แม้ว่าเรื่อง “เขินอายหน้าแดง” จะเป็นปฏิกิริยาทางกายปกติของมนุษย์ แต่เวลาที่อยู่ในวงสังคมเพื่อนฝูง พอใครอายหน้าแดงก็จะโดนล้อ พอใครรู้ตัวว่ากำลังหน้าแดงอยู่ ก็ยิ่งเขินอายหนักเข้าไปอีกหน้าก็ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่ อาการนี้อาจจะไม่ได้เป็นกันทุกคน แต่คนที่มีอาการนี้อาจจะรู้สึกว่าตัวเองปกปิดความรู้สึกไม่อยู่ ยิ่งเวลาที่ไปอยู่ใกล้คนที่ชอบ หรือถูกเย้าแหย่เรื่องน่าอายที่เคยทำไว้ ก็จะเผยความรู้สึกนั้นออกมาทางสีผิวที่ใบหน้า คนที่หน้าแดงก็จะรู้สึกว่าร่างกายเรานั้นช่างไม่เป็นใจเอาซะเลย ดันเผยอาการฟ้องคนรอบข้างเสียอย่างนั้น แล้วตัวเองก็จะยิ่งรู้สึกตื่นตระหนกยิ่งขาดความมั่นใจในตัวเองไปอีก

บทความนี้อยากจะบอกว่าต่อไปนี้ให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะมีผลการวิจัยมาแล้วว่า คนที่เขินอายแล้วหน้าแดงนั้นเป็นคนจริงใจ และทำให้คนรอบข้างรู้สึกไว้วางใจได้ จากนี้ไปอาการเขินอายหน้าแดงไม่ใช่อาการที่เป็นด้านลบหรือเป็นเรื่องน่าอายอีกต่อไปแล้วนะ และนี่คือรายละเอียดของการวิจัยครับ

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เดียวที่หน้าแดงเวลาเขินอาย


เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ ชาร์ล ดาร์วิน เป็นนักธรรมชาติวิทยาชื่อดังชาวอังกฤษ เขาค้นพบเรื่องนี้ระหว่างที่เฝ้าสังเกตอากัปกิริยาของลิง ในระหว่างศึกษาค้นคว้าเรื่องวิวัฒนาการ ชาร์ล พรรณาเพิ่มเติมว่า “ปฏิกิริยาตอบสนองทางร่างกายนี้เป็นเรื่องแปลกที่สุดที่เขาค้นพบและเป็นเรื่องแปลกที่สุดในการแสดงออกทางร่างกายของมนุษย์” อาจจะเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากกลไกลภายในของมนุษย์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันตัวเองเมื่อมีความรู้สึกผิดหรืออายระหว่างที่อยู่ร่วมกับผู้อื่น ศัพท์ทางจิตวิทยาคือ “กลวิธานในการป้องกันตัวทางสังคม” (social defense mechanism)

เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งต่อเพศตรงข้าม


สิ่งหนึ่งที่มนุษย์เราไม่รู้ตัวก็คือ เวลาที่แก้มเราแดงขึ้นมานั้นเราจะมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากขึ้น อาการเขินอายหน้าแดงนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึง “ความเปราะบางน่าทนุถนอม” อาการนี้ยังสื่อถึงบุคคลเพศตรงข้ามให้สัมผัสได้ว่าเขานั้นมี “ความใกล้ชิดเป็นพิเศษ” สำหรับเพศหญิงจะมีความรู้สึกมั่นใจมากขึ้นถ้าแก้มของพวกเธอเป็นสีแดง , ชมพู นั่นคือเหตุผลหนักว่าทำไมเวลาที่พวกเธอแต่งหน้าถึงจะปัดแก้มเป็นสีชมพู , แดง อยู่เสมอ

คนที่อายแก้มแดงเป็นคนที่น่าไว้วางใจ


อ้างอิงถึงผลการวิจัยค้นคว้า ที่เผยแพร่ผ่านทาง บทความทางวิชาการว่าด้วย “จิตวิทยาในสังคมและบุคลิกลักษณะบุคคล” ข้อความตอนหนึ่งระบุชัดว่า “ใครก็ตามที่หน้าแดงง่าย ๆ บุคคลผู้นั้นจัดเป็นคนที่น่าไว้วางใจและเป็นคนใจกว้าง” ผู้ทำการค้นคว้านี้ยังให้เหตุผลเพิ่มเติมอีกว่า การแสดงออกที่เผยถึงความเขินอาย หรือการสื่อให้สังคมรอบข้างได้เห็นถึงเปราะบางของตน การแสดงออกเหล่านั้นจัดเป็นสัญญานชัดเจนที่สื่อถึง “ความจริงใจ” เหตุเพราะว่าอากัปกิริยาเช่นนี้ไม่สามารถแกล้งทำ หรือนึกอยากจะแสดงออกตามใจชอบได้

กิริยาท่าทางอื่น ๆ ที่แสดงออกถึงความเขินอาย


ในกระบวนการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปฏิกิริยามนุษย์เมื่อมีความเขินอาย นักศึกษา 60 คน ถูกสั่งให้ไปบันทึกภาพผู้คนที่แสดงออกเวลาเขินอาย ผลการศึกษาค้นคว้าชีชัดว่า อาการเขินอายหน้าแดงที่เกิดขึ้นนั้นสร้าง “ความเชื่อถือ” ได้จากคนรอบข้าง นั่นยิ่งเป็นการย้ำเตือนว่า เมื่อเราเขินอายแล้วหน้าแดงเราไม่ต้องพยายามหลบซ่อนหรือปิดบังหน้าตาอีกต่อไป ในการวิจัยนี้ยังพบอีกว่า ผู้คนเวลาเขินอายยังแสดงออกกันอีกหลายกิริยาท่าทางเช่น ก้มหน้ามองลงต่ำ , เอามือหรือสิ่งของปิดหน้า หรือหัวเราะขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ทำไมเวลาอายต้องหน้าแดงด้วยล่ะ


สาเหตุที่เราหน้าแดงเมื่อรู้สึกเขินอายก็เพราะ ร่างกายเราจะหลั่งสารอะดรีนาลีน สารนี้จะมีผลทำให้ผิวของเรามีสีแดงมากขึ้น หัวใจก็จะปั๊มสูบฉีดเลือดไปตามร่างกายมากขึ้น กระบวนการนี้จะคล้ายคลึงกับตอนที่เรารู้สึกเห็นอกเห็นใจ หรือรู้สึกตระหนกตกใจเช่นกัน และเมื่อเรามีอาการนี้ เราจะไม่สามารถปกปิดหรือควบคุมร่างกายได้ แต่เราจะรู้สึกได้เลยว่าหัวใจเราเต้นแรงขึ้น หายใจถี่มากขึ้น บางคนอาจจะเหงื่อแตกด้วย

เวลาที่เราอายหน้าแดง เราจะปิดบังความรู้สึกไม่ได้นะ


อาการเขินอายหน้าแดง เป็นอาการปกติของมนุษย์เรา ที่รางกายแสดงออกมาเองโดยที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เป็นกระบวนการภายในร่างกายที่ปลดปล่อยออกมาทางสีหน้าเวลาที่เราตกอยู่ในสถานการณ์หรืออารมณ์ที่กระดากชวนเขินอาย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าการแสดงออกถึงอาการนี้จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าพึงพอใจ เพราะการที่เราแสดงออกถึงอาการนี้นั่นหมายถึงเรามี “ความซื่อสัตย์” “ความจริงใจ” ขณะที่เราหน้าแดงเขินอายนั้นเกิดจากใจเรารู้สึกผิดต่อสิ่งที่กระทำลงไป และรู้สึกอยากที่จะแก้ไขมัน ฉะนั้นถ้าเห็นเพื่อนเรา แฟนเรา อายหน้าแดง อย่ามองเขาในแง่ลบ ให้พิจารณาได้เลยว่านั่นคือการแสดงออกถึง “ความจริงใจ”

จากนี้ไปถ้าอายแล้วจะหน้าแดงขนาดไหน ให้ภูมิใจไว้ว่า “ฉันคือคนจริงใจ” นะยะ

 

brightside