เมื่อพูดถึงคำว่าความพ่ายแพ้ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากได้ความรู้สึกหรือพบเจออะไรแบบนี้ แต่มันก็คือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเมื่อคุณเล่นเกม ที่ทุกเกมนั้นจะมีการแข่งขันหรือเอาตัวรอดซึ่งเป็นหัวใจหลักของสื่อชนิดนี้ และถ้าจะให้เราแยกย่อยความพ่ายแพ้ก็สามารถอธิบายออกมาได้หลายแบบที่มากกว่าแค่มีแพ้หรือชนะ ซึ่งความพ่ายแพ้ที่เราจะสื่อในบทความนี้ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ในการเล่นเกม  แต่มันคือความพ่ายแพ้ของตัวละครในเกมที่มักจะเกิดขึ้นมาจากในเนื้อเรื่องหรือระบบของเกมที่บังคับให้เรารู้สึกพ่ายแพ้ ซึ่งเราที่เป็นคนเล่นเกมในตอนนั้นไม่รู้มาก่อนว่าจะได้เจอสิ่งนี้ ซึ่งความรู้สึกพ่ายแพ้นี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งตอนต้นเกมกลางเกมไปจนถึงท้ายเกม แล้วแต่ว่านักพัฒนาจะใจร้ายใส่สิ่งนี้มาตอนไหนมากน้อยขนาดใด เรามาดูกันดีกว่าว่าความรู้สึกพ่ายแพ้ที่ว่านั้นมันคืออะไร แล้วเราจะรู้สึกพ่ายแพ้ได้ขนาดไหนมาดูไปพร้อมกันเลย

หมายเหตุ. เนื้อหาในบทความมีการเปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญในเกม

เหล่านักล่าปีศาจที่พ่ายแพ้แก่ราชาปีศาจ จากเกม Devil May Cry 5

Devil May Cry 5

เริ่มต้นเกมแรกกับความรู้สึกพ่ายแพ้ของคนเล่นเกม ที่แทบจะคาดไม่ถึงเลยว่านักล่าปีศาจสุดเกรียนอย่าง ดันเต้ (Dante) ในเกม ‘Devil May Cry 5’ จะพ่ายแพ้ให้กับปีศาจอย่างหมดทางสู้จนเกือบตายแบบนี้ เพราะถ้าใครที่เคยเล่นเกมซีรีส์ ‘Devil May Cry’ มาจะทราบดีว่าพ่อหนุ่มดันเต้ของเรานั้นเกือบจะเป็นอมตะ เพราะขนาดถูกดาบแทงทะลุตัวไปติดกำแพง พี่แกยังดึงดาบออกมาและสู้ต่อได้โดยที่ไม่เป็นอะไร แถมเขายังไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับปีศาจตนไหนมาก่อน จนมาเจอกับราชาปีศาจ ยูริเซ็น (Urizen) ที่เพียงแค่นั่งเฉย ๆ แทบไม่ได้ขยับตัวยังสามารถเอาชนะดันเต้และพวกได้อย่างง่ายดาย ที่เมื่อเปิดเกมมาเราจะได้เห็นความพ่ายแพ้นี้เลย จนเราคนเล่นรู้สึกถึงความแข็งแกร่งของราชาปีศาจตนนี้ ก่อนที่เราจะทราบภายหลังว่าดันเต้และเพื่อพ่ายแพ้อย่างไร ใครที่ไม่เคยเล่นบอกเลยว่าคุณพลาดของดีไปแล้ว แต่ถ้าจะให้ดีก็ไปหาภาคเก่า ๆ มาเล่นก่อนเพื่อปูเนื้อหา เพราะเนื้อเรื่องภาคนี้ดีมาก ๆ แถมเล่นสนุกกดรัว ๆ ได้สะใจมาก ๆ ส่วนแฟนเก่าที่ได้มาเล่นภาคนี้ต่างก็ตกใจและรู้สึกพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก(ไม่นับตอนที่ดันเต้เสียใจจนหลั่งน้ำตา นั่นคือการสูญเสียที่ไม่ใช่ความรู้สึกพ่ายแพ้) จนต้องอุทานออกมาว่าเป็นไปไม่ได้ออกมาตอนเล่นเลยทีเดียว

Devil May Cry 5

ฉากแต่งงาน ในเกม Final Fantasy X

Final Fantasy X

ย้อนเวลากลับไปสมัย ‘PlayStation 2’ ที่การติดตามข่าวสารวงการเกมยังอยู่เพียงในนิตยสารรายสัปดาห์ ที่ก่อนเกม ‘Final Fanyasy X’ จะวางจำหน่ายได้มีภาพที่ค่ายเกมปล่อยออกมาทำร้ายจิตใจแฟน ๆ นั่นคือรูปของการแต่งงานของ ยูน่า (Yuna) นางเอกในเกมกับตัวร้าย ที่เพียงแค่รูปเดียวนี้ก็ทำเอาคนเล่นเกมอย่างเรารู้สึกโกรธและพ่ายแพ้ขึ้นมาทันที  เพราะพระเอกต้องคู่กับนางเอกซิไม่ใช่มาแต่งงานกับตัวร้ายแบบนี้ และพอได้เล่นในเกมจริง ๆ ก็พอจะเข้าใจเหตุผลที่ยูน่าทำเพื่ออะไร (เธอต้องหาทางเข้าใกล้ตัวร้ายเพื่อกำจัดเขา) จนคนเล่นรู้สึกสบายใจ แต่ในวินาทีสุดท้ายที่พิธีกำลังถูกขัดจังหวะด้วยเหล่าพระเอก ตัวร้ายก็คว้าตัวยูน่ามาจูบที่เป็นการจบพิธีแต่งงานแบบสมบูรณ์ ที่เรียกว่าคนเล่นเกมในตอนนั้นร้องอุทานออกมาด้วยความพ่ายแพ้ ที่แม้ทั้งคู่จะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่การทำพิธีและจูบเจ้าสาวนั่นก็หมายความว่ายูน่าคือภรรยาของตัวร้ายไปในทันที ซึ่งสิ่งนี้เป็นการทำลายความรู้สึกของคนเล่นเกมในยุคนั้นเป็นอย่างมาก

Final Fantasy X

เธอไม่เคยจะตายจากไปในใจฉันยังมีเธอ จากเกม Fatal Frame III The Tormented

Fatal Frame III The Tormented

คราวนี้มาดูความรู้สึกพ่ายแพ้ของความรักกันบ้างกับเกม ‘Fatal Frame III The Tormented’ เกมที่เราจะได้รับบทเป็น เร คุโรซาว่า (Rei Kurosawa) ช่างภาพสาวสวยที่ถูกวิญญาณรอยสักตามอาฆาต จนเธอต้องหลุดไปในความฝันเพื่อหาทางเอาชีวิตรอดก่อนที่รอยสักจะพรากวิญญาณเธอไป ซึ่งนอกจากความหลอนสยองขวัญกับการหนีตายเหล่าผีแล้ว ตัวเกมยังบอกเล่าเรื่องราวของเรว่าเธอนั้นสูญเสียคู่หมั้นจากอุบัติเหตุรถชน ซึ่งเรคิดเสมอว่านั่นคือความผิดของเธอจนทำให้หญิงสาวจมอยู่กับความทุกข์ และในตอนจบหลังจากที่เรสามารถเอาชนะปีศาจสาวรอยสักได้ เธอก็ปลดปล่อยวิญญาณที่ติดอยู่ในคฤหาสน์แห่งการนอนหลับได้ หนึ่งในนั้นคือ ยู อาโซ (Yuu Asou) คู่หมั้นของเธอที่กำลังจะผ่านไปยังทะเลที่เป็นรอยต่อระหว่างโลกแห่งความเป็นและความตาย วินาทีสุดท้ายทั้งคู่ที่พบกันได้สวมกอดและบอกลากันเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เรจะปล่อยให้คนที่รักข้ามทะเลแห่งวิญญาณไป ทิ้งให้เรตื่นขึ้นมาจากความฝันพร้อมความรู้สึกเสียใจกับการลาจากคนที่รัก ที่แม้จะเป็นการบอกลาของคนที่รักแต่ลึก ๆ คนเล่นหรือใครที่เคยสูญเสียคนที่รักมาแล้ว จะรู้ดีว่าการลาจากแบบนี้ไม่ช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้นหรอก ตรงข้ามเราจะยิ่งเสียใจและรู้สึกเศร้ามากขึ้นไปอีก ซึ่งนี่ก็คือความรู้สึกพ่ายแพ้ของคนที่เล่นเกมนี้ไปพร้อมกับตัวละครเรนั่นเอง

Fatal Frame III The Tormented

โดนเหล่าร้ายยำบาทา ในเกม  Marvel’s Spider-Man

Marvel's Spider-Man

เชื่อว่าหลายคนคงจะไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่เมื่อเห็นเหล่าซูเปอร์ฮีโรโดนยำบาทาจากเหล่าร้าย เพราะอีกเดี๋ยวซูเปอร์ฮีโรคนนั้นก็จะกลับมาเอาชนะได้ แต่ในเกม ‘Marvel’s Spider-Man’ จะต่างออกไปเล็กน้อย เพราะในเกมนี้แทนที่ตัวร้ายจะมาเพียงคนเดียวหรือสู้ทีละคน แต่พวกมันกลับรวมทีมมารุมไอ้แมงมุมในชื่อ ‘Sinister Six’ ลองคิดดูว่าสู้กับตัวร้ายแบบ 1 ต่อ 1 ยังยากนี่มา 6 รุม 1 แบบนี้จะไหวไหม นี่ยังไม่รวมสภาพจิตใจที่ย่ำแย่จากการเสียชีวิตของป้าเมย์ซ้ำไปอีก เรียกว่าทำลายความหวังของคนเล่นตัวละครแบบสุด ๆ (รูปประกอบด้านบน) ซึ่งยังโชคดีที่ถ้าตอนนั้น อ็อตโต ออคตาเวียส (Otto Octavius) ยังคิดสงสารไอ้แมงมุมในฐานะคนที่เคยรู้จักและเขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่า ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ (Peter Parker) คือไอ้แมงมุม ไม่อย่างนั้นปีเตอร์คงจะเสียชีวิตตรงนั้นอย่างแน่นอน เรียกว่าทำลายความหวังกันแบบถาโถมที่มีเพียงเพื่อนบ้านที่แสนดีของเราเท่านั้นที่โดน

Marvel's Spider-Man

ทั้งที่ทำมาทั้งหมดเสียเปล่า จากเกม Far Cry 5

Far Cry 5

เชื่อว่าหลายคนที่ได้เล่นเกม ‘Far Cry 5’ จนจบคงจะรู้สึกหน้าชาเล็กน้อย กับการจบของเกมแบบที่ไม่เคยมีเกมไหนทำมาก่อน ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยดูหรือเล่นเกมนี้มาก่อน ตัวเกมจะบอกเล่าผ่านเราที่เป็นผู้ช่วยนายอำเภอที่เพิ่งมาทำงานไม่นาน โดยงานแรกที่เราต้องไปทำก็คือการตรวจสอบลัทธิวันโลกาวินาศที่เข้ายึดครองเมืองจนสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คน โดยตัวร้ายของเกมอย่าง โจเซฟ ซีด (Joseph Seed) ก็เอาแต่พูดว่าโลกกำลังจะพังพินาศเราต้องมานับถือพระเจ้าทำหลุมหลบภัยแล้วเราจะรอด ซึ่งสิ่งที่โจเซฟทำคือการบังคับผู้คนให้เชื่อในสิ่งที่เขาทำด้วยความรุนแรง ซึ่งไม่ว่าจะดูมุมไหนสิ่งที่ตัวร้ายพร่ำบอกตลอดทั้งเกมนั้นมันคือเรื่องไร้สาระที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ โจเซฟก็เป็นแค่ตัวร้ายที่แค่คนที่อยากมีอำนาจโดยเอาพระเจ้ามาบังหน้าเท่านั้น จนมาถึงช่วงท้ายเกมสิ่งที่โจเซฟพูดดันเกิดขึ้นจริงแบบที่พี่แกบอกทุกอย่าง ขณะที่เราและทุกคนก็พยายามหนีเอาชีวิตรอดในสงครามวันสิ้นโลกที่สุดท้ายก็ไม่ทัน แต่โชคดี (รึเปล่า) ที่โจเซฟช่วยเราไว้และอาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยนั้นกันสองคน นับเป็นความรู้สึกพ่ายแพ้กับสิ่งที่เรายึดมั่นว่าถูกขณะที่อีกฝั่งคือผิด ก่อนจะถูกตบหน้าด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นแถมยังได้รับการช่วยเหลือจากคนที่เราจะไปฆ่าด้วย เป็นตอนจบที่ชวนให้รู้สึกพ่ายแพ้จริง ๆ ใครที่เล่นเกมนี้มาต้องรู้สึกอย่างนั้นแน่นอน

Far Cry 5

เมื่อเกมซอมบี้แต่ตัวเอกโดนกัด จากเกม Dead Rising 3

Dead Rising 3

ถ้าใครที่เป็นแฟนภาพยนตร์การ์ตูนเกมหรือซีรีส์ซอมบี้ จะทราบดีว่าตัวเอกในเรื่องราวเหล่านี้จะไม่ถูกซอมบี้กัด เพราะในจักรวาลซอมบี้ถ้าใครถูกกัดข่วนก็จะกลายเป็นซอมบี้ทันทีถ้าไม่ได้หายามารักษา เมื่อเป็นแบบนั้นเราจึงไม่ได้เห็นตัวเอกถูกซอมบี้กัดไปจนจบเรื่อง แต่ในเกม ‘Dead Rising 3’ จะต่างออกไป เพราะในช่วงต้นเกมตัวเอกอย่าง นิค รามอส (Nick Ramos) กลับถูกซอมบี้กัดเสียอย่างนั้น ซึ่งในตอนแรกนิคก็คิดที่จะฆ่าตัวตายเพราะไม่อยากเป็นซอมบี้ แต่สุดท้ายเขาก็เปลี่ยนใจและใช้วินาทีสุดท้ายที่เหลืออยู่ช่วยผู้คนให้ได้มากที่สุด ซึ่งตรงจุดนี้เราที่เป็นคนเล่นต่างก็รู้สึกเหมือนนิคคือ เราจะต้องตายจริง ๆ ใช่ไหม อีกไม่นานเราก็จะกลายเป็นซอมบี้แล้ว ส่วนการไปหายาต้านไวรัสก็แทบจะเป็นไปไม่ได้แบบในภาคก่อน มันจึงเป็นการสิ้นหวังแบบสุด  ๆ ก่อนที่ตอนท้ายเรื่องเราจะทราบว่าตัวของนิคนั้นคือเด็กคนที่ถูกเลือกให้มีภูมิคุ้มกันซอมบี้ ที่ตัวร้ายทิ้งเอาไว้เป็นความหวังให้กับมนุษย์ (ตัวร้ายส่งเด็กกำพร้าที่เป็นซอมบี้ไปยังที่ต่าง ๆ ในอเมริกาเพื่อแพร่เชื้อ แต่นิคคือเด็กคนเดียวที่เป็นยาแก้) เราจึงได้เห็นฉากจบที่คู่ควรกับคนดีในสิ่งที่เขาทำ แต่ตอนที่รู้ว่านิคถูกกัดนี่เล่นเอาคนเล่นรู้สึกสิ้นหวังพ่ายแพ้ที่เกมเข้าใจแต่งเนื้อเรื่องจริง ๆ

Dead Rising 3

Aerith ตาย จากเกม Final Fantasy VII

Final Fantasy VII

เคยมีหลายคนเชื่อกันว่าการตายในวิดีโอเกมและในการ์ตูนซูเปอร์ฮีโรไม่เคยเกิดขึ้นจริง เพราะอีกเดี๋ยวตัวละครเหล่านั้นก็ฟื้นไม่ก็รอดตายอย่างปาฏิหาริย์ เพื่อให้เราได้เจอกับตัวละครเหล่านั้นอีก แต่ในเกม ‘Final Fantasy VII’ ไม่ใช่แบบนั้น เพราะตัวละคร แอริธ เกนส์เบอรู (Aerith Gainsborough) ที่ไม่ว่าจะดูมุมไหนเธอก็คือนางเอกของเกมแบบไม่ต้องสงสัย แต่ในช่วงกลางเกมเรากลับเสียตัวละครตัวนี้ไปแบบไม่มีวันกลับ ขณะที่เราผู้เล่นทำได้แค่เข้าไปโอบกอดเธอเท่านั้น ส่วนตัวร้ายก็ยืนยิ้มด้วยความยินดีเมื่อแผนการทำลายโลกจะสำเร็จ เพราะแอริธคือกุญแจที่ขัดขวางการทำโลกของตัวร้าย และการที่แอริธไม่ฟื้นก็เป็นกุญแจของเรื่องราวดังนั้นเธอจึงต้องตาย ซึ่งคนเล่นเกมในยุคนั้นที่ไม่ทราบเรื่องราวมาก่อนพอเล่นมาถึงตรงนี้คงมีตกใจอย่างแน่นอน เพราะหลังจากนี้จะปกป้องโลกได้อย่างไร เมื่อคนที่เป็นกุญแจในการปกป้องโลกตายไป แถมยังรู้สึกพ่ายแพ้กับการสูญเสียตัวละครนางเอกอีก เรียกว่าสิ้นหวังพ่ายแพ้กันแบบสองเด้งเลยทีเดียวสำหรับเกมนี้

Final Fantasy VII

เกมบังคับให้เราพ่ายแพ้ จากเกม Sekiro Shadows Die Twice

Sekiro Shadows Die Twice

คราวนี้เปลี่ยนมาดูความพ่ายตั้งแต่ต้นเกมอีกครั้งกับเกม ‘Sekiro Shadows Die Twice’ เกมที่เราจะได้รับบทเป็นนินจาไร้นายที่กำลังนั่งรอความตายในบ่อน้ำเก่า ที่จู่ ๆ เมื่อนายเหนือหัวมีภัยเขาจึงลุกขึ้นมาหน้าที่อีกครั้ง แต่การปกป้องนายเหนือหัวครั้งนี้ก็ผิดพลาดเพราะเรากลับต้องมาพ่ายแพ้อย่างหมดท่าพร้อมถูกตัดแขนจนขาด ที่ตรงนี้หลายคนอาจจะไม่รู้สึกสิ้นหวังอะไร เพราะเราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าตัวเอกจะต้องแขนขาดและได้แขนกลในการต่อสู้ แต่สิ่งที่ทำให้คนเล่นรู้สึกพ่ายแพ้ก็คือต่อให้เราเล่นเกมเก่งขนาดไหน แม้เราจะรับการโจมตีของตัวร้ายและสู้จนเอาชนะได้ ตัวเกมก็จะตัดบทให้เราแพ้อยู่ดี ต่างกับเกม ‘Devil May Cry 5’ ที่ถ้าเราเอาชนะตัวร้ายได้ตั้งแต่ต้นเกม(ตามเนื้อเรื่องเราต้องแพ้ แต่เราก็สามารถสู้ต่อได้จนชนะ) เกมก็จะตัดจบตรงนั้นเลย เพราะเราปราบปีศาจได้โลกก็กลับมาสงบสุข แต่เกม ‘Sekiro Shadows Die Twice’ แม้คุณจะชนะได้แต่สุดท้ายคุณก็ยังคงแขนขาดและพ่ายแพ้สิ้นหวังอยู่ดี นี่จึงเป็นความรู้สึกพ่ายแพ้ที่เกมยัดเยียดให้เราคนเล่นนั่นเอง

Sekiro Shadows Die Twice

ตอนจบที่แสนสิ้นหวัง จากเกม Last of Us Part 2

 Last of Us Part 2

เรียกว่าตั้งแต่ต้นจนจบเกม ‘Last of Us Part 2’ ก็ทำร้ายจิตใจคนเล่นเกมมาตลอดตั้งแต่ต้นเกมที่เราต้องทนเห็น โจเอล (Joel) ตายอย่างโหดร้าย แถมเกมยังให้เรามาเล่นเป็นคนที่ฆ่าโจเอลซ้ำไปอีก เรียกว่าทำร้ายจิตใจคนเล่นแบบสุด ๆ จนหลายคนด่าคนเขียนบทซึ่งเป็นประเด็นมาแล้วในช่วงที่เกมวางจำหน่าย จนมาถึงช่วงท้ายเกมเราที่ได้เล่นเป็น เอลลี่ (Ellie) ที่ต้องมาแก้แค้นคนที่ฆ่าโจเอลทั้งที่ใจเอลลี่เองนั้นก็ไม่อยากทำ แต่เธอก็หนีความรู้สึกโกรธแค้นในใจไม่ได้จนต้องออกตามล่าคนที่ฆ่าโจเอลอีกครั้ง จนในศึกสุดท้ายที่ชายหาดเอลลี่ก็เลือกที่จะไว้ชีวิตคนที่ฆ่าโจเอล เหมือนทุกอย่างที่เราและเอลลี่ทำมาทั้งหมดในเกมนั้นสูญเปล่า โจเอลที่ต้องมาตายฟรี ๆ แต่คนที่ฆ่าโอเอลกลับหนีไปมีชีวิตใหม่ ขณะที่เอลลี่ต้องมาทนทุกข์แบบนี้ไปตลอดชีวิต ที่ตอนจบเอลลี่กลับมาบ้านก็พบแต่ความว่างเปล่า นับเป็นความรู้สึกพ่ายแพ้ที่เกมยัดมาให้ผู้เล่นจนหลายคนรู้สึกอึดอัดจนหักแผ่นเกมทิ้งมาแล้ว ซึ่งใครที่เคยเล่นมาตั้งแต่ภาคแรกมาจะทราบดีถึงความรู้สึกสิ้นหวังนี้

 Last of Us Part 2

ฐานทัพโดนทำลาย จากเกม Metal Gear Solid V Ground Zeroes

Metal Gear Solid V Ground Zeroes

ถ้า ‘Last of Us Part 2’ คือเกมที่ทำร้ายจิตใจคนเล่นแล้ว เกม ‘Metal Gear Solid V Ground Zeroes’ ก็คงจะทำไม่ต่างกัน เพราะเกมภาคนี้ก็เริ่มต้นเรื่องราวด้วยความสิ้นหวัง เมื่อ ‘BigBoss’ ถูกส่งให้ไปช่วยตัวประกันที่เขตแดนทหารที่เรียกว่า ‘Ground Zeroes’ ซึ่งความจริงแล้วมันคือแผนการของตัวร้ายที่จะมาตลบหลังตอนที่ ‘BigBoss’ ไม่อยู่ โดยการทำลายฐานกลางทะเลจนเหลือแต่ซาก ทหารหลายนายถูกฆ่าตายเกือบหมด  ขณะที่ตัว ‘BigBoss’ เองก็ถูกระเบิดที่ซ่อนในตัวประกันจนทำให้ตนเองแขนขาดมีเหล็กเสียงที่หัว พร้อมกับเป็นเจ้าชายนิทราไปกว่า 9 ปีเต็ม เป็นแบบนี้ใครจะไม่แค้น เพราะกว่าที่เกมภาคต่ออย่าง ‘Metal Gear Solid 5 The Phantom Pain’ จะวางจำหน่ายก็เล่นเอาคนเล่นเกมรู้สึกสิ้นหวังและไม่รู้เลยว่า ‘BigBoss’ ของเราจะเป็นอย่างไรต่อไป นับเป็นการทำลายความหวังของคนเล่นเกมในตอนนั้นมากๆ ซึ่งใครที่ได้เล่นและรอคอยภาคต่อต่างรู้ถึงความรู้สึกสิ้นหวังนั้นดี

Metal Gear Solid V Ground Zeroes

การตายของ John Marston ในเกม Red Dead Redemption

Red Dead Redemption

ปิดท้ายกับเกมที่ทำลายความหวังของคนเล่นกับเกม ‘Red Dead Redemption’ ภาคแรก ที่หลังจาก จอห์น มาร์สตัน (John Marston) สามารถกำจัดพี่น้องกองโจรในอดีตลงสำเร็จเขาก็ได้กลับมาใช้ชีวิตกับครอบครัวตามที่หวัง โดยก่อนหน้านี้ตั้งแต่ต้นเกมจอห์นได้รับภารกิจปนบังคับจากตำรวจให้ไปจับเป็นหรือตายเพื่อนโจรที่เคยร่วมหัวจมท้ายมาในอดีต ที่เราจะได้รับรู้เรื่องราวนี้ในเกมภาค 2 ที่เป็นการเล่าย้อนกลับไปก่อนภาคแรก แต่เมื่อจอห์นทำสำเร็จสิ่งที่เขาได้รับคือการหักหลังจากตำรวจเสียอย่างนั้น ซึ่งตัวของจอห์นเองก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเพราะเขาไว้ใจตำรวจเหล่านั้นว่าจะให้เขามีชีวิตที่สงบสุขกับครอบครัว โดยการเสียชีวิตครั้งนี้ก็เป็นการดับความหวังของคนเล่นที่พยายามทำมาตลอดทั้งเกม เพราะไม่ว่าจะทำดีมาตลอดหรือทำแย่แบบสุด ๆ ในเกมขนาดไหน(เกมนี้จะมีค่าความดีความเลวตามสิ่งที่เราทำกับผู้คนในเกม) ผลสุดท้ายเราก็ถูกฆ่าตายอยู่ดี แถมลูกชายที่ควรจะมีชีวิตที่ดีก็ต้องมาเป็นนักฆ่าที่แก้แค้นแทนพ่อไปอีก เป็นการตอกย้ำความพ่ายแพ้ตอนท้ายเกมที่เล่นเอาคนที่เล่นในตอนนั้นถอนหายใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลยทีเดียว

Red Dead Redemption

ก็จบกันไปแล้วกับเกมที่ทำให้คนเล่นรู้สึกพ่ายแพ้ ที่มีทั้งแบบเกมบังคับให้เราพ่ายแพ้โดยไร้ทางสู้กลับ ไปจนถึงเนื้อเรื่องที่บีบหัวใจคนเล่นจนรู้สึกพ่ายแพ้ที่เราหยิบมานำเสนอ หวังว่าจะถูกใจกัน ซึ่งต้องอธิบายก่อนว่าความรู้สึกพ่ายแพ้ที่เราพูดถึงนี้ ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับทุกคนที่ได้เล่น  บางคนอาจจะไม่รู้สึกอะไรกับเกมที่เรายกตัวอย่างมา หรือบางคนอาจจะมีฉากอื่นในเกมเดียวกันที่รู้สึกพ่ายแพ้กว่า ยังไงก็เอามาบอกเล่ากันได้เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ส่วนคราวหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรในวงการเกมก็ติดตามกันได้ที่นี่ที่เดียว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส