เรื่องของอาหาร นี่เป็นเรื่องเป็นราวที่ไม่น่าพลาดจริงๆ ที่ไหนที่ว่าอร่อย หลายคนก็ตระเวนกินหมด จะถูกจะแพงก็สู้ไหว แถมเดี๋ยวนี้ยังมีเพจรีวิวอาหารและทำอาหารเองออกมาเยอะมาก แต่ละเพจก็ฮอตฮิตกันไป เพราะอาหารกลายเป็นกิจวัตรในดวงใจของหลายคน ที่จะอดดูรีวิวและวิธีการทำไม่ได้

วันนี้ฤกษ์ดี แบไต๋มีโอกาสได้รู้จักกับ 1 ในแอดมินและทีมงานเพจรีวิวอาหารชื่อดังอย่างเพจ “ไปกินกัน” และ กำลังสร้างเพจทำอาหารดีๆ อย่าง “ขออีกจาน” รวมถึงมีโอกาสได้ติดตามไปดูงานรีวิวอาหารแบบใกล้ชิด กับคุณ ขนุน – อิงณิสกุล ศรีไตรรัตน์ เดี๋ยวเราไปพูดคุยกับเธอกันเลยดีกว่าว่าความเป็นมาและแนวคิดการทำเพจอาหารมีอะไรบ้าง

เป็นไงมาไง ถึงมีเพจ “ไปกินกัน” และเพจ “ขออีกจาน” ขึ้นมา

จริงๆ ตัวเราเริ่มมาจากเราชอบทำอาหารเล่น ลองผิดลองถูกเอง อร่อยบ้างไม่อร่อยบ้าง เห็นเชฟดังๆ ทำก็จะมาลองทำเล่นเองที่บ้าน แล้วมีช่วงหนึ่ง เพื่อนเราต้องไปเรียนที่อังกฤษ แล้วคือไปอยู่ที่นู่นต้องทำอาหารเองเลยให้เราช่วยสอน ก็กลายเป็นว่าเราลองทำเมนูง่ายๆ ทานกันเองที่บ้าน แต่เราจะเป็นคนชอบของสวยๆ งามๆ เราก็จะจัดจานเล่นด้วยสนุกๆ ดูว่าทำยังไงอาหารถึงจะน่าทานขึ้นมา และก็ถ่ายรูปอัพลงเฟซบุ๊ค อวดชาวโลก ยั่วให้คนอื่นหิว (หัวเราะ) ทีนี้ก็มีพี่เราคนนึง เป็นคนชอบกิน ก็กินไปรีวิวไปและก็เริ่มทำเพจ “ไปกินกัน” เป็นเพจรีวิวอาหาร จนได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ และพี่เขาก็มีไอเดียอยากเปิดเพจเพิ่ม เป็นเพจทำอาหาร เป็นไอเดียให้กับคนที่ชอบทำอาหาร และเขาก็เห็นว่าเราทำอาหารได้

เลยชวนกันมาเปิดอีกเพจเพิ่ม คือเพจ “ขออีกจาน” ที่จะโชว์ไอเดียการทำอาหารง่ายๆ ที่บ้าน ที่ทุกคนทำตามได้

ทำไมถึงเลือกทำเพจเกี่ยวกับอาหาร

เหตุผลส่วนตัวคือเป็นคนที่ชอบกินมาก ชอบลองของกิน อะไรที่เขาว่าอร่อยก็จะต้องตามไปกินให้ได้ หนุนเชื่อว่าเวลาเราอินกับสิ่งไหน เราจะจริงใจกับการพูดถึงสิ่งนั้น หมายถึงว่าเราจะพรีเซ้นมันออกมาได้ดี แล้วคนก็จะเชื่อตามเรา อีกอย่างหนุนมองว่า สมัยนี้อาหารเป็นเทรนด์อย่างหนึ่งไปแล้ว เราจะเห็นว่ามีของกินออกมาให้เราฮิตกันอยู่เรื่อยๆ มาแล้วก็ไป เดี๋ยวเดือนหน้าก็ฮิตเมนูใหม่ ทำให้เรามีเรื่องอัพเดตลงเพจอยู่ตลอด อีกอย่างหนุนว่า อาหารมันเป็นมากกว่าปัจจัย 4 ไปแล้ว แต่มันบ่งบอกไลฟ์สไตล์ของคนที่แชร์ และคนในยุคนั้นไปด้วย ว่ามีไลฟ์สไตล์ยังไง เสพจริตอาหารแนวไหน อยู่ในสังคมยังไง เลยคิดการทำเพจอาหารมันเลยตอบโจทย์จริตเราด้วย และก็ตอบโจทย์จริตคนที่มาเสพเพจเราด้วย

ทำเพจแต่ละครั้ง มีขั้นตอนอะไรบ้างคะ

ขอแบ่งการทำงานทั้ง 2 เพจ แล้วกันนะ ถ้าเป็น “ไปกินกัน” ก็จะเน้นไปที่รีวิวอาหาร ร้านไหนอร่อย ก็ไปทาน แล้วก็ถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ และกลับมาเขียนรีวิวเล่าให้ฟังว่ามันเป็นยังไง อาจจะฟังดูง่าย แต่มันก็มีรายละเอียดอยู่เหมือนกัน เพราะเราอยากนำเสนอแก่นของเมนูนั้นๆ ว่า คนที่เขาคิดเมนูนั้นมา เขาต้องการจะนำเสนออะไร เราก็ต้องเน้นฟังและคิดตามให้เข้าใจ

ส่วนเพจ “ขออีกจาน” กระบวนการ การทำงานก็จะเยอะหน่อย และต้องทำเป็นทีม ตั้งแต่ คิดเมนู เลือกเมนู ซื้อของ เตรียมของ จัดฉาก ถ่ายทำ เก็บของ อันนี้ก็ต้องทำกันเองนะคะ (หัวเราะ) ตัดต่อ โพสต์ลงเพจ และทุกขั้นตอนหนุนเชื่อว่าเราละเอียดหมด อย่างการคิดเมนู จริงๆ เราคิดเมนูอะไรก็ได้นะ แต่ตอนเลือก เราก็ต้องคิดว่าคนจะทำตามได้ไหม คนดูจะอินไหม ยากไปหรือเปล่า หรือถ้ามันยากไปหรือวัตถุดิบหายาก เราจะโชว์ไอเดียยังไงให้มันกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้ มุมกล้องก็สำคัญ จะถ่ายยังไงให้คนเห็นแล้วหิว

ยากที่สุดหนุนคงยกให้ฝ่ายตัดต่อ ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวในทีมที่หนุนไม่แตะต้อง (หัวเราะ) เขาต้องรับหน้าที่ตัดให้เหลือไม่กี่นาที และจะตัดต่อยังไงให้คนดู ดูรู้เรื่องแล้วเพลิน อีกอย่างการโพสต์ลงเพจ ก็สำคัญนะ ว่าจะใช้คำพูดยังไงให้คนหยุดดู ทุกกระบวนการสำคัญหมดเลยและก็มีเหตุผลในการกระทำ ขั้นตอนคร่าวๆ ก็จะประมาณนี้ ค่อนข้างซับซ้อนนะ (หัวเราะ) อดชื่นชมทีมไม่ได้เลย

คิดว่าเราได้อะไรจากการทำเพจรีวิวอาหารและทำอาหารบ้าง

หนุนว่าหนุนเป็นคนโลกกว้างมากขึ้นนะ เพราะเรารับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ไปรีวิวอาหาร เราจะต้องรับฟังและคิดตามว่าคนที่คิดเมนูออกมา เขาต้องการจะสื่อสารอะไรกับคนที่ทานอาหารเข้าไป ถ้าเราไม่ทำความเข้าใจ เราเองก็สื่อสารกับคนที่มาอ่านรีวิวของเราไม่ได้เหมือนกัน

อย่างที่หนุนได้บอกไป หนุนคิดว่า อาหารกลายเป็นเทรนด์อย่างหนึ่งไปแล้ว เราเองก็ต้องตามให้ทันอย่างเข้าใจ เพราะการตามให้ทันนั้นไม่ใช่แค่เห็นเขาฮิต ก็ไปถ่ายๆ มาลงให้คนกดไลค์กดแชร์ แต่เราคิดตามเสมอว่า คนที่ทำอาหารออกมาขายและได้รับความนิยมถึงขนาดว่าคนต้องไปต่อคิวซื้อให้ได้ เขาใช้วิธีไหนเล่าเรื่องราวอาหารของเขา และหนุนก็คิดตามเสมอว่า ทำไมช่วงเวลานั้นถึงต้องฮิตเมนูนี้ ที่มาคืออะไร และคนในยุคนั้นกำลังเสพเทรนด์ไหนกันอยู่ หนุนว่ามันก็สนุกดีนะ มากกว่าการกินๆ เข้าไป และก็บอกแค่ว่ามันอร่อยหรือไม่อร่อย เรายังรู้จักที่จะรับฟัง คิดตาม ให้เราเข้าใจความเป็นไปของคนในสังคมมากขึ้น

เล่าไลฟ์สไตล์การเป็นนักชิม นักรีวิวให้ฟังหน่อยสิ

ไลฟ์สไตล์เหรอ หลายคนชอบบอกว่าหนุนติสต์ แต่หนุนขอนิยามตัวเองว่า หนุนเป็นคนที่แมสมาก เราก็ชอบอะไรแบบที่คนทั่วไปชอบทำ ชอบออกไปหาของกิน ไปเที่ยว ออกไปเดินเล่น ติดตามเพจดังๆ ที่พาไปกินนู่นนี่

ถ้าวันไหนต้องออกไปรีวิว ก็จะมีสืบข้อมูลไปก่อนว่า ภาพลักษณ์ร้านอาหารของเขาเป็นสไตล์ไหน ดังในด้านใด เพราะเราต้องออกไปคุยงาน ไปรับฟังข้อมูล แต่ส่วนใหญ่บรรยากาศการไปรีวิว ก็เน้นพูดคุยสนุกสนาน กินไปคุยไป ถามไป ถ่ายรูปอาหารมาลง  ด้วยการที่ต้องออกไปทำงานกับคนอื่นบ่อยๆ เจอไอเดียใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา มันเลยเป็นเหตุผลให้หนุนเลือกใช้ชีวิตแบบแมสๆ แบบคนทั่วไปนะ เพราะเราอยากซึมซับว่า คนเดี๋ยวนี้เขาทำอะไรกัน เขาฮิตอะไร เขาคิดแบบไหน และเวลาที่เราไปคุยงาน เราก็จะมีเรื่องคุยกับทุกคนได้ ไม่ว่าจะเจอคนแบบไหน หรือรับข้อมูลอะไรก็ตาม

ส่วนวันไหนที่ต้องทำอาหารลงเพจ “ขออีกจาน” ก็ต้องเตรียมของ เซ็ทฉากถ่ายทำ บรรยากาศวันถ่ายงานก็เน้นสนุกสนานเหมือนเดิม เพราะเจอพี่ๆ เพื่อนๆ ในทีม แต่เราจะเป็นคนที่ละเอียดกับการถ่ายงานมาก บางทีก็สงสารคนอื่น (หัวเราะ) หนุนรู้สึกว่า ทุกขั้นตอนมันสำคัญ และเราต้องจริงใจกับคนที่ดู คือมันต้องออกมาน่ากิน และก็ต้องทานได้จริง หนุนไม่สามารถคิดได้ว่า คนดูเขาไม่รู้หรอก หนุนเชื่อว่า คนที่ดูเพจทำอาหาร เขาเองก็เป็นคนที่เสพจริตการทำอาหารมาระดับหนึ่ง แต่เขาดูเพื่อเป็นไอเดีย ฉะนั้นคนดูรู้อยู่แล้วว่ามันกินได้จริงหรือไม่ได้เลย หรือมันไม่น่ากินเลย หนุนเลยอยากจริงใจกับการทำงานมากๆ เพื่อให้คนดูเขาอินไปกับเรา

เสน่ห์ของการทำงานด้านนี้

อย่างที่บอก อาชีพนี้ต้องอยู่กับสิ่งใหม่ตลอดเวลา ต้องตามเทรนด์ มันเลยทำให้เราก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เรื่อยๆ แอคทีฟเสมอในการรับข่าวสาร และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หนุนว่าข้อนี้ก็จะทำให้เราเป็นคนที่ดูเข้ากับคนง่าย ดูเป็นมิตรกับทุกคน มันเป็นทั้งเสน่ห์ของอาชีพ และเก๋เสน่ห์ของตัวเราเองด้วย

การทำอาหารมันก็เหมือนการเดินทางแบบหนึ่งนะ เพราะเราได้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ เหมือนท่องโลกที่ไม่มีวันจบสิ้นเลย

ถ้าต้องเลือกระหว่างเป็นคนทำอาหารกับคนกินอาหาร เลือกอะไร

หนุนเลือกทำอาหาร หนุนว่ามันมีเสน่ห์มากๆ นะ ความจริงการทำอาหารมันมีเหตุผลของทุกๆ การกระทำเลยนะ อย่างว่า ทำไมเราต้องทอดไก่สองครั้งเพื่อให้ไก่กรอบ มันเป็นการไล่ความชื้นให้เหลือน้อยที่สุด หนุนชอบนั่งดูเชฟทำอาหาร และมาลองทำเองที่บ้าน อร่อยหรือไม่อร่อยก็ลองทำไปเรื่อยๆ ทำให้คนอื่นชิม ไม่อร่อยก็แก้ใหม่ จนกว่าจะอร่อย แต่หนุนไม่มีความคิดว่าจะเป็นเชฟเลยนะ หนุนเน้นทำอาหารให้สนุกๆ

แรงบันดาลใจในการทำงาน

แรงบันดาลใจ ก็ไม่มีอะไรเลยนะ หนุนว่าหนุนโชคดีที่ได้ทำงานกับสิ่งที่รัก และหนุนก็ยึดความรู้สึกวันแรกที่ได้รับโอกาสมาเอาไว้ วันแรกที่พี่หนุนถามว่า “หนุนเปิดเพจทำอาหารกันไหม ทำอาหารได้ใช่ไหม?” หนุนตอบว่า “ทำค่ะ” ทันที แบบไม่ต้องคิดเลย เพราะหนุนคิดว่า นั่นคือโอกาส มันเข้ามาแล้ว และหนุนต้องทำมันให้ดีที่สุด พออยู่กับสิ่งที่ชอบเราเลยอยู่กับมันได้ตลอดเวลา และเราก็ชอบมากเวลาที่มีคนมาคอมเม้นว่าอาหารที่เราทำน่าทานมากๆ เป็นกำลังใจดีๆ อย่างหนึ่งให้เราทำต่อไปเรื่อยๆ หรือถ้าช่วงไหนเริ่มไม่แอคทีฟคิดเมนูไม่ออก ก็จะจำความรู้สึกวันแรกที่ได้โอกาสมาเอาไว้ และก็พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ

ถ้ามีใครอยากเริ่มต้นทำเพจเกี่ยวกับอาหาร ขนุนอยากแนะนำอะไรบ้าง

หนุนว่าไม่เฉพาะเพจอาหารหรอก ไม่ว่าเราจะอยากนำเสนอข้อมูลอะไร หนุนอยากให้เริ่มจากสิ่งที่เรารัก เราชอบ เราสนใจ เพราะเราต้องอยู่กับมันตลอดเวลา แล้วก็จะต้องมีความอดทนมากๆ หนุนเชื่อว่า เวลาเราพรีเซนต์อะไร เราก็คาดหวังอยู่แล้วว่าอยากให้คนดูชอบ อยากให้มีคนสนใจเยอะๆ กับสิ่งที่เราทำ แต่ตอนเริ่มต้นมันไม่ได้เป็นแบบที่เราหวังตลอดเวลาหรอก หนุนแนะนำว่าอยากทำอะไรก็ให้เริ่มเลย อย่าคิดเยอะ เพราะมันไม่ได้เพอเฟ็คตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำหรอก มันต้องแก้ไปเรื่อยๆ กว่าทุกอย่างจะลงตัวก็ต้องใช้เวลา

แอปนี้สิ ถูกใจนักรีวิว

ปกติหนุนชอบใช้ Snapseed ค่ะ เอาไว้แต่งภาพ เพิ่มแสงเวลาที่ไปถ่ายงานแล้วไฟที่ร้านแล้วเจอกรณีแสงน้อย

Picwant Blog

หนุนว่ามันใช้ง่าย สะดวก คือถ้าใช้แอปอื่นๆ บางทีมันก็จะดูแต่งจนเกินไป เราแค่ต้องการแสงที่สว่างขึ้นมานิดหน่อย เพราะตัวอาหารมันต้องดูเหมือนของจริงที่สุด หรือว่าถ้าใช้แอปสำหรับมือโปรมากๆ เราก็ไม่ได้มีสกิลทางด้านนี้ แอปนี้เลยถูกใจเราที่สุด เพราะใช้สะดวก ฟังก์ชั่นไม่ซับซ้อน

ดาวน์โหลด

พอได้รู้จักและพูดคุย แถมติดตามนักรีวิวคนนี้ไป 1 วันเต็มๆ ทำให้เราได้รู้ว่า ไม่ว่าเราจะทำงานอะไร หรือสนใจด้านไหน หากเราทำมันอย่างเต็มความสามารถ เปี่ยมไปด้วยความหลงใหล และแรงบันดาลใจดีๆ ก็ทำให้งานนั้นๆ ออกมาอย่างมีคุณภาพได้ไม่ยาก ใครอยากเข้าไปติดตามเพจอาหารดีๆ แบบนี้ก็สามารถเข้าไปที่  “ไปกินกัน” และ “ขออีกจาน” ได้เลย