เมื่อพูดถึงคนที่เล่นเกมหรือคนที่มักใช้เวลาว่างในการนั่งอยู่หน้าจอทีวีหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เพื่อเล่นเกมที่ตนเองชอบ มันอาจจะเป็นเรื่องปกติที่เรามักจะทำเป็นประจำเพราะเรารู้ว่าวิดีโอเกมเหล่านั้นคือสิ่งที่มอบความสนุกความตื่นเต้นและอะไรหลาย ๆ อย่างที่เราไม่สามารถหาได้จากโลกแห่งความเป็นจริง แต่คนที่เขาไม่ได้ชอบเล่นเกมหรือไม่เคยเล่นเกมแบบเราเวลาที่เขามองมาทางเราที่กำลังนั่งเล่นเกมอย่างสนุกบนหน้าจอมันคือสิ่งที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เรารู้สึก ยิ่งใครที่มีอายุหน่อยในสมัยที่วิดีโอเกมยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าในยุคนี้(ยุคนี้ถือว่ายอมรับมากกว่าสมัยก่อน) คงจะได้เจอวลีในตำนานอยู่หลายอย่างพร้อมคำว่าเชิงเสีย ๆ หาย ๆ อยู่มากมายเกี่ยวกับวิดีโอเกมที่เราเล่น วันนี้เราเลยรวบรวมวลีคำพูดที่คนซึ่งไม่ได้เล่นเกมเอามาต่อว่าคนที่เล่นเกมตั้งแต่อดีตรวมถึงปัจจุบันมานำเสนอจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกันเลย

เล่นเกมมาก ๆ แล้วจะโง่

เล่นเกมมาก ๆ แล้วจะโง่

เริ่มต้นด้วยวลีแรกที่เกมเมอร์ยุคก่อนสมัยที่เกม Famicom แบบใช้ตลับยังเป็นที่นิยมเกมเมอร์เหล่านั้นมักจะได้ยินคำต่อว่าจากเหล่าผู้ปกครองหรือคนนอกที่มองเห็นเรากำลังเล่นเกมแล้วพูดว่า เล่นเกมมาก ๆ จะทำให้โง่ ซึ่งเราเมื่อได้ยินก็คงจะรู้สึกไม่พอใจเมื่อได้ยินคนมาพูดแบบนี้ ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ การเล่นเกมก็ไม่ได้ทำให้เราโง่อย่างที่คนไม่ได้เล่นเกมเข้าใจ ตรงข้ามการเล่นเกมจะช่วยในการฝึกความจำเพราะตอนเล่นเกมเราต้องจดจำเส้นทางในเกมไอเทมที่ต้องใช้ระบบต่าง ๆ ว่าต้องเป็นอย่างไร รวมถึงการฝึกภาษาที่เชื่อว่าเด็ก ๆ หลายคนอ่านภาษาอังกฤษออกเพราะการเล่นเกม ซึ่งเราได้พื้นฐานมาจากการเรียนเป็นทุนเดิมแต่พอมาเล่นเราก็จะได้พบคำศัพท์หรือบทพูดของตัวละครที่มาพร้อมกับท่าทางเรื่องราวในเกม จึงทำให้เด็กรู้ว่าคำนี้หมายถึงอะไรนอกจากนี้ยังมีเมนูต่าง ๆ ในเกมที่เราต้องจำว่ามันคืออะไร พอทำมาก ๆ เข้าเล่นบ่อย ๆ เข้าเราก็จดจำไปได้เอง ดังนั้นการเล่นเกมไม่ได้ทำให้โง่อย่างที่คิดแต่การเล่นเกมก็ไม่ได้ทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้หรือฉลาดขึ้นเพราะทุกอย่างที่เรารู้จากเกมก็มาจากการเรียนในโรงเรียน ดังนั้นเกมที่เราเล่นจึงเหมือนเป็นตัวเสริมมากที่มาพร้อมความสนุกมากกว่า

เล่นเกมมาก ๆ แล้วจะโง่

เล่นเกมมาก ๆ จะสายตาเสีย

เล่นเกมมาก ๆ จะสายตาเสีย

เล่นเกมมาก ๆ จะทำให้สายตาเสียประโยคที่เราเหล่าเกมเมอร์ต้องได้ยินมาตลอดตั้งแต่สมัยก่อนมาจนปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนพูดอยู่ ซึ่งเราที่เป็นคนเล่นเกมเมื่อได้ยินประโยคดังกล่าวคงจะรู้สึกไม่พอใจจนไปถึงหงุดหงิด ซึ่งถ้าเราลองลดทิฐิลงมาแล้วลองฟังดูดี ๆ แล้วเราจะรู้ว่าในประโยคเชิงตำหนินั้นคือความรู้สึกห่วงใยเราอยู่ เพราะการเล่นเกมโดยการจ้องจอทีวีเป็นเวลานานหลายชั่วโมง(รวมมือถือด้วย) สายตาของเราจะต้องโดนแสงที่สะท้อนจากจออยู่ตลอดเวลาซึ่งมันส่งผลให้สายตาของเราเสียได้ ซึ่งในต่างประเทศเคยมีกรณีของเด็กที่ถึงกับตาบอดเพราะจอโทรศัพท์มือถือมาแล้ว ซึ่งทั้งหมดนั้นมาจากแสงสีน้ำเงินหรือแสงจากจอที่ส่องมากระทบดวงตาเราตลอดเวลาก็ทำให้ตายตาของเราทำงานหนักเกินไป

เล่นเกมมาก ๆ จะสายตาเสีย

โดยแสงแสงสีน้ำเงินนั้นมีคลื่นความยาวประมาณ 400-500 นาโนเมตรซึ่งแสงเหล่านี้จะมีอยู่ในดวงอาทิตย์ที่ทำให้สายตาของเราเสีย  ยิ่งใครที่เล่นเกมในห้องมืดที่มีเพียงแสงจากจออย่างเดียวจะยิ่งอันตรายจนอาจจะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม วิธีแก้ก็ง่าย ๆ เวลาเล่นเกมพยายามกะพริบตาและอย่านั่งจ้องจอนานเกินไปควรลุกขึ้นไปทำอย่างอื่นหรือหลับตาจะช่วยให้เรารักษาดวงตาให้อยู่กับเราไปนาน ๆ

เล่นเกมมาก ๆ จะสายตาเสีย

เกมมันคือสิ่งสิ้นเปลืองราคาแพง

เกมมันคือสิ่งสิ้นเปลืองราคาแพง

อีกหนึ่งเรื่องที่เราเหล่าคนเล่นเกมต้องเจอจากคนที่ไม่เล่นเกมคือเรื่องของราคาเครื่องเกมแผ่นเกมที่เราจ่ายในการซื้อความสุข ซึ่งก่อนที่เราจะหันหน้ากลับไปหาคนเหล่านั้นแล้วด่าออกไปว่าเกมไม่ได้ขายแพงทุกเกมยังมีแผ่นเกมมือ 2 ยังมีเกมลดราคาใน PC หรือมันคือความสุขของฉันอย่างน้อยก็ไม่เอาไปกินเหล้าหรือทำอย่างอื่นที่ไร้สาระ ซึ่งเราต้องรู้ก่อนว่าคนที่เขาไม่ได้เล่นเกมเขาไม่รู้ว่ามันมีเกมมือ 2 ที่ราคาถูกขายหรือเกมลดราคาหรือแจกฟรีแบบเรา แต่เขามองแค่ว่าเกมที่คุณกำลังนั่งเล่นหรือถืออยู่ในมือราคาเท่าไหร่ต่างหาก และการไปชี้หน้าด่าคนอื่นที่มาต่อว่าเราก็ไม่ใช่สิ่งที่เราควรทำเพราะทุกคนต่างมีความคิดหรือความชอบที่ต่างกัน บางคนอาจจะเห็นว่าการเดินทางท่องเที่ยวการหาของอร่อย ๆ แพง ๆ กินคือความสุข

เกมมันคือสิ่งสิ้นเปลืองราคาแพง

ขณะที่พวกเขามองว่าการจ่ายเงินหลักพันเพื่อซื้อเกมมาเล่นมันดูไม่คุ้มค่า ซึ่งแทนที่เราจะเอาเวลาไปต่อว่าหรือพูดเสียดสีกลับไป สู้เราเฉย ๆ และอยู่ของเราไปเพราะในความเป็นจริงเราก็ต้องยอมรับว่าเครื่องเกมหรือแผ่นเกมที่ออกใหม่ราคาก็ไม่ถูกจริง ๆ ใครที่อยากเล่นก่อนสนุกก่อนก็ต้องจ่ายแพงซึ่งมันคือเรื่องธรรมดา ดังนั้นเรามีความสุขเรามีเงินจ่ายเราไม่เดือนร้อนใครเราก็ไม่ต้องไปสนใจใครเลย

เกมมันคือสิ่งสิ้นเปลืองราคาแพง

คนเล่นเกมมักเป็นพวกชอบใช้ความรุนแรง(หัวร้อน)

หัวร้อน

เมื่อพูดถึงความรุนแรงในสายตาคนที่ไม่ได้เล่นเกมนั้นถ้าเป็นในอดีตที่ยังไม่ข่าวของเด็กติดเกมแล้วไปทำร้ายผู้อื่นแบบในสมัยนี้ ก็น่าจะมาจากอาการหัวร้อนของคนที่เล่นเกมในยุคนั้นเพราะถ้าใครที่เกิดทันหรือชอบเล่นเกมเก่า ๆ น่าจะทราบดีว่าเกมในยุคนั้นจะค่อนข้างยากและการตายแต่ละครั้งมันคือการเริ่มใหม่ทั้งฉาก และการเซฟเกมมันในยุคนั้นก็ไม่ง่ายดายแบบในยุคนี้ การเล่นไม่ผ่านตายซ้ำตายซากจึงเกิดขึ้น และพอมันเป็นบ่อยเข้าเราก็จะโมโหบ่นด่าหรือแสดงกิริยาไม่พอใจออกมา จนคนที่ไม่ได้เล่นเกมมาเห็นก็จะคิดว่าการเล่นเกมนั้นคือการแสดงความก้าวร้าวและภาพจำนี้ก็มีเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันที่แม้ภาพของความหัวร้อนของเหล่ารักเล่นเกมจะหายไปแล้วเพราะเกมมันเล่นง่ายขึ้น ตายก็แค่เริ่มใหม่จากจุดที่ตาย แต่ด้วยเทคโนโลยีข่าวสารที่ทันสมัยกับความไม่รู้จักคิดของเด็กบางคนที่พอก่อคดีร้ายแรงขึ้นมาก็โทษว่าเลียนแบบมาจากเกม ซึ่งเราคงจะเห็นข่าวเกี่ยวกับเกม GTA ที่เป็นแพะรับบาปเวลาที่มีเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับเกมในบ้านเรา

หัวร้อน

ซึ่งในต่างประเทศเองก็มีกรณีเดียวกับเราเหมือนกันกับเรา และในบ้านเขาก็มีการจำกัดอายุคนซื้อเกมแบบที่เราไม่ขายเหล้าบุหรี่ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 แต่ก็ยังเกิดปัญหาความรุนแรงโดยอ้างว่ามาจากเกมเหมือนในบ้านเรา หรือบางทีสื่อเองต่างหากที่พยายามโยงเช่นกรณีกราดยิงในโรงเรียนของต่างประเทศถ้าได้อ่านเนื้อข่าวจะเห็นว่าที่บ้านของผู้ก่อเหตุจะมีเกมนั้นเกมนี้อยู่ในบ้าน หรือมีคนบอกว่าคนก่อเหตุมักจะนั่งเล่นเกมที่มีความรุนแรงวันละหลายชั่วโมง ซึ่งในความเป็นจริงอาการหัวร้อนตอนเล่นเกมมันเป็นเรื่องปกติแต่การเล่นเกมแล้วเหมือนถูกสะกดจิตหรือทำตามในเกมนั้นมันเป็นไปได้น้อยถึงน้อยมาก ๆ ดังนั้นควรใช้วิจารณญาณในติดตามข่าวสารก่อนจะชี้นิ้วด่าโดยที่ไม่รู้ความจริง

หัวร้อน

เล่นเกมมาก ๆ จะไม่รู้จักแบ่งเวลา

เล่นเกมมาก ๆ จะไม่รู้จักแบ่งเวลา

ปัญหาเรื่องของการแบ่งเวลานั้นจัดเป็นปัญหาใหญ่ที่เราในฐานะคนที่เล่นเกมต่างต้องเจอกัน ซึ่งส่วนมากปัญหาการแบ่งเวลานั้นมักจะเกิดขึ้นในเด็กนักเรียนนักศึกษามากกว่าวัยทำงาน เพราะด้วยวุฒิภาวะกับสิ่งที่ต้องรับผิดชอบที่มีมากกว่านักเรียนนักศึกษาดังนั้นการแบ่งเวลาของคนวัยทำงานจึงไม่ค่อยจะมีปัญหา แต่จะมีปัญหาของคนวัยทำงานจะเป็นเรื่องของวันหยุดสำหรับคนที่มีครอบครัวที่เอาเวลาไปเล่นเกมจนไม่สนใจแฟนหรือครอบครัวจนทำให้เกมถูกมองว่าเป็นสิ่งไม่ดี ส่วนนักเรียนนั้นมักจะเอาเวลาว่างหลังเลิกเรียนมาเล่นเกมจนไม่ยอมทำการบ้านหรือเล่นเกมจนดึกดื่นแล้วก็ตื่นไปโรงเรียนไม่ไหว ซึ่งถ้ามองในกรณีของเกมก็มีส่วนผิดในเรื่องนี้ แต่ถ้าเรามองในมุมที่กว้างขึ้นผู้ปกครองที่มีอำนาจในการสั่งการก็ควรจะรับผิดชอบในเรื่องนี้มากกว่าจะมาโทษเกมว่าดึงเวลาของเด็ก ๆ ไป สิ่งที่ผู้ปกครองควรทำคือการบังคับดุสั่งให้เด็กทำการบ้านก่อนแล้วค่อยเล่นหรือให้เล่นเกมเป็นเวลาไป

เล่นเกมมาก ๆ จะไม่รู้จักแบ่งเวลา

ส่วนคนที่ทำงานแล้วและมีครอบครัวคนที่ต้องเข้าใจคือทั้งสองฝ่าย เพราะคนที่ทำงานเขาต้องเจอการกดดันจากที่ทำงานการเล่นเกมคือการระบายความเครียด แต่คนเล่นเกมแบบเราก็ควรแบ่งเวลาไปให้ครอบครัวหรือแฟนด้วยโดยอาจจะเล่นช่วงที่ว่างหรือทุกคนนอนแล้วแทนที่จะนั่งเล่นทั้งวันจนไม่สนใจใคร ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่เกี่ยวกับเกมเลยแต่มันเกี่ยวกับคนเล่นและคนรอบข้างมากกว่าที่พออะไร ๆ ไม่ได้ดั่งใจก็จะโทษเกมว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดขึ้น ลองเปิดใจมองให้ว้างแล้วคุณจะเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น

เล่นเกมมาก ๆ จะไม่รู้จักแบ่งเวลา

ร้านเกมคือแหล่งรวมคนไม่ดี

ร้านเกมคือแหล่งรวมคนไม่ดี

นับตั้งแต่อดีตที่มีร้านเช่าเกมถือกำเนิดขึ้นมาในบ้านเรา(รวมร้านคอมด้วย) ผู้คนก็มักจะมองเด็ก ๆ ที่ไปอยู่ตามร้านเช่าเกมหรือร้านคอมนั้นคือเด็กที่ไม่ดีเป็นแหล่งรวมคนไม่ดีที่ไปรวมตรงนั้น และถ้าลูกหลานของตนไปอยู่ที่แบบนั้นต้องติดเพื่อนหรือได้รับสิ่งไม่ดีติดมา ร้านเกมหรือร้านคอมจึงถูกมองว่าเป็นสถานที่ไม่ดีในสายตาของคนที่ไม่ได้เล่นเกม ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าเราไม่นับว่าร้านเช่าเกมหรือคอมพิวเตอร์คือสถานที่ให้บริการที่มักจะมีเด็ก ๆ หรือวัยรุ่นมาใช้บริการจึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะได้เห็นคนหลากหลายแบบอยู่ในนั้น บางคนถึงขนาดซื้อคอมหรือเครื่องเกมให้ลูกไปเล่นที่บ้านเพื่อลดปัญหาเหล่านี้ ซึ่งมันก็จะโยงไปถึงจุดแรกที่เราได้กล่าวมา

ร้านเกมคือแหล่งรวมคนไม่ดี

ซึ่งถ้าเรามองแบบเป็นกลางโอกาสที่เด็กเล็กหรือวัยรุ่นจะไปได้รับสิ่งไม่ดีนิสัยแย่ ๆ จากคนที่ไม่ดีจากร้านเกมก็มีและเป็นไปได้สูงดูได้จากข่าวที่เกี่ยวกับร้านเกมที่เราได้เห็นบ่อย ๆ ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับการดูแลลูกหลานของท่านด้วยว่าควบคุมเวลาหรือดูแลการเข้าร้านเกมนั้นแบบไหน แต่ในยุคนี้ที่เครื่องคอมพิวเตอร์รวมถึงเครื่องเกมมีราคาที่ถูกมากกว่าอดีตร้านเกมกับคอมที่เคยมีอยู่มากมายก็ค่อย ๆ ลดลงไปมากกว่าอดีต แต่สายตาการถูกมองจากคนที่ไม่ได้เล่นเกมก็ยังคงอยู่ และเด็กทุกคนที่เข้าร้านคอมบางทีเขาก็อาจจะเข้าไปทำรายงานหาข้อมูลหรือทำอย่างอย่างเพราะไม่มีคอมพิวเตอร์ที่บ้าน ดังนั้นก่อนจะบอกว่าร้านเกมคือสถานที่ไม่ดีคุณลองเปิดใจและเข้าไปดูแล้วคุณจะรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คุณคิดเลย

ร้านเกมคือแหล่งรวมคนไม่ดี

เล่นเกมมาก ๆ ทีวีจะพังเร็ว

เล่นเกมมาก ๆ ทีวีจะพังเร็ว

สำหรับเรื่องนี้ชาวเครื่องเกมคอนโซลที่ต้องใช้ทีวีในการเล่นเกมอาจจะโดนคำพูดประมาณนี้มาบ้างไม่มากก็น้อยตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แล้วอะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คนไม่ได้เล่นเกมคิดว่าการเล่นเกมจะทำให้ทีวีพังเร็ว ? เท่าที่ได้สอบถามเหล่าคนที่ไม่ได้เล่นทุกคนจะมองหลัก ๆ อยู่สองอย่างนั่นคือการเล่นเกมคือการเชื่อมต่อระบบบางอย่างจากเครื่องเกมเข้าทีวี ซึ่งการถ่ายทอดภาพจากเครื่องเกมใส่ทีวีอาจจะทำให้ทีวีทำงานหนักกว่าปกติจนทำให้ทีวีพังเร็ว ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันแค่เป็นการแสดงภาพขึ้นจอไม่ต่างอะไรกับการต่อเครื่องเล่น DVD เข้าทีวีแต่คนซึ่งไม่ได้เล่นเกมเขาไม่รู้ กับอีกหนึ่งอย่างนั่นคือการใช้งานทีวีที่มากกว่าปกติที่นอกเหนือจากการใช้งานทั่วไป นั่นก็หมายถึงการเล่นเกมบนทีวีคือการยืดเวลาในการพักเครื่องของทีวีให้ทำงานที่มากขึ้นนานขึ้นจากเดิมจนอาจะทำให้ทีวีเสียเร็ว

เล่นเกมมาก ๆ ทีวีจะพังเร็ว

ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วสาเหตุที่ทำให้มีวีเสียเร็วก็คือการตั้งค่า Brightness กับ Contrast มากเกินไปยิ่งปรับหน้าจอให้สว่างหรือสีมากเกินไปทีวีก็ยิ่งใช้พลังงานมากขึ้นกว่าปกติ ดังนั้นการตั้งค่าให้จอสว่างกับสีเกินความจำเป็นจึงทำให้เครื่องทำงานหนักกว่าปกติ และการเปิดทีวีทิ้งไว้หรือการเล่นเกมนาน ๆ ก็เป็นหนึ่งในส่วนที่ทำให้ทีวีพังเร็วขึ้นเช่นกันดังนั้นคำกล่าวที่ว่ามาการเล่นเกมจะทำให้ทีวีพังเร็วก็ถูกต้องส่วนหนึ่งเช่นกัน

เล่นเกมมาก ๆ ทีวีจะพังเร็ว

เกมมีฉากโป๊เปลือยและความรุนแรงที่เด็กได้รับจากเกม

ความรุนแรงที่เด็กได้รับจากเกม

อีกหนึ่งประเด็นที่คนซึ่งไม่ได้เล่นเกมมักจะหยิบยกมาพูดถึงกันบ่อย ๆ พอ ๆ กับความรุนแรงของเหล่าเกมเมอร์ที่มักจะโทษว่าอาการหัวร้อนขี้โมโหนั้นมาจากเกมที่เล่น ซึ่งเราขอเอามาแยกย่อยจากหัวข้อด้านบนเพราะเกมมักจะถูกมองว่าเป็นสื่อกลางที่กระตุ้นให้คนเล่นเกมเกิดความรู้สึกอย่างทำแบบในเกม เช่นเวลาเล่นเกม GTA แล้วรู้สึกอยากออกไปเอาไม้ตีหัวคนหรือปล้นแท็กซี่เพื่อเอาเงิน ซึ่งความจริงแล้วเกมไม่ใช่สื่อที่สามารถสะกดจิตใครให้ทำได้เหมือนกับภาพยนตร์ที่ไม่สามารถทำให้คนกลายเป็นคนบ้าและทำเลียนแบบได้ แต่คนที่เป็นแบบนั้นต้องมีอาการทางจิตที่ไม่ปกติจากคนทั่วไป พวกเขามักจะถูกกระตุ้นและหลงใหลอะไรได้ง่ายกว่าคนทั่วไปกับอีกพวกที่พอเวลาก่อเหตุแล้วไม่รู้จะไปโทษอะไรก็ไปโทษเกมหรือสื่อเองนั่นพยายามโยงซึ่งเราได้อธิบายไปแล้ว

ความรุนแรงที่เด็กได้รับจากเกม

ส่วนในแง่ของฉากโป๊เปลือยนั้นต้องอธิบายต่อว่าวิดีโอเกมในบ้านเรานั้นไม่ได้จำกัดอายุคนซื้อแบบต่างประเทศดังนั้นการที่เด็กอายุต่ำกว่า 13 จะซื้อเกม GTA ไปเล่นจนได้เห็นฉากความรุนแรงหรือโป๊เปลือยจึงไม่ใช่เรื่องแปลก รวมถึงความอิสระของอินเทอร์เน็ตที่สามารถหาดูหาโหลดได้ง่าย ๆ ซึ่งทางผู้พัฒนาเครื่องเกมก็เล็งเห็นเรื่องนี้จึงมีการกำหมดเวลาปิดเครื่องหรือจำกัดเรตของเกมที่จะเล่นในเครื่อง ซึ่งเราในฐานะผู้ปกครองต้องเรียนรู้ถึงระบบเหล่านั้นด้วยจะได้ปรับแต่งหรือควบคุมสิ่งที่ลูกหลานจะเล่นได้ หรือถ้าทำไม่เป็นตัวเราผู้ปกครองควรดูแลลูกหลานอย่างใกล้ชิดและศึกษาเกมที่เด็ก ๆ เล่นว่าคืออะไรจะได้รู้ทันและห้ามเด็ก ๆ ได้ และการดุด่าต่อว่าเด็กที่เล่นเกมแบบนี้เพราะความไม่รู้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรทำ แต่ควรตักเตือนด้วยความหวังดีให้เขารู้ว่าเกมนี้มันยังไม่ถึงเวลาที่ต้องเล่น หรือเล่นได้แต่ต้องเล่นเป็นเวลาและอยู่ในสายตาของเรา ซึ่งเหล่าผู้ปกครองต้องสนใจและเรียนรู้มากกว่าจะมาชี้ด่าเกมว่าเป็นต้นเหตุเวลาเกิดเรื่อง

ความรุนแรงที่เด็กได้รับจากเกม

เล่นเกมไม่มีอนาคตเสียเวลาเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

นักพัฒนาเกม

เล่นเกมไม่มีอนาคตเสียเวลาเอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า เป็นหนึ่งในวลีเด็ดที่เรามักจะได้ยินมาจากคนที่ไม่ได้เล่นเกมบ่อยมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบันซึ่งถ้าใครยังพอจำได้ในอดีตเคยมีวลีที่คนสมัยก่อนพูดถึงอาชีพที่ไม่ควรคบเป็นคู่ชีวิตอย่างรถไฟ เรือเมล์ ลิเก ตำรวจ หรือพวกเต้นกินรำกินไม่เจริญที่ในยุคนั้นคงจะหมายถึงอาชีพเหล่านั้นต้องเดินทางอยู่ไกลบ้านไกลครอบครัวจึงอาจจะนอกใจได้ ซึ่งในยุคนี้คำกล่าวนี้ดูจะไม่เป็นจริงเลยเหมือนกับวลีที่ว่าการเล่นเกมไม่มีอนาคตเสียเวลานั้นในช่วงปี 80 ถึง 90 ถือเป็นคำพูดที่จริงและคนเล่นเกมยุคนั้นคงจะเถียงไม่ออกเพราะนอกจากเปิดร้านเช่าเกมขายเกมกับทำหนังสือเกมแล้วก็แทบไม่มีช่องทางสร้างรายได้จากเกมเลย

หนังสือเกม

แต่มาในยุคนี้เราสามารถพูดได้เต็มปากว่าเราสามารถสร้างได้จากเกมหลายช่องทางไม่ว่าจะเป็นยูทูบเบอร์สำหรับการนักแคสเกมรีวิวเกมที่หลายคนก็มีรายได้มีชื่อเสียงจากช่องทางนี้ หรือถ้าคุณมีฝีมือในการเขียนก็สามารถเขียนบทความหรือรีวิวเกมตามเวบไซต์ต่าง ๆ ก็สามารถสร้างรายได้ที่เกี่ยวกับเกมอีกทาง หรือจะเอาแบบจริงจังกว่านี้ก็คงจะเป็นการลงแข่งเกมอย่างจริงจังที่มีอยู่มากมายในบ้านเราแต่นั่นต้องแลกมาด้วยการฝึกฝนความพยายามที่ไม่ต่างกับกีฬาชนิดอื่น ๆ หรือถ้าใครมีความฝันอยากจะเป็นนักพัฒนาเกมก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เพราะในบ้านเราก็มีเกมมีบริษัทที่สร้างเกมชื่อดังวางขายบน PS4 หรือ  Steam ก็หลายเกม หรือถ้าคุณมีความฝันที่ใหญ่กว่านี้อย่างการไปเป็นนักพัฒนาเกมที่ต่างประเทศก็มีคนไทยหลายคนที่ได้อยู่ร่วมในเกมชื่อดังอย่างคุณศิรดา ลีลาวณิชย์ เจนเซ่น นักออกแบบเกมชื่อดังที่มีผลงานอย่าง  Far Cry Primal, Assassin Creed Unity ไปจนถึง Crysis 2 ซึ่งนั่นต้องใช้ความพยายามการเรียนรู้ฝึกฝนเป็นอย่างมาก ถ้าคุณมีความพยายามตั้งใจเรียนความฝันนั้นต้องเป็นจริงอย่างแน่นอน เมื่อนั้นเราจะได้พูดอย่างเต็มปากว่าเพราะการชอบเล่นเกมของเราจึงทำให้เรามีวันนี้ขึ้นมาได้

ศิรดา ลีลาวณิชย์ เจนเซ่น

ซื้อมาอีกแล้วราคาเท่าไหร่

ซื้อมาอีกแล้วราคาเท่าไหร่

ปิดท้ายด้วยคำพูดที่เหล่าคนเล่นเกมต่างไม่ชอบและหวาดกลัวที่สุดนั่นคือคำพูดของคนที่มีอำนาจเหนือเราอย่างแฟนภรรยาหรือคุณแม่คุณแม่ผู้ปกครองเราที่ถ้าเขาหรือเธอเหล่านั้นไม่ชอบเล่นเกมก็คงจะมีอาการบ่นหรือไม่พอใจเวลาที่เราซื้อแผ่นเกมเครื่องเกมใหม่ ๆ เข้าบ้าน ที่แม้เราจะสามารถซ่อนแผ่นเกมเครื่องเกมตอนเข้ามาบ้านได้แต่พอตอนที่เราเปิดเล่นคนเหล่านั้นจะเดินมาถามเราทันทีว่าซื้อเกมมาใหม่อีกแล้วหรอ ซื้อมาราคาเท่าไหร่ ซื้อมาอีกแล้วนะ ซึ่งเราที่ซื้อมาในราคาหลักพันก็คงต้องโกหกไปว่าซื้อมาราคาไม่กี่ร้อยบาทหรือยืมเพื่อนมานั่นอาจจะทำให้เรารอดตายไปได้ และถึงแม้ว่าจะมีการซื้อเกมผ่านระบบออนไลน์อย่าง Steam หรือ PSN แต่เราก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมหรือบางทีการได้แผ่นมาวางมาใช้มันก็ดูจะมีอะไรจับต้องกว่าซื้อแบบออนไลน์ ซึ่งการบ่นของพวกเขาหรือเธอเหล่านั้นเป็นสิทธิ์ที่เขาควรกระทำในฐานะผู้ปกครองที่อยู่เหนือกว่า เราที่อยู่ต่ำกว่าก็ต้องพยายามหาทางหลีกเลี่ยงและหลบกันต่อไป เพราะถึงจะพยายามบอกไปว่าเกมนี้มันดีมันสนุกมันสุดยอดขนาดไหนพวกเขาหรือเธอก็คงไม่สนใจในสิ่งที่คุณบอกนอกจากราคาที่คุณซื้อมา ยังไงก็ขอเป็นกำลังให้ชาวเกมเมอร์ทุกท่านรอดพ้นเรื่องนี้ไปได้อย่างปลอดภัย

ซื้อมาอีกแล้วราคาเท่าไหร่

ก็จบกันไปแล้วกับ 10 ประโยคที่เรามักจะได้ยินจากคนที่ไม่ได้เล่นเกมพูดมา ซึ่งเราในฐานะเกมเมอร์หรือคนที่ชอบเล่นเกมยามว่างก็คงรู้สึกไม่พอใจที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้นทั้งทางตรงจากปากหรือตัวหนังสือในอินเทอร์เน็ต และหลายคนก็เลือกที่จะแสดงความเห็นเชิงรุนแรงต่อว่าออกไปเพื่อบอกถึงมุมมองของคนที่ชอบเกมได้รับรู้จนกลายเป็นประเด็นให้ได้ถกเถียงไม่รู้จบ ซึ่งถ้าเรามองแบบเป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายไหนแล้วมาคิดตามในสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายพูดมาเราก็จะรู้ว่าไม่มีอะไรถูกหรือผิด เพียงแค่ทั้งสองฝ่ายไม่เปิดใจรับฟังมุมมองของอีกฝ่ายและยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจ ซึ่งถ้าเราเปิดใจรับฟังเราจะไม่โกรธและรู้ถึงวิธีแก้ที่ถูกต้องและคงจะไม่เกิดปัญหาทั้ง 10 ข้อที่เราได้กล่าวมา ยังไงก็ขอให้บทความนี้เป็นสื่อกลางไปถึงคนที่ไม่ได้เล่นเกมได้เห็นถึงมุมมองของคนที่เล่นเกมว่าคิดอย่างไร ส่วนที่เล่นเกมก็จะได้เข้าใจว่าสิ่งที่คนไม่เล่นเกมต้องการคืออะไรอีกด้วย และถ้าใครมีมุมมองอะไรที่น่าสนใจอีกก็บอกกันมาได้เพื่อแลกเปลี่ยนความเห็นกัน ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรก็ติดตามกันได้

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส