[รีวิวเกม] Final Fantasy Pixel Remaster ตำนาน RPG กลับมาแบบคลาสสิก
Our score
8.0

Final Fantasy Pixel Remaster

จุดเด่น

  1. รวมฮิต 6 เกมคลาสสิกในชุดเดียว
  2. กราฟิกและเพลงปรับใหม่แต่ยังคงความคลาสสิก
  3. ปรับสมดุลใหม่ให้เล่นได้ลื่นขึ้น

จุดสังเกต

  1. ราคาขายแพงไปหน่อย
  2. เหมาะกับแฟนตัวจริงเท่านั้น

หนึ่งในเกม RPG ระดับตำนานอย่าง Final Fantasy ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายสิบปี และกำลังจะมีภาคใหม่ออกมาในเดือนมิถุนายน แน่นอนว่ามันเป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ถูกเอากลับมาขายใหม่มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการรีเมก หรือรีมาสเตอร์ ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นการขุดของเก่ามาขายใหม่อีกครั้ง

โดย Final Fantasy Pixel Remaster เวอร์ชันคอนโซลไม่ใช่การมาครั้งแรก เพราะมันเคยออกบน PC มาแล้ว ส่วนการมาบนคอนโซลจะวางขายบน PS4 และ Nintendo Switch ที่เอามาขายใหม่เป็นภาค 1-6 สมัยออกบนคอนโซลของปู่นินมาปรับภาพขายใหม่ แม้ฟังดูเชยแต่สำหรับแฟนซีรีส์ Final Fantasy น่าจะชอบ และข่าวดีคือมันรองรับภาษาไทยอย่างเต็มรูปแบบด้วย

กราฟิกปรับนิดหน่อยแต่ดูดีแบบคลาสสิก

ภาพใน Final Fantasy Pixel Remaster เป็นการหยิบยกเอาต้นฉบับที่ออกบน Famicom และ Super Famicom ที่เป็นกราฟิกแบบ 8Bit และ 16Bit ที่ยังใช้พิกเซลอยู่ แต่ได้ปรับให้มีความคมชัดขึ้นและเปลี่ยนสัดส่วนหน้าจอให้เข้ากับยุคสมัย และยังเพิ่มความกว้างของฉากเข้าไปด้วย ซึ่งจุดนี้แฟนเกมยุคใหม่ที่ไม่เคยเล่นภาคก่อนอาจจะมองว่ามันเชยไปแล้ว และสำหรับ 3 ภาคแรกถือว่าเปลี่ยนไปเยอะกว่า เพราะเป็นการปรับจาก 8Bit เปลี่ยนเป็น 16Bit ทำให้มันดูดีกว่าเดิมมาก

แต่หากมองที่เจตนาของผู้สร้างที่ต้องการนำความคลาสสิกของยุค 80’s – 90’s กลับมาให้แฟนรุ่นเก่าได้สัมผัสอีกครั้งคุณจะเข้าใจว่าทำไมต้องทำภาพแบบนี้ ใครอยากเล่นแบบกราฟิกสวย ๆ แนะนำให้ไปหาภาคบนสมาร์ตโฟนที่ปรับภาพใหม่หมดมาเล่นน่าจะดีกว่า แต่บอกเลยว่าใครเกิดทันเคยเล่นมาก่อนต้องชอบอย่างแน่นอน

ส่วนเพลงประกอบที่ถือเป็นตำนานของวงการเกม ที่แต่งโดย โนบูโอะ อูเอมัตสึ (Nobuo Uematsu) ก็ใส่มาแบบครบ ๆ และมีการลงทุนทำดนตรีใหม่ด้วยเครื่องดนตรีจริงใส่เข้าไป ทำให้ดูไม่เชยแต่สำหรับคนที่ชอบอะไรที่คลาสสิกเดิม ๆ อาจจะผิดหวังเล็กน้อยเพราะบางเพลงพอใส่ดนตรีใหม่เข้าไปมันเปลี่ยนไปจนขาดความคลาสสิกแบบดั้งเดิมไป แต่ข่าวดีคือผู้เล่นสามารถไปปรับเป็นเพลงให้เป็นแบบเดียวกับต้นฉบับได้ที่เมนูตลอดเวลา

เกมเพลย์สนุกเหมือนเดิมที่ปรับให้ทันสมัยขึ้น

รูปแบบการเล่นหลัก ๆ จะเหมือนเดิมที่มาในรูปแบบ RPG เทิร์นเบส มุมกล้องแบบ 2 มิติทั้ง 6 เกมเพราะมันอยู่บนคอนโซลยุคเก่า ที่มีการตัดเข้าฉากต่อสู้รวมทั้งฉากแผนที่เหมือนกับเกมแนว JRPG ยอดนิยมในยุคนั้น ซึ่งหลัก ๆ มันคือของเดิมที่เล่นเข้าใจง่ายแม้ว่ามันจะดูเชยไปหน่อย อย่างไรก็ตามมันก็เป็นแนวทางเหมือนกับกราฟิกที่เน้นทำมาเอาใจคนที่ชอบอะไรเดิม ๆ มากกว่า

แต่มันก็ไม่ได้ดูเชยเพราะปรับสมดุลเกมเพลย์เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย เพราะทุกภาคเราสามารถกดวิ่งได้ตั้งแต่ต้นไม่ต้องใช้สกิลหรือไอเทมช่วยแล้ว และในบางฉากคัตซีนจะสามารถกดข้ามได้ด้วย ส่วนระบบเมนูก็ปรับเปลี่ยนบางส่วนให้เข้าใจได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะมีการเปลี่ยนให้เข้ากับหน้าจอทีวียุคปัจจุบัน
และยังเพิ่มความเร็วของการอ่านตัวอักษรได้

ข่าวดีคือเราสามารถปรับให้ตัวละครต่อสู้แบบอัตโนมัติได้ด้วยถือว่าทำให้แฟนเกมรุ่นใหม่เข้าถึงได้ง่ายสุด ๆ และดูไม่เชย นอกจากนี้สมดุลของเกมถูกปรับด้วยบางจุดง่ายขึ้นแต่บางส่วนก็ยากขึ้น ต่อให้เคยเล่นแล้วก็อาจจะพบเจอกับสิ่งแปลกใหม่ได้แม้จะไม่ได้มากมายก็ตาม

รวมฮิตตำนาน Final Fantasy

วกมาพูดถึงเกม 6 ภาคที่เอามายำรวมขายใหม่ เริ่มกับ Final Fantasy ภาคแรกบน Famicom ที่แม้จะยังไม่มีอะไรมากแต่ก็มีระบบอาชีพให้ใช้งานรวมทั้งเกมเพลย์ที่เรียบง่ายคาถาที่โดดเด่นทำให้มันเป็นที่รู้จัก ต่อกับภาค 2 ที่มีการใส่เรื่องราวที่เข้มข้นกว่าเดิม แม้ว่าเราจะเลือกเปลี่ยนอาชีพไม่ได้แต่ตัวละครในเกมก็จะมีความสามารถตามอาชีพมาให้เลือกใช้แทน ส่วนภาค 3 จะโดดเด่นที่สุดเพราะมีการกลับมาของระบบอาชีพที่เพิ่มมาให้เลือกมากมายและเปลี่ยนได้ตลอด แถมยังมาพร้อมกับโลกกว้างให้สำรวจมากกว่าเดิม

ส่วนซีรีส์ Final Fantasy บน Super Famicom คอนโซล 16 Bit ก็มีมาให้เล่น 3 ภาค เริ่มกับภาค 4 ที่มีเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม และมีตัวละครหลักที่มีเสน่ห์แม้จะไม่มีระบบอาชีพให้เปลี่ยนแต่ความสามารถของแต่ละตัวละครที่แตกต่างมาทดแทนในส่วนนี้ ต่อเนื่องกับภาค 5 ที่เป็นการกลับมาอีกครั้งของระบบอาชีพ และยังมาพร้อมกับระบบการผสมความสามารถข้ามอาชีพได้ทำให้เกิดรูปแบบที่หลากหลายเช่นนักรบที่ใช้เวทมนตร์ได้

ปิดท้ายกับ Final Fantasy 6 ที่เป็นภาคหลักเกมสุดท้ายที่ออกบนคอนโซล 16Bit ที่ Square จัดเต็มมากเพราะมาพร้อมธีมที่ดูไฮเทคมากขึ้น โลกที่มีหุ่นยนต์และเครื่องจักรรวมทั้งโลกที่กำลังล่มสลาย มีความคล้ายกับภาค 7 แถมด้วยเรื่องราวที่ซับซ้อนขึ้นแถมยังมาพร้อมกับระบบใส่ Magic Stone ที่เพิ่มความสามารถและทำให้ทุกตัวละครใช้เวทมนตร์ได้ และมีหลายอย่างที่เหมือนผู้สร้างปูทางไว้เอาไปใช้ในภาค 7 อยู่เช่นงานออกแบบฉากที่มีหลายส่วนไม่ได้ดูเหมือนเกม 2D ถือเป็นอีกภาคที่ไม่ควรพลาด

โดยรวมแล้ว Final Fantasy Pixel Remaster อาจจะดูแพงไปหน่อยหากคุณซื้อหมดทุกภาค ยิ่งราคาขายแบบตลับที่ผลิตออกมาจำกัดทำให้หาซื้อยากและราคาพุ่งไปไกล ทำให้หลายคนอาจจะมองว่าแพง ซึ่งหากคุณไม่ได้ชอบต้นฉบับก็คงจะแพงจริง ๆ แต่หากคุณเป็นเด็กยุค 80’s – 90’s ที่ยังคิดถึงวันคืนเก่ามันไม่ได้แพงเลย เพราะมันมีความทรงจำดี ๆ ในอดีตที่อัดแน่นอยู่ในเกมเดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส