ถ้าพูดถึงเกรท วอลล์ มอเตอร์ หรือ GWM หลายคนอาจจะคุ้นชื่อแต่นึกภาพไม่ออก งั้นถ้าเราบอกว่าพวกเขาคือผู้ผลิตรถยนต์ HAVAL H6 รถยนต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวของจีนที่สร้างยอดขายได้ 3 ล้านคันได้ภายในเวลาเพียง 8 ปี เข้าไปอยู่ในรายการ Top 10 SUVs ของโลกติดต่อกัน 5 ปีซ้อนละ เราเชื่อว่าหลายคนอาจจะร้องอ๋อขึ้นมาเลย แน่นอนว่าที่ GWM ประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้ก็เพราะว่าพวกเขาเป็นตัวจริงในด้านเทคโนโลยี ตั้งแต่แนวคิด กระบวนการผลิต จนสู่เทคโนโลยีที่มีในรถ ทำให้รถยนต์ของเขาเป็นยนตกรรมสุดล้ำในตลาด และเพื่อไม่ให้ทุกคนพลาดสิ่งดี ๆ วันนี้เราจะพาทุกคนไปแบไต๋เทคโนโลยีสุดล้ำที่ใช้ในการสร้างยนตกรรม จากเกรท วอลล์ มอเตอร์ กันครับ

ในฐานะ บริษัทที่ให้บริการการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีระดับโลก (Global Mobility Technology Company) เกรท วอลล์ มอเตอร์ ได้ขยายตลาดรถยนต์ในหลายประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่องภายใต้กลยุทธ์โลกาภิวัฒน์ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ GWM ได้เห็นและมั่นใจในศักยภาพเลยตัดสินใจสร้างโรงงานอัจฉริยะ (Smart Factory) อยู่ที่จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นเขตพัฒนาพิเศษ EEC โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตและเป็นตลาดที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียนเลยทีเดียว

ทั้งนี้เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มอุตสาหกรรมยานยนต์แบบเดิมให้ไปสู่ความเป็นระบบอัจฉริยะ (Intelligence) การเชื่อมต่อ (Network) และการใช้พลังงานสะอาด (Clean) เกรท วอลล์ มอเตอร์ เลยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่มีศักยภาพเพื่อนำมาส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ นั่นก็คือ Next-Generation Automotive ไม่ว่าจะเป็น

  • การใช้หุ่นยนต์ และระบบ Welding machine ที่ทันสมัยในกระบวนการผลิตและประกอบรถยนต์ในโรงงาน
  • การใช้แพลตฟอร์ม Lemon แพลตฟอร์มอัจฉริยะแบบโมดูล่าร์ระดับโลกที่สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการพัฒนาของรถซีดาน รถเอสยูวี และรถเอ็มพีวี ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงใหญ่ ส่งผลให้ตัวรถมีน้ำหนักเบา สามารถลดแรงระหว่างการขับเคลื่อนให้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การใช้แพลตฟอร์ม Tank แพลตฟอร์มระดับโลกเพื่อตอบโจทย์ทุกขีดความสามารถในการผลิตรถยนต์สำหรับการขับขี่แบบออฟโรด
  • การใช้ระบบ Coffee Intelligence ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนแห่งอนาคต (Future Mobility) ที่ประกอบด้วย ห้องโดยสารอัจฉริยะ (Intelligent Cab) การขับขี่อัตโนมัติ (Intelligent Driving) และการออกแบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Intelligent Electrical Architecture) ที่จะสร้างประสบกาณ์การขับขี่ที่สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงพัฒนาขีดความสามารถในการเชื่อมต่อระบบอินเทอร์เน็ต ที่จะสร้างความสัมพันธ์ใหม่และใกล้ชิดกันระหว่างคนและรถได้มากยิ่งขึ้น

ซึ่งทั้งหมดนี้คือโรงงานที่จะผลิต HAVAL แบรนด์รถ SUV ระดับโลก และเป็นรถเอสยูวีแบรนด์แรกในจีนที่เข้าสู่กลุ่มยอดขาย 6 ล้านคัน ด้วยยอดขายสะสมมากกว่า 6.5 ล้านคัน โดยรุ่นเรือธงอย่าง HAVAL H6 ยังครองใจผู้ใช้จนสามารถขึ้นแท่นเป็น ”รถเอสยูวีที่ขายดีอันดับ 1 ของประเทศจีนในแต่ละเดือน” ติดต่อกันถึง 91 เดือน และตอนนี้ HAVAL จาก GWM ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ All New HAVAL H6 Hybrid SUV ที่พิเศษด้วย LIFE+ (LIFE PLUS) ระบบอัจฉริยะที่ตอบสนองความต้องการในทุกเส้นทางการขับขี่ ซึ่งประกอบไปด้วย

L: ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Level 2

มาพร้อม 22 ฟังก์ชันอัจฉริยะที่ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย
มากยิ่งขึ้น อาทิ

  • ะบบช่วยจอดรถยนต์อัตโนมัติ 3 รูปแบบ หรือ Integration Auto Parking (IAP) ด้วยกล้อง 360 องศา และเซนเซอร์อัลตร้าโซนิค สามารถค้นหาที่จอดรถ คำนวณพื้นที่สำหรับจอดรถได้อย่างแม่นยำโดยสามารถช่วยจอดได้ทั้งในรูปแบบการถอยเข้าช่องจอด การจอดขนานเส้นทางเดินรถ และการจอดตามแนวเฉียง
360 degree panoramic image
  • ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ หรือ Auto Reversing Assistance (ARA) โดยระบบจะสามารถจดจำเส้นทางเมื่อรถขับเคลื่อนด้วยความเร็วต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และสามารถถอยหลังกลับตามเส้นทางเดิมได้ในระยะทางถึง 50 เมตร
Auto Reversing Assistance
  • ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากทางด้านข้าง หรือ Wisdom Dodge System (WDS) ระบบที่ช่วยตรวจจับรถขนาดใหญ่ อาทิ รถบรรทุกในเลนติดกัน โดยรักษาระยะห่างขณะขับผ่านและเมื่อพ้นระยะแล้วสามารถกลับสู่กลางเลนตามปกติ ทำให้เร่งแซงได้อย่างปลอดภัย
Wisdom Dodge System

ซึ่งทั้ง 3 ระบบข้างต้น ถือเป็นระบบความปลอดภัยในรถยุโรประดับพรีเมียม นับได้ว่าเป็นครั้งแรกหรือ First in Class ในรถที่มีขนาดและระดับราคาเดียวกันในตลาดประเทศไทยในเวลานี้

I: Intelligence V3.5

ระบบอัจฉริยะที่ช่วยสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ ระบบโต้ตอบด้วยเสียง (Voice Interaction) ระบบอินเทอร์เน็ตอัจฉริยะ (Intelligent Internet) รวมไปถึง ระบบหน้าจออัจฉริยะ ที่ช่วยให้เชื่อมต่อและค้นหาข้อมูลการเดินทางได้อย่างชาญฉลาด

F: FOTA

ระบบการอัปเกรดโปรแกรมออนไลน์ สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยการอัปเกรด Firmware ได้เองผ่านระบบออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องเอารถเข้าศูนย์บริการ ไม่ว่าจะเป็น ระบบการขับขี่อัจฉริยะต่างๆ ระบบขับเคลื่อน และระบบส่งกำลัง

E: EYE Q4

ชิปอัจฉริยะที่ประมวลผลได้รวดเร็วขึ้น สามารถประมวลผลภาพจากกล้องหลายตัวได้ในเวลาเดียวกัน และยังสามารถรักษาเสถียรภาพในการทำงานได้ดีหากมีการชนหรือมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น

+ (Plus)

ให้คุณ “มากกว่า” ด้วยเทคโนโลยีและการออกแบบอันล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็น

  • ระบบ GWM LEMON Hybrid DHT ซึ่ง All New HAVAL H6 ใช้แพลตฟอร์ม GWM LEMON ที่เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีโมดูลาร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ความปลอดภัยสูง และน้ำหนักเบา มาพร้อมโหมดช่วยการขับขี่หลายรูปแบบ ตอบสนองการขับขี่ในหลากหลายสภาพถนน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การออกแบบ ในส่วนของภายนอกที่ออกแบบตามหลักสุนทรียศาสตร์ โดยการใช้เส้นโค้งและลายเส้นที่เรียบง่าย แต่ประณีตและพรีเมียม ล้ำยุค และเหนือระดับ ภายใต้การนำทีมออกแบบโดย ฟิล ซิมมอนส์ (Phil Simmons) ผู้มีประสบการณ์ออกแบบรถยนต์แบรนด์ยุโรปชื่อดังมากมาย ภายในมีการออกแบบที่ดูสปอร์ต โฉบเฉี่ยว ด้วยวัสดุหนังหุ้มเบาะคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ รวมไปถึงแผงหน้าปัดแบบลอยตัว พร้อมจอ Infotainment ขนาดใหญ่ และจอแสดงผลแบบ Head Up Display (HUD) แสดงภาพข้อมูลการขับขี่ครบครันบนกระจก รวมไปถึงพวงมาลัยไฟฟ้า Multi-Function และหลังคาพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
  • เสริมความปลอดภัย ด้วยตัวถังรถที่ประกอบด้วยเหล็กกล้าที่มีความแข็งแรงสูงเป็นพิเศษกรอบประตูเหล็กแบบขึ้นรูป พร้อมคอพวงมาลัยที่ดูดซับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ และถุงลมนิรภัย 6 จุด

และทั้งหมดนี้คือเทคโนโลยีจาก เกรท วอลล์ มอเตอร์ ที่ทำให้พวกเขาได้รับการยกย่องให้เป็นแบรนด์รถ SUV ระดับโลก ก็น่าติดตามนะครับว่าหลังจาก GWM จะมีอะไรล้ำ ๆ ออกมาเซอร์ไพรส์พวกเราอีก ถ้าใครสนใจสามารถติดตาม GWM ได้ที่เว็บไซต์ http://havalh6.info/news หรือทางเฟซบุ๊ก GWM Thailand หรือทางแอปพลิเคชัน havalh6.info/Application-

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส