รีวิวเกม The Company Man เกมแอ็กชัน 2 มิติฉบับมนุษย์เงินเดือน
Our score
7.0

The Company Man

จุดเด่น

  1. ไอเดียการเอามนุษย์เงินเดือนมาสร้างที่แปลกแหวกแนว
  2. แอ็กชันสนุกตามมาตรฐาน

จุดสังเกต

  1. กราฟิกและงานออกแบบธรรมดาไปหน่อย
  2. เกมสั้นไปหน่อยเล่นไม่นานก็จบ

หากคุณชอบเกมที่สร้างมาจากไอเดียแปลกแหวกแนวในการนำเสนอ ก็ต้องคิดถึงเกมจากค่ายอินดี้ เพราะมักจะนำเสนอความแปลกใหม่มากกว่ากราฟิกที่สวยงาม และมักจะมีการเอาเรื่องราวที่คาดไม่ถึงมาสร้าง และเกมที่นำมารีวิววันนี้ก็เป็นหนึ่งในเกมขายไอเดียที่นำชีวิตของ มนุษย์เงินเดือน มาสร้างเป็นวีดีโอเกมให้เล่นในชื่อ The Company Man

โดย The Company Man เป็นเกมแอ็กชันแบบ 2 มิติมุมมองด้านข้างแบบที่นิยมสร้างกันในอดีต และมันได้รับแรงบันดาลใจจากซีรีส์ยอดนิยมของอเมริกาอย่าง “The Office” เกมสร้างโดย Forrust Studio ค่ายเกมอินดี้จากประเทศมาเลเซียที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 และ The Company Man เป็นผลงานแรกของค่ายด้วย ถือว่าน่าสนใจมากแต่เสียดายที่มันไม่มีภาษาไทยเหมือนกับเกมที่สร้างจากประเทศเพื่อนบ้านเกมอื่น โดยเกมจะออกบน Nintendo Switch และ PC

ในเกมผู้เล่นจะได้รับบทเป็นคุณ Jim มนุษย์เงินเดือนที่ไม่พอใจกับระบบการทำงานของบริษัท เขาจึงลุกขึ้นสู้กับเจ้านาย ,หัวหน้าแผนก ไล่ไปจนถึง CEO ของบริษัท เขาได้ลุกขึ้นสู้ด้วยการใช้คีย์บอร์ดไปฟาดฟันศัตรู เพื่อปลดปล่อยตัวเองและเพื่อน ๆ สู่ความเป็นอิสระจากงานที่แสนจะน่าเบื่อ ถือเป็นเรื่องราวที่ดูแปลกประหลาดไปหน่อยแต่ก็น่าติดตามดี

กราฟิกแนวการ์ตูนที่เรียบง่าย

ภาพใน The Company Man จะนำเสนอแบบการ์ตูนที่มีงานออกแบบธรรมดาไปหน่อย และมีคัตซีนที่เป็นการ์ตูน 2 มิติด้วย แม้จะดูเชยและไม่มีรายละเอียดมากนัก แต่การเคลื่อนไหวของตัวละครทำได้ดี มีแอ็กชันที่ลื่นไหลตัวละครอาจจะมีหน้าตาที่ดูไม่ได้มีจุดเด่นแบบเกมจากญี่ปุ่นหรือจากตะวันตก แต่ก็ถือว่าเป็นก้าวแรกที่ดีสำหรับค่ายเกมเล็ก ๆ ที่เพิ่งจะมีผลงานแรกออกวางขาย

และที่ต้องชมคือฉากที่จำลองมาจากออฟฟิศ ที่แบ่งออกเป็นแผนกที่มีการกัดจิกการทำงานที่เหมือนกับว่าเราเป็นทาสได้เจ็บแสบ ส่วนเพลงและดนตรีประกอบอาจจะดูเรียบ ๆ ไปหน่อยยังไม่มีเพลงติดหูแบบที่เกมแอ็กชัน 2 มิติควรจะมี ทุกอย่างดูกลืนไปกับเกมเพลย์ อีกทั้งมันยังไม่มีเสียงพากย์ทำให้เราอาจจะไม่อินไปกับการเล่าเรื่องนัก แต่หากมองว่ามันตั้งใจมาแนวย้อนยุคและทุนสร้างก็มีไม่มากถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจแล้ว

เกมเพลย์แอ็กชัน 2 มิติในออฟฟิศ

The Company Man มาแนวแอ็กชัน 2 มิติที่เรียบง่าย มาแบบมุมมองด้านข้างและเราต้องกระโดดไปตามพื้นผิวแบบเกมแอ็กชันทั่วไป โดยฉากจะออกแบบมาดีในระดับมาตรฐาน มีการแบ่งออกเป็นด่านที่มีบอสที่เป็นหัวหน้าแผนกรอเราอยู่ และหลังจากจัดการได้จะค่อย ๆ ปลดล็อกอาวุธใหม่ ส่วนการเคลื่อนไหวของตัวละครหลักจะคล้ายกับเกมในอดีตอย่างการพุ่งตัวไปด้านหน้าด้วยความเร็วสูง และยังสามารถเอาแอ็กชันมาผสมผสานกันได้เช่นการกระโดดแล้วพุ่งตัวคล้ายกับเกม Rockman ด้วย

ส่วนฉากจะไม่ได้มีแต่แอ็กชันเท่านั้นเราต้องแก้ปริศนาในฉากด้วย แต่ก็เป็นแบบง่าย ๆ เช่นการหากลไกแล้วกดให้ประตูเปิด หรือต่อสู้กับศัตรูให้หมดฉากถึงจะผ่านไปได้ และไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลยความโดดเด่นอยู่ที่ศัตรูในเกมที่ผู้สร้างนำพนักงานในส่วนต่าง ๆ ของบริษัทมาจำลองเป็นศัตรูในเกมได้แปลกและดูตลก เช่นพนักงานขนเอกสารที่พร้อมจะเอารถเข็นมาชนเรา หรือสาวออฟฟิศที่พร้อมที่จะพ่นไฟใส่เราและยังมีตัวแปลก ๆ ที่โจมตีเราได้อย่างคาดไม่ถึงรออยู่เพียบ ถือว่ายากพอประมาณแต่ก็ไม่ได้โหดเกินไป ส่วนจุด Save จะเป็นเครื่องทำกาแฟที่ใช้เติมพลังได้ด้วย

ประชดสังคมออฟฟิศทั้งฉากและอาวุธ

นอกจากนี้ยังประชดประชันชีวิตมนุษย์เงินเดือนที่เหมือนทำงานจนเหมือนตกเป็นทาสหรือทำงานวนลูบเป็นหนูถีบจักร และยังจำลองฉากให้ดูโอเวอร์แต่เข้ากับรูปแบบการเล่นเช่นแผนกที่แอร์เย็นจนเป็นโลกน้ำแข็ง และบอสในเกมที่มาหลายรูปแบบทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ และค่อนข้างยากด้วยแต่หากจับจังหวะได้ก็จะผ่านไปได้ไม่ยากนัก เหมือนกับรูปแบบของเกมในอดีตเพราะบอสจะมีรูปแบบการโจมตีที่ตายตัว

ส่วนตัวละครหลักของเราจะใช้อาวุธหลักเป็นคีย์บอร์ดไปโจมตีศัตรูในออฟฟิศเป็นอาวุธระยะประชิด ส่วนนี้คล้ายกับเกมแอ็กชันย้อนยุคทั่วไป และยังมีอาวุธเสริมที่คล้ายกับปืนยิงแต่เราจะยิงซองจดหมายไปแทน และมันมาหลายรูปแบบทั้งซองจดหมายที่เหมือนปืนธรรมดา หรือยิงกระจายไปหลายซองคล้ายกับปืนลูกซอง หรือแบบพลังแรงสูงก็มี แต่จะไม่สามารถใช้ต่อเนื่องได้ต้องรอเก็บค่าพลังที่เหมือนเป็นการโหลดกระสุนก่อน และยังมีการอัปเกรดตัวละคร และซื้อไอเทมเพื่อเพิ่มค่าพลังด้วย

โดยรวมแล้ว The Company Man เป็นเกมที่สร้างได้ดีตามมาตรฐานมีสิ่งที่แอ็กชัน 2 มิติควรจะมี แม้จะไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ก็เล่นได้เพลิน ๆ ไปจนจบแถมยังมีความท้าทายให้ได้สัมผัสแบบยุคอดีตด้วย และยิ่งมองว่ามันเป็นเกมที่สร้างจากค่ายเล็ก ๆ ที่มีทีมงานสร้างเพียงไม่กี่คนแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีแล้ว ใครอยากลองสัมผัสชีวิตของมนุษย์เงินเดือนในแบบฉบับแอ็กชันแบบคลาสสิกแล้วมันก็ถือว่าคุ้มค่าอยู่

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส