[รีวิวเกม] “Beat Me!” เกมฟรีที่จะทำให้คุณหัวร้อน พร้อมกับฟิสิกส์เกมที่สุดแสนจะพิศดาร !!
Our score
6.8

จุดเด่น

  1. กราฟิกมีการคุมสีได้ดี ดูแล้วสบายตา
  2. ด่านในเกมค่อนข้างจะครีเอท ยากดี (ฮา)
  3. ฟิสิกส์ในเกมทำออกมาได้ยอดเยี่ยม
  4. เฟรมเรทลื่นมาก แทบไม่มีจุดให้รู้สึกขัดตาเลย
  5. เล่นฟรี

จุดสังเกต

  1. เกมนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน เพราะเล่นแล้วหัวร้อนแน่นอน
  2. ตัวละครให้เล่นมีน้อยมาก
  3. คาแรกเตอร์ดีไซน์ไม่น่าจดจำ
  4. หาห้องเล่นออนไลน์ยากมาก

“Beat Me!” หรือชื่อเต็ม ๆ Beat Me! – Puppetonia Tournament ซึ่งเป็นเกมโหลดเล่นฟรีจากทางเว็บ Steam อีก 1 เกม Casual ไว้สำหรับเล่นฆ่าเวลาที่อาจจะทำให้คุณหัวร้อนจนแทบอยากจะปาคอมทิ้ง (ฮา) ด้วยจุดแข็งที่ตัวเกมได้โปรโมทออกมาว่านี่คือเกมที่มีฟิสิกส์ที่ปั่นประสาทผู้เล่นมาก ๆ ทำให้เกมนี้ถือว่ามีความท้าทายที่สูงในระดับนึงเลยทีเดียว

ตัวอย่างเกมเพลย์

GAME ABOUT

Beat Me! – Puppetonia Tournament เกมแนว Casual เน้นตะลุยด่านและ PVP สุดเกรียนกับเพื่อน ๆ ที่ถูกพัฒนาโดย Red Limb Studio ซึ่งจุดเด่นของเกมนี้คือฟิสิกส์ที่แสนจะพิศดาร พร้อมกับด่านและอุปสรรคต่าง ๆ ที่สุดจะครีเอต ตัวเกมนำเสนอมุมมองแนวด้านข้างพร้อมกราฟิก 3D ที่ดูเผิน ๆ มันน่ารัก สดใส น่าเล่น และคงจะเหมาะกับทุกเพศทุกวัย แต่อย่าให้หน้าตาของตัวเกมมันหลอกคุณเพราะสิ่งที่คุณจะพบเจอในเกมนี้คือความเกรียนและความหัวร้อนแบบสุด ๆ ไปเลยล่ะ

GAME PLAY

บังคับง่าย ควบคุมยาก หัวร้อนมาก แต่ท้าท้าย

เอาจริงเกมนี้ไม่ได้มีปุ่มบังคับที่ซับซ้อนอะไรมากมายเลย ก็แค่เดิน โจมตี ป้องกัน และใช้สกิลมีเพียงเท่านี้จริง ๆ แต่ความยากมันไปอยู่ตรงที่ฟิสิกส์ในเกมนี้ ที่ทำออกมาให้อารมณ์เหมือนเราอยู่นอกโลกที่มีแรงโน้มถ่วงน้อยกว่าปกติ ไม่ว่าการกระโดด หรือวิ่งต่าง ๆ มันจะดูเอื่อย ๆ เชื่องช้ามาก ทำให้คาดเดาทิศทางได้ยากสุด ๆ หรือแม้แต่การโจมตีที่เหมือนคนลืมกินข้าวเช้ามา ไม่รู้ว่าจะเหยาะแหยะเหมือนคนไม่มีแรงไปไหน

หลัก ๆ แล้วตัวเกมนี้จะถูกแบ่งเป็น 2 โหมดให้เล่นด้วยกันโดยจะมี Story กับ Tournament เดี๋ยวผมจะไล่ไปทีละโหมดละกันเพราะสไตล์การเล่นค่อนข้างจะต่างกันระดับนึงเลย

Story mode

เป็นโหมดเนื้อเรื่องที่ไม่ต้องสนเนื้อเรื่องเลยด้วยซ้ำ เพราะมันแทบจะไม่มีอะไรเลย อยากให้มองว่าเป็นโหมดตะลุยด่านก็แล้วกัน โดยหลัก ๆ โหมดนี้จะให้เราวิ่งไปเรื่อย ๆ จากจุดเริ่มต้นไปถึงเส้นชัยโดยที่ห้ามตาย ฟังดูเหมือนง่ายแต่อย่างที่บอกไปว่าฟิสิกส์ในเกมนี้มันควบคุมยาก แถมยังต้องมาเจออุปสรรคต่าง ๆ ที่สุดครีเอตแห่งการทำให้หัวร้อน ไม่ว่าจะมอนเตอร์ บอส ทางเดินหลอก ๆ ใบมีดยักษ์ และอีกมากมายที่คอยมาขวางทางเรา แถมแค่วิ่งให้ถึงเส้นชัยใช่ว่าจะผ่านนะ เพราะระหว่างทางเราจะต้องเก็บคะแนนเพื่อให้ดาวเราถึง 3 ดวง (ถ้าเก็บไม่ครบก็เคลียร์ไม่ 100%) นอกจากนี้หากเราตายตัวเกมก็ไม่มีจุดเช็คพอยท์ให้นะ ต้องกลับไปเริ่มตั้งแต่จุดเริ่มใหม่ทุกครั้ง ต่อให้แม้ว่าคุณจะตายตรงหน้าเส้นชัยก็ตาม (มันหัวร้อนก็ตรงนี้เนี่ยแหละ)

แต่ถ้ามีคนสงสัยว่าอ้าวถ้าด่านมันผ่านยากทำไมไม่ค่อย ๆ เล่นล่ะ วิ่งช้า ๆ คอยระวังทางให้ดี ๆ เดี๋ยวก็ผ่านได้เองแหละ หึหึ… มันทำอย่างนั้นไม่ได้น่ะสิ เพราะระหว่างวิ่งเราจะโดนแมปวิ่งไล่มา นั่นก็คือถ้าแมปบีบไล่เรามาจนแซงเราได้เราก็ตาย (อารมณ์เหมือนวงบีบในเกมแนว Battle Royal ประมาณนั้น) แถมยิ่งด่านหลัง ๆ แมปก็ยิ่งทวีคุณความไวขึ้นไปอีก นั่นจึงทำให้เราต้องตัดสินใจในการทำอะไรสักอย่างเร็วมาก ๆ เลยล่ะ

ระหว่างทางจะมีไอเทมเสริม ที่อาจจะทำให้คุณตายได้หากไม่ระวัง

แต่ถึงอย่างนั้นตัวเกมก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดไม่มีตัวช่วยให้ผู้เล่นอย่างเรา ๆ เพราะระหว่างทางเราอาจจะเจอไอเทมที่ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้น อย่างเช่นไอเทมที่เก็บแล้วจะกระโดดได้สูงขึ้น ดาบไฟเพิ่มดาเมจ ไอเทมที่ทำให้ลอยตัวกลางอากาศได้ แต่ทว่าไอ้การเก็บไอเทมนี่แหละที่ทำให้ผมตายมาหลายต่อหลายครั้งมาก เพราะถ้าคุณเก็บแบบไม่ระวังคุณจะร่วงลงไปตาย (ฮา) ใช่ครับ ไอเทมเหล่านี้ไม่รู้ทำไมมันชอบไปโผล่อยู่ในที่อันตราย ๆ อย่างที่ใกล้ ๆ เหว หรือดงมอนสเตอร์ นาน ๆ ทีจะโผล่มาให้เก็บแบบง่าย ๆ สักที

Tournament Mode

หรือก็คือโหมด PVP ที่สามารถเล่นออนไลน์หรือเอาไว้จับคู่เล่นกับเพื่อนก็ได้ ซึ่งหลัก ๆ แล้วโหมดนี้ก็คล้าย ๆ กับโหมด Story ต่างกันแค่ว่าไม่ต้องตะลุยด่านไปให้ถึงเส้นชัย แค่เอาชนะคู่ต่อสู้ของคุณก็พอ ซึ่งด่านต่าง ๆ ก็ยังคงให้ความบันเทิงอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะกับดักต่าง ๆ แมปที่ไล่เราเข้ามาเรื่อย ๆ บางด่านที่ยืนก็น้อยซะเหลือเกิน แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าโหมดนี้ถ้าได้เล่นกับเพื่อนคือฮามาก ๆ

ซึ่งก่อนเริ่มเล่นเราสามารถเลือกตัวละครได้ไม่ว่าจะเป็นนักดาบ เวท ธนู ขวาน และอื่น ๆ ซึ่งเอาจริงก็มีตัวให้เลือกเล่นน้อยมาก ๆ บางตัวอาจจะต้องไปปลดล็อกจาก Story เสียก่อน หรือไม่ก็ต้องเปย์ซื้อ จึงทำให้สายฟรีค่อนข้างที่จะเบื่อง่ายเพราะมีตัวให้เล่นน้อย หรือต่อให้มันจะสามารถปลดล็อกได้แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าโหมดเนื้อเรื่องเกมนี้มันผ่านยากมาก กว่าจะผ่านได้แต่ละด่านอย่างเก่ง ๆ เลยก็ต้อง 10 นาทีขึ้นไปโน้นแหละ ทำให้บางคนที่โหลดมาเพื่อ PVP โดยเฉพาะอาจจะเซ็งได้

เกมหาห้องนานมาก แนะนำให้ CO-OP กับเพื่อนดีกว่า สามารถจุผู้เล่นได้สูงถึง 6 คนเลยทีเดียว

เอาจริงผมก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนี่เป็นเกมใหม่ คนไม่ค่อยเล่นกัน หรือเซิร์ฟเวอร์มันไม่ดี จะเพราะอะไรผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เกมนี้ใช้เวลาหาห้องนานมาก นานจนไม่รู้ว่ามันมีคนเล่นออนไลน์จริง ๆ รึเปล่า เพราะผมเคยหาห้องทิ้งไว้นานเกือบครึ่งชั่วโมงยังไม่เจอห้องเล่นอ่ะคิดดู เพราะงั้นถ้าแนะนำชวนเพื่อนมาเล่นเลยจบ ไม่ต้องรอ แถมโหมดนี้การเล่นกับเพื่อนคือบันเทิงจริง ๆ ยิ่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนที่สนิท ๆ นะ คือฮาลั่นแชตอ่ะ

GRAPHIC

ตัวเกมมีกราฟิกที่โอเคใช้ได้เลยนะ เผลอ ๆ จะดีกว่าเกมที่ต้องเสียตังค์ซื้อมาเล่นบางเกมด้วยซ้ำ การคุมสีมูดโทนทำออกมาได้ยอดเยี่ยม คือโดยรวมเป็นเกมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองชัดเจนมาก ๆ แต่ในแง่ของคาแรกเตอร์ดีไซน์ต่าง ๆ ทั้งตัวละครเราหรือมอนสเตอร์ต่าง ๆ กลับไม่ค่อยมีภาพจำอะไรให้ติดตาหรือชวนพูดถึงเลยแม้แต่น้อย เป็นดีไซน์ทั่ว ๆ ไปที่เห็นตามท้องตลาดอยู่แล้วเลยไม่ค่อยว้าวสักเท่าไหร่ ส่วนเรื่องของเฟรมเรตนี่ต้องปรบมือให้จริง ๆ เพราะทำออกมาได้ลื่นมาก แอนิเมชันตัวละครลื่นไหลไม่มีอะไรให้สะดุดตาเลยแม้แต่น้อย

สรุป

ถึงแม้ตัวเกมจะถูกจั่วหัวไว้ว่าเป็นเกมแนว Casual เอาไว้เล่นฆ่าเวลา แต่ผมก็ยังมองว่ามันยังเฉพาะกลุ่มเกินไปหน่อย มันไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาอะไรเล่นเพลิน ๆ เพราะตัวเกมค่อนข้างจะเล่นยากเอาเรื่อง อาจจะทำให้ผู้เล่นหัวอุ่น ๆ ได้ตั้งแต่ตาแรกที่เล่นเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าคุณชอบความยาก ความท้าทาย ก็จัดไป ส่วนใครที่อยากเล่นเน้นฮา ๆ กับเพื่อนเกมนี้ก็เหมาะเลย แต่ถ้าไม่อยากเบื่อเร็วอาจจะต้องอดทนเก็บตัวละครหรือไม่ก็ต้องยอมควักกระเป๋าตังค์เปย์หน่อย เพราะตัวละครที่มีให้เลือกเล่นได้ค่อนข้างน้อยมาก ๆ แต่ในแง่การ PVP กับเพื่อนคือฮาจัด ๆ เลยล่ะ ย้ำนะว่าต้อง CO-OP กับเพื่อนถ้าซื้อมาหวังกดเล่นออนไลน์นี่ผิดหวังแน่ เพราะหาห้องยากมากกกกกกกก!!

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส