ในขณะที่ Among Us ยังเป็นที่นิยมกับเกมเมอร์มาปีกว่า ๆ แน่นอนว่าจะต้องมีเกมแนวเดียวกันออกมาแข่งกับต้นฉบับ ซึ่งในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีเกมที่ชื่อว่า Goose Goose Duck เริ่มได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในประเทศไทย ตัวผมเองก็ถูกเพื่อนชวนให้เล่น ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าตัวเกมน่าจะแบบเดียวกับ Among Us แค่มีด่านและเอกลักษณ์ที่แตกต่างไม่มาก แต่หลังจากที่ผมได้เล่นกับเพื่อนมาสักพัก ก็บอกได้ว่า Goose Goose Duck ให้ความรู้สึกสนุกที่ต่างจาก Among Us จริง ๆ ครับ

ความแตกต่างของเกมเพลย์

โหมดเกมต่าง ๆ

ใครที่เล่น Among Us จะรู้ว่าตัวเกมจะมีโหมดให้เล่น 2 โหมด นั่นก็คือ Classic และ Hide & Seek ซึ่งในส่วนนี้ของ Goose Goose Duck จะมีโหมดให้เล่นเยอะมากกว่า เพราะนอกจากจะมีโหมด Classic ที่คล้ายกับ Among Us ก็มีโหมดที่มาพร้อมกับเกมเพลย์ที่ให้ความรู้สึกในตอนเล่นที่แตกต่างออกไปเช่นกัน

– Classic+
คล้ายกับโหมด Classic แต่จะมีบทของผู้เล่นนอกจาก ‘ห่าน’ (หรือ Crewmate ที่รู้จักใน Among Us) และ ‘เป็ด’ (หรือ Imposter ที่รู้จักใน Among Us) เพิ่มเข้ามา

– Goosehunt
ผู้เล่นที่เป็น ‘เป็ด’ จะต้องไล่ฆ่า Goose ทั้งหมดจนกว่าจะหมดเวลา ซึ่งแน่นอนว่าเหล่า Goose จะต้องรอดจากการถูกฆ่าจนกว่าเวลาจะหมดเช่นกัน

– Dine and Dash
ในโหมดนี้ ผู้เล่นจะถูกแบ่งเป็น 2 ทีม และทั้งคู่จะต้องฆ่ากันจนทีมใดทีมหนึ่งไม่เหลือผู้รอดชีวิต โดยทีมแดงผู้เล่นจะได้รับบทเป็น ‘เป็ด’ ที่สามารถปลอมตัวเพื่อกำจัดทีมตรงข้ามได้ ส่วนทีมฟ้าผู้เล่นจะได้รับบทเป็น ‘เหยี่ยว’ ที่สามารถฆ่าได้เร็วกว่า ‘เป็ด’ และ ‘อีแร้ง’ ที่กินศพแล้วเวลาของรอบจะถูกลดลง

– Trick or Treat
โหมดนี้จะมี 3 บทด้วยกัน (แวมไพร์, สัตว์ประหลาด และ’ชาวบ้าน) โดยผู้เล่น ‘แวมไพร์’ จะต้องกัด ‘ชาวบ้าน’ ทั้งหมดให้กลายร่างเป็น ‘สัตว์ประหลาด’ ก่อนหมดเวลาเพื่อชนะ ส่วน ‘ชาวบ้าน’ จะมีความสามารถฆ่า ‘สัตว์ประหลาด’ ได้ และวิธีชนะก็คือ ผู้เล่นจะต้องโหวต ‘แวมไพร์’ ออกจากเกม หรือ สามารถเอาชีวิตรอดให้ได้จนกว่าเวลาจะหมด

บทต่าง ๆ ของผู้เล่น

เมื่อไม่นานมานี้ ในแพตช์ล่าสุดของ Among Us ได้เพิ่มบทที่นอกเหนือจาก Crewmate และ Imposter เข้ามาในเกม ซึ่งมีบทพิเศษเหล่านี้ได้ถูกเพิ่มเข้ามาทั้งหมด 4 บทด้วยกัน ได้แก่ Shapeshifter, Engineer, Guardian Angel และ Scientist

ในขณะเดียวกัน Goose Goose Duck นั้น มีตั้งแต่เปิดตัวเกมแล้ว และมีทั้งหมด 26 บทพิเศษด้วยกัน ซึ่งในโหมด Classic นอกจาก ‘ห่าน’ และ ‘เป็ด’ ผู้เล่นสามารถเล่นเป็น ‘นกโดโด้’, ‘ห่านช่างซ่อม’, ‘ห่านผู้พิทักษ์’ และ ‘เป็ดกินศพ’ แต่หากเล่นโหมด Classic+ ผู้เล่นจะสามารถเลือกใช้บทพิเศษทั้งหมด 26 บทได้ตามใจชอบเลย

หากสงสัยว่าบทพิเศษเหล่านี้มีความพิเศษและส่งผลต่อการเล่นให้แตกต่างกว่า Among Us ได้อย่างไร? ยกตัวอย่างเช่น หากมีผู้เล่นได้รับบทเป็น ‘นกโดโด้’ ผู้เล่นจะชนะเกมได้ด้วยวิธีที่ต่างจาก ‘ห่าน’ และ ‘เป็ด’ นั่นก็คือผู้เล่น ‘นกโดโด้’ จะต้องหลอกให้ผู้เล่นส่วนมากโหวตออกจากเกมถึงจะชนะได้ ซึ่งบทที่สามารถชนะด้วยเงื่อนไขพิเศษนั้นจะมีทั้งหมด 6 บทครับ

นอกจากบทสำหรับทีมพิเศษแล้ว ก็มีบทพิเศษที่นับเป็นทีมเดียวกับ ‘ห่าน’ และ ‘เป็ด’ เช่นกัน ยกตัวอย่าง ‘เป็ดนักล่า’ ที่มีเป้าหมายต้องฆ่า ‘ห่าน’ ให้หมดเกมเพื่อชนะเหมือนกับ ‘เป็ด’ แต่จะความสามารถพิเศษที่สามารถฆ่าปิดปากผู้เล่นระหว่างเรียกประชุมได้ (หากเดาบทของผู้เล่นคนนั้นถูก หากไม่ตัวเองจะโดนยิงตายแทน) และ ‘ห่านผู้พิทักษ์’ ที่จะต้องฆ่า ‘เป็ด’ (และบททีมพิเศษอย่าง นกพิราบ, เหยี่ยว) ออกจากเกมให้หมดเหมือนเป้าหมายของ ‘ห่าน’ แต่ที่พิเศษคือบทนี้จะทำให้ผู้เล่นสามารถฆ่าผู้เล่นทัมเดียวกันหรือผู้เล่นต่างทีมได้ 1 คนต่อ 1 ตา

ด่านต่าง ๆ พร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ในขณะนี้ Among Us จะมีด่านทั้งหมด 4 ด่าน (และในเร็ว ๆ นี้อีก 1 ด่าน) ซึ่งในแต่ละด่านจะมี Task และความกว้างใหญ่ของด่านที่ต่างกัน อย่างไรก็ตาม ใน Goose Goose Duck จะมีทั้งหมด 5 ด่าน พร้อมเกมเพลย์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะด่าน อาทิ GooseChapel ด่านเมืองสไตล์อังกฤษที่เต็มไปด้วยอาคารที่ผู้เล่นสามารถเดินเข้าไปได้ ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผม, ธนาคาร, สถานีตำรวจ และอีกมากมาย ซึ่งด่านจะมาพร้อมกับ ‘ระบบเข้าคุก’ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ต่างจากด่านอื่น ๆ ครับ

โดยระบบเข้าคุกนั้น จะทำงานคล้ายกับการโดนโหวตให้ออกจากเกม ซึ่งผู้เล่นที่มีจำนวนโหวตเท่ากับผู้เล่นอื่น หรือจำนวนโหวตข้าม จะถูกจับเข้าคุกแทนการโดนให้ออกจากเกม เมื่อเข้าคุกเป็นที่เรียบร้อย หากผู้เล่นที่โดนเข้าคุกนั้นต้องการออก ผู้เล่นที่ได้รับบทพิเศษอย่าง ‘ห่านนักไขล็อก’, ผู้เล่นที่สามารถมุดท่อเข้าห้องขัง และผู้เล่นธรรมดาที่พบกุญแจห้องขัง สามารถใช้วิธีเหล่านี้เพื่อปล่อยตัวพวกเขาออกมาได้ครับ

ความแตกต่างของการนำเสนอ

ตัวละคร และ ธีมหลัก ๆ ของเกม

ในขณะที่ Among Us เป็นธีมเกี่ยวกับนักอวกาศที่จะต้องซ่อมยานให้กลับมาทำงาน หรือ เครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อให้ทุกอย่างทำงานไปได้ด้วยดี ใน Goose Goose จะมีธีมที่กว้างขวางกว่า เนื่องจากธีมหลัก ๆ คือเป็ดฆ่ากันเหมือนใน Among Us และด้วยธีมที่ไม่ตายตัวเหมือน Among Us ผู้พัฒนาจึงสามารถทำให้เกมนี้มีธีมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นซ่อมยานอวกาศเหมือน Among Us, ธีมสืบสวนฆาตกรในคฤหัสถ์หลังใหญ่ หรือ เมืองที่มีนักโทษแหกคุกซ่อนอยู่นั่นเอง

ไอเทมแต่งตัวละครต่าง ๆ

ทั้ง 2 เกมจะมีไอเทมแต่งตัวละครที่ผู้เล่นสามารถซื้อได้คล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า หมวก หรือ สัตว์เลี้ยง โดยใน Among Us จะมีไอเทมฟรีให้ผู้เล่นได้ใช้ แต่ก็มีบางส่วนที่ต้องเติมเงินซื้อเช่นกัน ซึ่งใน Goose Goose Duck นั้นจะต่างกัน เพราะของทั้งหมดผู้เล่นจะต้องเก็บเงินจากการเล่นเพื่อซื้อ แต่ก็มีบางส่วนจะต้องใช้เงินที่ได้จากการเติมเพื่อซื้อเช่นกัน (ซึ่งนอกจากการเติมแล้ว เหรียญนี้ผู้เล่นสามารถรับได้หลังจากทำ Achievement ในเกมสำเร็จเช่นกัน)

อย่างไรก็ตาม Goose Goose Duck จะมีไอเทมแต่งตัวละครที่มากกว่า เพราะนอกจากไอเทมเสื้อผ้า และสัตว์เลี้ยงแล้ว ผู้เล่นสามารถเลือกรูปแบบการฆ่าได้อีกด้วย ซึ่งแต่ละรูปแบบผู้เล่นจะต้องเก็บไอเทมวัตถุดิบต่าง ๆ ระหว่างที่เล่น เพื่อปลดล็อกการฆ่ารูปแบบใหม่ ๆ ครับ

ภาษาไทย

อีกหนึ่งอย่างที่ Among Us ไม่มี นั่นก็คือภาษาไทย เมื่อไม่นานมานี้ Goose Goose Duck ได้ปล่อยแพตช์ใหม่ที่มาพร้อมกับโหมดภาษาไทย ที่ทำให้ผู้เล่นสามารถตั้งชื่อตัวละครเป็นภาษาไทยได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการแปลของเกมนี้ไม่เชิงว่าแปลได้ตรงเป๊ะซะทีเดียว เพราะจากที่เล่นมาเหมือนถูกแปลจาก Google Translate มากกว่า แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำให้เล่นเกมไม่รู้เรื่องครับ

แพลตฟอร์ม

Goose Goose Duck สามารถดาวน์โหลดเล่นได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ซึ่งในขณะนี้ตัวเกมได้เปิดให้บริการบน iOS, Android และ PC บน Steam และแน่นอนตัวเกมสามารถเล่น Cross-Platform ได้เหมือนกับ Among Us เช่นกัน

ผลสรุป

ถึงแม้ Among Us จะเป็นเกมต้นตำรับที่บุกเบิกเกมแนวนี้ก็ตาม Goose Goose Duck ก็ถือว่าเป็นเกมแนวเดียวกันที่ทำออกมาให้ผู้เล่นได้ลองความแปลกใหม่ได้เยอะกว่า Among Us หลายเท่าครับ และด้วยองค์ประกอบที่เยอะกว่าจะต้องทำให้ผู้เล่นที่ชอบความแปลกใหม่เลือก Goose Goose Duck อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม Goose Goose Duck นั้นก็มีข้อเสียเช่นกัน นั่นก็คือเรื่องจำนวนผู้เล่น เพราะจากที่เล่นมา เนื่องจากเกมมีบทตัวละครที่มากกว่า 2 บท หากในห้องมีผู้ที่เล่นด้วยน้อย (ประมาณ 4 – 5 คน) ก็จะส่งผลทำให้เกมจบไวมาก แต่ก็โชคดีที่ผู้เล่นสามารถเลือกปิดบทพิเศษออกได้ตามที่ต้องการครับ

สุดท้าย ถึง Goose Goose Duck จะมีองค์ประกอบที่เยอะและสนุกกว่า Among Us ก็ตาม แต่เนื่องจากเกมแนวนี้แน่นอนว่าถ้าไม่มีเพื่อนเล่นด้วยมันก็จะไม่สนุก (ถึงจะเล่นกับคนแปลกหน้าได้ก็ตาม แต่ก็ได้อารมณ์ที่ไม่สนุกเท่ากับเล่นกับเพื่อนจริง ๆ นะ) ส่วนตัวจึงมองว่าถ้าอยากจะเลือกเล่นเกมไหน แนะนำว่าให้ดาวน์โหลดไว้เล่นกับเพื่อนทั้ง 2 เกมจะดีกว่าครับ ไหน ๆ ตัวเกมก็สามารถดาวน์โหลดมาเล่นได้ฟรีอยู่แล้ว

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส