ-58 กับงานต่อสู้ทางอากาศโดยอัตโนมัติที่ควบคุมด้วย AI ที่ฐานทัพอากาศ Eglin ในฟลอริดา ซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อฝึกเจ้าหน้าที่ AI ให้สามารถควบคุมการบินของโดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ XQ-58 ได้อย่างปลอดภัย

กระทรวงกลาโหมเผยว่าโดรนทุกลำได้รับการออกแบบมาให้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาหรือและผู้ปฏิบัติงานในภารกิจ ด้วยการใช้วิจารณญาณของมนุษย์อย่างเหมาะสมในการตัดสินใจที่จะใช้อาวุธสังหารศัตรู

XQ-58 จะเริ่มสร้างขึ้นหลังจากที่สภาคองเกรสผ่านงบประมาณปี 2024 ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งต้องการงบประมาณเบื้องต้นที่จำนวน 3,300 ล้านเหรียญ (115,368 ล้านบาท)

ที่มา : engadget.com

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส