รีวิวเกม Asterix & Obelix Slap them All! เกมจากการ์ตูนคลาสสิกที่เกือบจะสนุกแล้ว
Our score
6.7

Asterix & Obelix Slap them All!

จุดเด่น

  1. กราฟิกแบบการ์ตูนที่ดูดีมาก
  2. เกมเพลย์เรียบง่ายและสนุกแบบคลาสสิก

จุดสังเกต

  1. ระบบและโหมดในเกมมีน้อยมาก
  2. ไม่มีโหมดออนไลน์

Asterix หนึ่งในการ์ตูนเก่าแก่ระดับตำนานของฝรั่งเศส ที่แม้ว่าบ้านเราจะไม่ได้โด่งดังอะไรมากแต่หากคุณเห็นภาพหรือตัวละครหลักก็คงจะคุ้น ๆ อยู่บ้าง ส่วนวงการเกมนั้นการ์ตูน Asterix ก็ถูกนำมาสร้างตลอดตั้งแต่ยุค 80S จนถึงปัจจุบัน และล่าสุดเพิ่งมีภาค Asterix & Obelix Slap them All! ออกวางขายบนคอนโซลทั้ง PS4 , XBoxone , Nintendo Switch และ PC

โดย Asterix & Obelix Slap them All! จะมาแนวต่อยตีศัตรูให้หมดฉากหรือที่เรียกว่า Beat ’em up แบบเกม Final Fight หรือ Double Dragon และใช้มุมมอง 2 มิติทำให้มันเหมือนนั่งเล่นเกมคลาสสิกหรือเกมตู้สมัยยุค 90S ที่เราคุ้นเคยกันดีผ่านตัวละครที่ดูน่ารักน่าชัง และเรื่องราวที่เรียบง่ายที่มาแบบในหนังสือการ์ตูนที่เราคุ้นเคย แต่หากคุณไม่ได้อินหรือไม่เคยได้ดูการ์ตูนมาก่อนอาจจะดูธรรมดาไปหน่อย

กราฟิกมาแนว 2 มิติแบบการ์ตูนที่ดูดีมาก

ภาพในเกม Asterix & Obelix Slap them All! จะมาแบบเรียบง่ายแต่ออกมาเข้ากับแนวทาง และความที่มันสร้างมาจากการ์ตูน 2 มิติ ทำให้ภาพในเกมเหมือนกับภาพวาดที่หลุดมาจากหนังสือจริง ๆ แถมยังใส่รายละเอียดที่สมจริง แถมตัวละครที่มีการเคลื่อนไหวที่ดูดี แม้ว่าอาจจะไม่ได้ลื่นไหลแต่ก็เหมือนได้รับชมการ์ตูนที่ฉายทางทีวี ส่วนคัทซีนส่วนใหญ่จะมาแบบภาพนิ่ง แต่ก็ถือว่าโดยรวมกราฟิกทำออกมาได้ดีกว่าที่คาดไว้

อีกความโดดเด่นคือแม้ว่ามันจะมาเป็น 2 มิติแต่ก็มีการลงทุนเก็บรายละเอียดเล็ก ๆ เช่นตัวละครประกอบที่เป็นศัตรูแม้จะมาประเภทเดียวกันแต่ก็จะมีใบหน้าที่แตกต่างกัน ซึ่งต่างจากเกมอื่นที่ตัวละครประกอบจะหน้าตาเหมือนกันหมด ส่วนเพลงประกอบก็เหมือนที่เราได้ยินได้ฟังในการ์ตูนเช่นกัน เพราะมาธีมสนุกสนานไม่ได้จริงจัง และเข้ากับโลกของเกมที่มาแนวยุคโบราณ และที่ดีคือมันมาพร้อมกับเสียงพากย์ที่มีมาแทบตลอดถือว่าลงทุนเมื่อเทียบกับฟอร์มเกม โดยรวมแล้วแม้กราฟิกจะดูย้อนยุคแต่ก็ถือว่าทำได้ดีผู้สร้างใส่ใจรายละเอียด

เกมเพลย์แนวต่อยตีที่เข้าใจง่าย

รูปแบบการเล่นก็เรียบง่ายเพราะอย่างที่บอกไปว่ามันมาแนว 2 มิติต่อยตีศัตรูในฉากให้หมดก็จะผ่าน ซึ่งมันก็ไม่มีอะไรยุ่งยากแค่เดินไปกำจัดศัตรูที่มีฉากแบบไม่ซับซ้อนแค่เดินไปตามจุดที่กำหนด แล้วต่อสู้กับบอสก็จะผ่านแต่ยังดีที่มันยังมีไอเทมที่ซ่อนอยู่ในฉากอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วมันคือแนวทางของ Beat ’em up ที่แทบไม่มีอะไรใหม่เสริมเข้าไปเลย แต่หากมองในแง่ดีมันก็เล่นง่ายเข้าใจง่าย

อย่างไรก็ตามตัวเกมไม่ง่ายนักเพราะศัตรูมีความหลากหลายมีท่าไม้ตายเฉพาะตัว และยังมาเป็นกองทัพแบบมืดฟ้ามัวดิน แต่ตัวละครเรามีอยู่ในฉากแค่ 2 ตัว ทำให้ผู้เล่นต้องใช้ฝีมือพอสมควร ต้องกดใช้ท่าไม้ตายที่มีท่าพิเศษที่ใช้ง่ายเพียงแค่กดปุ่มเดียว และยังมีท่าจับทุ่มที่รุนแรงแต่จะมีค่าพลังโจมตีกำหนดเป็นรูปสายฟ้าที่หากหมดไปจะใช้ท่าพิเศษไม่ได้ แต่วิธีคืนค่าพลังมันก็ง่ายดายแค่เดินไปต่อยศัตรูทำคอมโบก็ได้ค่าพลังสายฟ้าคืนแล้ว ซึ่งหากคุณมองว่ามันเกมเพลย์มันโหดเกินไปก็มีโหมดง่ายมาให้เล่นด้วย

ส่วนตัวละครหลักจะมีเพียงแค่ 2 ตัวละครทั้ง Asterix ที่มีความเร็วและท่าโจมตีในวงกว้างกว่าแต่จะมีพลังโจมตีไม่รุนแรง ส่วนคู่หูอย่าง Obelix จะตัวใหญ่ยักษ์ที่มีพลังทำลายสูงกว่า แต่จะมีความเร็วต่ำทำให้โดนโจมตีได้ง่ายกว่า โดยหากเราเล่นคนเดียวก็จะสามารถสลับเปลี่ยนตัวละครมาเล่นได้แค่กดปุ่มเดียวเท่านั้นและจะใช้ค่าพลังแยกกัน แน่นอนว่ามีโหมดเล่นกับเพื่อนได้ 2 คนที่จะช่วยเพิ่มความสนุกได้

เกือบจะดีหากมีความหลากหลายมากกว่านี้

ความสนุกของเกมจะอยู่ที่เกมเพลย์แนวต่อยตีแบบที่เราคุ้นเคยกันดี ยิ่งหากคุณเคยเล่นแนวนี้และชื่นชอบมาก่อน Asterix & Obelix Slap them All! มีความสนุกอยู่ครบ แต่ติดที่เกมออกวางขายปลายปี 2021 ทำให้มันขาดความหลากหลายในโหมดการเล่นอย่างมาก เพราะโดยรวมมันเหมือนเกมย้อนยุคเอาของเก่ามาขายใหม่มากเกินไปหน่อย ความจริงผู้สร้างน่าจะใส่รายละเอียดเข้าไปมากกว่านี้สักหน่อยจะทำให้มันดูดีกว่านี้มาก

เพราะโหมดในเกมมีน้อยมากแค่โหมดเนื้อเรื่องและ โหมดเล่นแบบฟรีที่มีฉากให้เล่นกันสนุก ๆ เท่านั้น ระบบอัปเกรดตัวละครก็ไม่มีทำให้มันเล่นได้ไม่นานก็จะรู้สึกซ้ำซากแล้ว แม้จะมีฉากวิ่งด้วยความเร็วเพื่อหลบหลีกศัตรู หรือฉากที่ต้องกดปุ่มรัว ๆ เพื่อวิ่งแข่งกันก็ธรรมดาไปหน่อย เพราะเกมแนวนี้ในอดีตก็เคยใส่ฉากแบบนี้มากันหมดแล้ว ทำให้ขาดความสดใหม่ไป แถมโหมดออนไลน์ก็ไม่มีมาให้เล่นด้วยทำให้ดูเชยสุด ๆ

โดยรวมแล้วสำหรับเกมจากการ์ตูนคลาสสิกที่มีอายุกว่า 60 ปีอย่าง Asterix & Obelix Slap them All! ถือว่าสนุกหากคุณไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะในส่วนของเกมเพลย์คลาสสิกแบบ Beat ’em up ผู้สร้างทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน เพราะมีความเรียบง่ายในการเล่นและท่าไม้ตายที่กดง่าย แต่มันขาดความหลากหลายในส่วนของโหมดที่มีมาให้เล่นน้อยไปเมื่อเทียบกับมาตรฐานเกมที่ออกวางขายในยุคนี้ ซึ่งหากคุณรับได้ก็ยังพอจะคุ้มค่าที่จะหามาเล่น

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส