เคยไหม ? เสียบชาร์จโทรศัพท์ Samsung ไว้ทั้งคืน ตื่นมาแบตฯ เท่าเดิม เพราะชาร์จไม่เข้า แต่อย่าเพิ่งหัวร้อน ใจเย็นก่อนส่งซ่อม บทความนี้ BT beartai ได้รวม 6 วิธีแก้ไขเบื้องต้นง่าย ๆ มาให้ลองทำตามกันดูครับ 

ปัญหาส่วนใหญ่ที่ทำให้ชาร์จมือถือ Samsung ไม่เข้า มักเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ๆ สาเหตุหลักที่พบบ่อยมากที่สุดมาจาก 

  • อุปกรณ์ชารจ์มีปัญหา หรืออะแดปเตอร์ที่เสียหายไม่สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์
  • สิ่งสกปรกจากฝุ่นหรือเศษผงที่เข้าไปอุดตันในช่องเสียบชาร์จ ทำให้ชาร์จไม่เข้านั่นเอง

เมื่อรู้สาเหตุหลัก ๆ แล้ว มาลองไล่เช็กทีละสเต็ปตาม 6 ทริกง่าย ๆ ที่เราเอามาฝากกันเลยครับ

  1. เช็กสายชาร์จและอะแดปเตอร์ และฟังก์ชันชาร์จไร้สาย

ก่อนจะโทษว่ามือถือของเรามีปัญหาลองเช็กก่อนว่าสายชาร์จที่ใช้อยู่นั้นมีร่องรอยความเสียหายหรือไม่ หรือลองนำสายชาร์จของเราไปใช้กับเครื่องอื่นดู เพื่อทดสอบว่ายังใช้งานได้ปกติหรือเปล่า และควรใช้เป็นสายชาร์จแท้จาก Samsung หรืออุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานให้เหมาะสมกับอุปกรณ์

  1. ทดลองชาร์จไร้สาย 

หากชาร์จไร้สายแล้วไฟเข้าปกติ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าปัญหาอยู่ที่พอร์ตชาร์จหรืออุปกรณ์แบบมีสาย แต่ถ้าชาร์จไร้สายก็ยังไม่เข้าเหมือนกัน ปัญหาอาจอยู่ที่แบตเตอรี่หรือซอฟต์แวร์ภายในเครื่อง

  1. ทดสอบโดยใช้ Samsung Member

โดยใช้แอปฯ Samsung Member เพื่อตรวจสอบการทำงานของแบตเตอรี่และช่องชาร์จได้ 

  • เปิดแอปฯ Samsung Member > เลือก แท็บ ความช่วยเหลือ
  • แตะการวิเคราะห์โทรศัพท์
  • เลือกสถานะแบตเตอรี่ และการชาร์จแบบต่อสาย
  1. ทำความสะอาดพอร์ตชาร์จ

หนึ่งในสาเหตุยอดฮิตที่ทำให้ชาร์จไฟไม่เข้า มาจากฝุ่นหรือเศษผ้าสะสมอยู่ในพอร์ตชาร์จ ทำให้สายชาร์จไม่สามารถเชื่อมต่อกับขั้วชาร์จได้ สามารถใช้ลมเป่าเพื่อไล่ฝุ่นที่อุดตัน ไม่ควรใช้วัตถุที่เป็นโลหะเข้าไปแคะในช่องชาร์จเด็ดขาด เพราะอาจทำให้เสียหายถาวรได้

  1. สัญลักษณ์ “หยดน้ำ” เหตุจากความชื้น

หากโทรศัพท์ของคุณเคยโดนน้ำหรืออยู่ในที่ชื้น ๆ แล้วชาร์จไม่เข้า ลองสังเกตที่หน้าจอหรือแถบแจ้งเตือนดูครับว่ามี ‘ไอคอนรูปหยดน้ำ’ แสดงขึ้นมาหรือเปล่า หากเครื่องมีความชื้นมือถือจะแจ้งเตือนและหยุดชาร์จชั่วคราว 

  • หากเสียบชาร์จอยู่ให้ถอดออกทันที
  • ใช้ผ้าสะอาดเช็ดตัวเครื่องและบริเวณช่องชาร์จ
  • นำโทรศัพท์ไปวางไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก แล้วรอจนกว่าความชื้นจะระเหยไปเองและการแจ้งเตือนหายไป
  1. ลองรีสตาร์ตเครื่อง

การ “รีสตาร์ต” ที่ทุกคนนึกถึง ให้กด ปุ่มลดเสียง และ ปุ่ม Power ค้างไว้พร้อมกันประมาณ 10-15 วินาที จนเครื่องสั่นและบูตเครื่องขึ้นมาใหม่ 

ถ้าเจอปัญหาเหล่านี้ ให้เริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดก่อน คือ เช็กสายชาร์จ > ทำความสะอาดช่องชาร์จ > รีสตาร์ตเครื่อง หากลองทำตามคำแนะนำเบื้องต้นแล้วยังไม่สามารถแก้ไขได้ ควรนำเครื่องไปให้ผู้เชี่ยวชาญที่ศูนย์บริการ Samsung ที่ได้รับอนุญาตตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัยและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ