ก็จบไปแล้วสำหรับงาน AP Thailand and SEAC Present Creative Talk Conference 2021 ปีนี้มาในคอนเซปต์ “THE FUTURE BELONGS TO YOUR CREATIVITY” เมื่อโลกปรับเปลี่ยนเราต้องเปลี่ยนแปลง สิ่งเดียวที่จะพาผ่านปีอันท้าทายนี้ได้ คือ ความความคิดสร้างสรรค์และเปิดรับการเรียนรู้อยู่เสมอ โดยปีนี้มาในรูปแบบ Virtual Conference เนื่องจากโควิด-19 โดยมีหัวข้อที่สำคัญมากมายจาก Speaker ผู้มีความเชี่ยวชาญระดับประเทศกว่า 100 ท่าน จากวงการ Creative, Marketing, Innovation, Entrepreneurship และ People วันนี้แบไต๋ ขอนำเสนอ เซสชันที่น่าสนใจจาก คุณหนุ่ย พงศ์สุข ในหัวข้อ How Not To be Killed in The Creative Industry ฟัง… ถ้าคุณอยากอยู่ในอาชีพสร้างสรรค์ตลอดไป

ความแตกต่างระหว่าง 20 ปีที่แล้วแตกต่างกันอย่างไรบ้าง?

ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมเข้าสู่วงการสื่อตั้งแต่ปี 1998 ถ้านับดูก็ 22 ปีแล้ว เดิมทีตั้งแต่อายุ 16 ก็พยายามเวียนว่ายอยู่ในวงการโทรทัศน์ มีแรงบันดาลใจขับเคลื่อนจากที่เห็นคนเจ๋ง ๆ คนเก่ง ๆ มาออกจอ รู้สึกว่าอยากไปอยู่ตรงนั้นบ้าง เลยหาวิธีจากการประกวดตามเวทีต่าง ๆ พยายามสมัครเข้าไป เพื่อที่จะเข้าไปมีส่วนในหน้าจอ เพราะตอนนั้นรู้สึกว่าคนรอบตัวเขาให้ความสำคัญ พออายุ 20 ปี ก็เริ่มได้เข้ามาทำอย่างจริงจัง โดยพี่ จอน รัตนเวโรจน์ ได้ให้โอกาสรับงานแรกเป็นพิธีกรทีวีรายการ IE Show.com ออกอากาศทาง ททบ.5

ในสมัยก่อนก็ลองผิดลองถูกกับสื่อใหม่ที่เข้ามาในขณะนั้นเป็นยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ต โดยคิดไว้อยู่แล้วว่าสื่อนี้ในอนาคตผู้คนต้องเข้าไปอยู่ในนั้นหมด ซึ่งคาดการณ์ไว้ตอนนั้นก็ไม่ได้เกินความเป็นจริงเลย เพียงแต่ในหลายเรื่องอาจจะไม่ได้คิดไว้เช่น การมาถึงของโซเชียลมีเดีย อย่างเฟซบุ๊กที่มันมีอิทธิพลมากขนาดนี้ จนทำให้เว็บไทยค่อนข้างตกอันดับในแง่ของการถูกเข้า เพราะว่าทุกคนเข้าผ่านทางเฟซบุ๊ก มันไม่ใช่ภาพที่เราฝันไว้ในตอนแรก ในตอนแรกวาดฝันในเรื่องของอินเทอร์เน็ตเป็นพลังเพื่อการสร้างสรรค์เรียนรู้ โดยไม่มีกำแพงมากั้น เครื่องมือนี้ถูกเข้าถึงทุกคนจริง และในแต่ละคนก็เข้าถึงตามรสนิยมของตนเอง ในความชอบความสนใจเดิม ๆ ของตนเอง มันไม่ได้สร้างความสนใจใหม่สักเท่าไหร่ ทำให้เขาเข้าถึงสิ่งที่ชอบมากขึ้นจากอัลกอริทึมที่กำหนดมาให้ตามความสนใจ หมดเพราะในยุคปัจจุบันเราก็เห็นกันอยู่แล้ว

ทักษะภาษาก็เป็นสิ่งที่จำเป็น

หลาย ๆ ทักษะที่มีอย่างเช่นภาษาอังกฤษ ซึ่งในวัยเด็กตอนนั้นมีทัศนคติที่ไม่ค่อยดีนักเข้าใจว่ามันไม่ใช่ภาษาพ่อภาษาแม่เราจะไปเรียนมันทำไม ในวันที่ครูพยายามที่จะสอนเราเรื่องแกรมม่า การสะกดคำ การเขียน ซึ่งเขาใส่ความคิดที่ทำให้เข้าใจผิดว่าภาษาอังกฤษเป็นการแปลจากหลังมาหน้าเลยทำให้ใจผิดไปต่าง ๆ เลยทำให้ไม่ชอบ พอโตขึ้นกลับได้รู้ถึงความจำเป็นของมันเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งเมื่อก่อนได้เข้าไปดีลงานกับต่างชาติทำให้เสียเปรียบเรื่องภาษาเพราะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แล้วต้องไปตกลงกับดีลที่มันถูกมาก ๆ สิ่งที่คิดในตอนนั้นคือเด็กรุ่นใหม่ต้องเก่งกว่ายุคเดิมเลยต้องทำให้ลูกเก่งภาษาตั้งแต่ยังเด็ก

คนที่เป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ในยุคนี้ต้องเก่งทุกแพลตฟอร์มไหม?

มันอาจจะเป็นอะไรที่ยาก เพราะในแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีเลขที่ไม่เหมือนกันและการนับยอดวิวที่ไม่เหมือนกัน เพราะบางแพลตฟอร์มนับจาก 3 วินาทีแรก 10 วินาทีแรก หรือครึ่งนึงของคลิป มาตรวัดของแต่ละแพลตฟอร์มไม่เหมือนกันมีปัจจัยหลาย ๆ เช่น แหล่งคนดู กลุ่มคน แต่ว่าสิ่งที่ควรทำเลยคือควรตัดให้มันเป็นเวอร์ชันสำหรับแฟลตฟอร์มนั้น ๆ คอนเทนต์บางอย่างตรงตามรสนิยมของกลุ่มแพลตฟอร์มนั้นตรงนี้เราก็ต้องหากันต่อไป

ซึ่งตอนนี้ทำอยู่แบบเดียวคือเลือกเทคที่ดีที่สุดแล้วตัดขนาดที่แตกต่างกันให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ตอนนี้ยังไม่ทำการเปลี่ยนลักษณะการพูด ก็คือการถ่ายสำหรับแต่ละแพลตฟอร์มนั่นเอง เช่นยูทูบพูดแบบนึง เฟซบุ๊กพูดอีกแบบนึง เพราะในปัจจุบันหลาย ๆ ผู้ผลิตคอนเทนต์ทำตามกระแส เพราะรู้ว่าทำแบบนี้แล้วคนชอบ เลยเอาชัวไว้ก่อน เลยเกิดการทำตามกัน แต่ผมคิดว่าผมจะทำในแบบของผมจะไม่ตามทางใคร อย่างเช่นลักษณะการพูด การแสดงออกท่าทาง เพราะในเมื่อตอนถ่ายทำก็ต้องพูดข้อมูลตามสคริปต์ แต่ไม่ได้เป็นการจำ คือเราต้องทำความเข้าใจกับข้อมูลมันอยู่ดีเพื่อที่จะถ่ายทอดความเข้าใจของเราให้คนอื่นได้รับรู้ การแสดงที่ดีที่สุดคือการไม่แสดง คุณต้องเล่นเป็นตัวเอง

มีอะไรบ้างที่ครีเอเตอร์ในยุคนี้ไม่ควรทำ?

เรทการ์ดจำเป็นกับครีเอเตอร์ ครีเอเตอร์ส่วนใหญ่ที่ทำกันเอง เวลาลูกค้าเข้าแล้วตกใจเพราะไม่เคยคิดถึงการตั้งราคาไว้หรืออาจจะคิดคือเอาราคาคนอื่นมาเป็นราคาของเรา เรากลับมาคิดว่าทำไมวันนั้นเราพูดออกไปอย่างนี้เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ พอลูกค้าเข้าต้องทำยังไงต่อ ต้องบอกตรง ๆ ว่าเวลานี้เป็นเวทีของครีเอเตอร์เราต้องการสนุกได้ยาว การสนุกได้ยาวมีคำตอบเดียวคือ Business Model คุณต้องมี Business Model กับสิ่งที่คุณทำไม่ใช่แค่ทำเอาสนุก ๆ เราต้องเอาความสนุกนั้นมาเป็นอาชีพเรา อาชีพของเราต้องไปส่งเสริมคนอื่น ๆ ได้มันถึงจะเป็นอาชีพที่จะยาวได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือเรทการ์ดและราคาที่สมเหตุสมผล คนที่จะเป็นสื่อในยุคปัจจุบันต้องมีเรทติ้งที่ดี ในปัจจุบันใช้วัดความนิยมจากยอดผู้ติดตาม ก็เป็นการวัดจากแพลตฟอร์มโดยตรง ไม่ต้องวิจัยให้ยุ่งยาก ยอดผู้ติดตามเยอะจะยิ่งจะทำให้คุณสิ้นข้อสงสัยว่าไปจ้างใคร มันก็จะวัดจากผู้ติดตามของเรานั่นเอง ทำให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจกล้าที่จ้างงาน

นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่น่าสนใจจากเซสชันนี้ยังมีเซสชันอื่น ๆ ที่น่าสนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ CTC ซื้อบัตรตอนนี้ยังทัน

คลิกที่นี่ >> https://bit.ly/3uMwvoa
รับสิทธิประโยชน์ถึง 3 ต่อ ในราคาใบละ 1,800 บาทเท่านั้น!
พิเศษ! บัตรแพ็กสุดคุ้มสำหรับ 4 คน เพียง 6,480 บาท (จากปกติ 7,200 บาท)

  1. เข้าชมทุก Sessions ย้อนหลังได้เป็นเวลา 1 ปีเต็ม
  2. เข้าร่วม Creative Workshop มากมายทั้งออนไลน์และออฟไลน์
  3. อัปเดต Original Content จาก CREATIVE TALK ได้ตลอดทั้งปี
    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมและอัปเดตข่าวสารอื่น ๆ ได้ที่ www.CTC2021.com

หมายเหตุ

  • สำหรับลูกค้าที่มีบัตรเข้างาน #CTC2021 อยู่แล้ว สามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • สำหรับลูกค้าองค์กร สนใจซื้อบัตรในนามบริษัท ติดต่อคุณใบหม่อน 099 785 4178

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส