ถ้าจะให้พูดถึงกันแบบเชย ๆ ก็อาจจะต้องกล่าวว่า หลายคนอาจรู้จัก ‘ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์’ ในฐานะดีเจ พิธีกร นักแสดง และนางแบบสุดเซ็กซี่ที่มีผลงานถ่ายแบบออกมาให้ได้ติดตามกันอยู่เรื่อย ๆ หรือแม้แต่การเป็นอดีตผู้สมัครเข้าประกวดเวทีนางงามระดับประเทศ ที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้

แต่มันก็คงจะไม่ใช่เรื่องเกินเลยนัก หากจะพูดว่า นอกจากความน่ารัก ความน่ารัก และความเซ็กซี่แล้ว บทสัมภาษณ์นี้น่าจะทำให้ได้เห็นมุมมองและทัศนคติในแบบฉบับของ ‘ดีเจเอิร์น’ ที่เชื่อว่าหลายคนยังไม่รู้เกี่ยวกับตัวเธอ เช่นการทำงานในวงการมาตั้งแต่วัยรุ่น ความสนใจในเรื่องกล้องถ่ายรูป และการที่เธอพูดภาษารัสเซียได้! เชื่อว่าหลังจากอ่านบทสัมภาษณ์นี้จบ น่าจะพอเข้าใจว่าความเซ็กซี่จากข้างในนั้นเป็นอย่างไร

คำเตือน : ระวังแดเมจรุนแรง


อัปเดตชีวิตหน่อย ทำอะไรอยู่บ้างตอนนี้

ตอนนี้เพิ่งเรียนจบปริญญาตรีจาก ม.ธรรมศาสตร์ค่ะ แล้วก็ยังเป็นดีเจอยู่ที่ EFM 94 ช่วงรายการของเอิร์นก็คือวันเสาร์และอาทิตย์ เวลา 09.00 – 11.00 น. และก็มีอีกรายการชื่อว่า ‘E-Robic’ เป็นรายการออกกำลังกาย ทุกวันอังคาร พุธ พฤหัสบดี ช่วงเย็น ๆ เวลา 18.00 – 19.00 น. ค่ะ แล้วตอนนี้ก็กำลังทำยูทูบแชนแนลด้วย ใช้ชื่อแชนแนลว่า ‘Earnpatt’ ค่ะ เป็นชื่อเดียวกันกับ IG และเพจของเอิร์นเลย คลิปที่ลงส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนว Vlog ไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ รีวิวของ ไปเที่ยวโน่นนั่นนี่ แล้วก็มี Cover เพลงบ้างนิดหน่อย

ส่วนธุรกิจที่เอิร์นทำตอนนี้ก็คือทำแบรนด์สินค้าของตัวเองค่ะ เป็นผลิตภัณฑ์ Pad Toner หรือว่าแผ่นเช็ดหน้าผลัดเซลล์ผิว ใช้ชื่อแบรนด์ว่า ‘Earnest’ ซึ่งก็มาจากชื่อเอิร์นนี่แหละ แล้วก็เติม -est ก็หมายถึงว่าเป็นเอิร์นที่สุด เหมือนเป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดมา อะไรแบบนี้ค่ะ

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

จริง ๆ หลายคนไม่รู้ว่าคุณทำอะไรมาเยอะมากตั้งแต่เด็ก เล่าให้ฟังหน่อย

ถ้าเอาเริ่มต้น จริง ๆ หนูเริ่มประกวดร้องเพลงในรายการ ‘มาสเตอร์คีย์’ ตอนนั้นก็น่าจะอายุ 14-15 เลยค่ะ เพราะว่าตอนนั้นชอบร้องเพลง ก็เลยได้เรียนร้องเพลง แล้วครูที่สอนร้องเพลงก็เลยแนะนำให้ไปประกวดดู แล้วหลังจากนั้นก็ได้ถ่ายโฆษณาตัวแรก ก็เลยรู้สึกว่าสนุกดีเหมือนกัน ได้ทำสิ่งที่เราชอบ แล้วก็ได้เงินด้วย ไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ อยากได้อะไรก็ทำงานเก็บเงินซื้อเองได้เลย ก็เลยไปแคสต์โฆษณาอีกเรื่อย ๆ

โชคดีตรงที่ว่าการทำงานของเรามันก็ยังไม่ได้เยอะจนทำให้เราเสียการเรียน ก็เลยรู้สึกสนุกกับการทำงานในวงการ ประกอบกับที่บ้านก็สนับสนุนด้วย ก็เลยทำได้เรื่อย ๆ แบบไม่เครียด ไม่กดดันอะไร

ก็ปฏิเสธไม่ได้แหละว่าคนรู้จักคุณในฐานะนางแบบเซ็กซี่ เล่าจุดเริ่มต้นให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าเริ่มต้นยังไง

ตอนนั้นเพิ่งเข้าปี 1 เลย จริง ๆ หนูเริ่มจากการไปถ่ายรูปเล่น ๆ กับเพื่อนเลยค่ะ แล้วเพื่อนก็ส่งรูปเซตนั้นไปให้เพจ ‘Cup A’ แล้วพอเขาเอาไปลงเพจ ก็ปรากฏว่ามีคนแชร์เยอะมาก เป็นพันแชร์เลย ต่อมาก็เลยได้ไปถ่ายรูปกับพี่ที่เป็นแอดมินเพจ Cup A แล้วพอดีว่ามีเพจ ‘Cup E’ เป็นเพจในเครือเดียวกันด้วย ก็เลยได้มีโอกาสไปถ่ายรูปลงในเพจ Cup E ด้วย ซึ่งตอนนั้นเอิร์นไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว ไม่ได้คิดว่าจะดังหรืออะไร คิดแค่ว่าได้ไปทะเล แล้วก็ได้ไปถ่ายรูปชุดว่ายน้ำเล่นเรื่อยเปื่อย แต่ปรากฏว่าคนแชร์ก็เยอะพอสมควร คนก็เลยรู้จักเอิร์นมาตั้งแต่ตอนนั้นค่ะ

แล้วก็ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนด้วย เพราะตอนนั้นมีคนมาติดตามเอิร์นเพิ่มขึ้นเยอะมาก ซึ่งผลกระทบที่เห็นชัด ๆ เลยก็คือ ที่บ้านด่า (หัวเราะ) เพราะว่าถ่ายรูปชุดว่ายน้ำ เขาก็เลยอาจจะมองว่ามันดูโป๊เกินไปหรือเปล่า แต่พอมาดูตอนนี้ก็จะรู้ว่า ตอนนั้นยังไม่โป๊เท่าไหร่นะ ทุกวันนี้โป๊มากกว่าอีก (หัวเราะ)

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

อยากรู้มุมมองเหมือนกันว่า คิดยังไงกับการที่คนรู้จักคุณแต่ในมุมของนางแบบเซ็กซี่ ทั้ง ๆ ที่คุณเองทำงานมาหลายอย่าง ทั้งเป็นดีเจ นักแสดง ฯลฯ

จริง ๆ ก็เข้าใจค่ะ เพราะว่าจุดเริ่มต้นของเอิร์นก็มาจากตรงนั้นแหละ เพียงแต่ว่าตอนนั้นก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องถ่ายภาพเซ็กซี่ แค่มองว่าเป็นการถ่ายรูปเล่นตามโอกาส ถ้าไปทะเล ยังไงก็ต้องใส่ชุดว่ายน้ำแหละ ไม่ใช่ว่าจะใส่บิกินีทุกวันเรื่อยเปื่อย แล้วมันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างตามมา ซึ่งเอิร์นคิดว่าเข้าใจในสิ่งที่เอิร์นทำมาตลอด ไม่ได้มองว่าเป็นงานที่ไม่ดี ที่ผ่านมาพอเราย้อนกลับไป ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้เราเสียใจ แล้วก็ต้องขอบคุณทุก ๆ คนที่มาติดตามเอิร์นด้วยค่ะ

เวลาลงรูปเซ็กซี่ในโซเชียล คุณรู้สึกเขินบ้างไหม

เมื่อก่อนอาจจะมีเขินบ้างค่ะ ตอนแรก ๆ ตอนนั้นก็ยังคิดว่าเซ็กซี่ไปหรือเปล่า เพราะว่าเราก็ยังเด็กอยู่ ณ ตอนนั้น แต่ว่าตอนนี้ไม่เขินแล้ว เพราะว่าเราเองก็มีการออกกำลังกาย ตั้งใจออกกำลังกาย แล้วก็ทำรายการออกกำลังกายด้วย เพื่อให้หุ่นดี ก็เลยไม่รู้สึกเขินอะไรแล้ว เพราะว่าเราตั้งใจออกกำลังกายเพื่อให้หุ่นดี ถ่ายรูปแล้วออกมาสวย และมั่นใจในตัวเอง

มีความรู้สึกเบื่อ ๆ การถ่ายภาพเซ็กซี่บ้างไหม

ไม่รู้สึกเบื่อค่ะ เพราะว่าเราเองก็ยังมีความสุขในการทำสิ่งนี้อยู่ ก็คิดไว้เหมือนกันว่า ถ้ารู้สึกว่าร่างกายเรามันไม่โอเคเหมือนตอนนี้แล้ว ก็อาจจะถ่ายน้อยลง แต่ว่าตอนนี้ก็ยังรู้สึกสนุกกับการถ่ายภาพ สนุกกับการออกกำลังกาย มีความสุขที่ได้เห็นตัวเองใส่เสื้อผ้าสวย ๆ อยู่

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

ที่คุณบอกว่าการถ่ายภาพเซ็กซี่แล้วมีความสนุก ความสนุกที่คุณว่ามันอยู่ที่ตรงไหนบ้าง

ความสนุกของเอิร์นก็คือ มีความสุขทุกครั้งเวลาที่ได้เห็นคนถ่ายรูปให้เรา และได้เห็นว่ารูปมันออกมาเป็นยังไง ซึ่งเวลาที่ตากล้องแต่ละคนถ่ายรูปเรา รูปที่ได้ออกมามันก็ไม่เหมือนกัน เพราะว่าแต่ละคนก็มีประสบการณ์ที่ไม่เหมือนกัน แล้วก็ใช้กล้องแตกต่างกัน กล้องดิจิทัลแต่ละยี่ห้อก็ไม่เหมือนกัน หรือถ้าเป็นกล้องฟิล์มก็จะเป็นอีกแบบหนึ่งไปเลย มันอาจจะเป็นเพราะว่าเอิร์นชอบเสน่ห์ของการถ่ายรูปอะไรแบบนี้มั้งคะ การที่ตากล้องจะถ่ายรูปเราออกมาได้สวย มันก็อยู่ที่มุมมองของช่างภาพเหมือนกันว่าจะถ่ายออกมายังไงให้เราดูสวย

หรือเวลาที่ถ่าย ปกติเวลาถ่ายแต่ละเซต มันก็จะมีธีมของการถ่ายในแต่ละเซตใช่มั้ยคะ ซึ่งเราก็จะต้องมีความรู้สึกกับธีมนั้น ๆ ไปด้วย ทั้งความรู้สึกในตัวเรา ซึ่งมันก็จะสะท้อนออกมาผ่านการโพสต์ท่าต่าง ๆ เช่นถ้าเป็นธีมเทศกาลตรุษจีน ก็จะเป็นชุดกี่เพ้า มีความเป็นจีน ๆ แต่ถ้าถ่ายรูปเซ็กซี่ ความรู้สึกก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง หรือว่าถ้าเป็นแนวสตรีต การแต่งตัวหรือการโพสต์ท่าก็จะออกมาเท่ ๆ หน่อย อะไรแบบนี้

พอลงรูปคุณในโซเชียล แน่นอนแหละว่าก็จะมีฟีดแบ็ก ที่ชื่นชมก็มีเยอะ และที่ตรงกันข้ามก็น่าจะมีด้วย คุณเคยเจอบ้างไหม แล้วรับมือยังไง

มี มีเยอะมาก (ตอบทันที) หรือแม้แต่พวกโรคจิตทักมาใน IG หรือคอมเมนต์ใน YouTube อะไรแบบนี้ ซึ่งเอิร์นก็จะพยายามปล่อยผ่าน เพราะว่ามันไม่ใช่คอมเมนต์ที่ติเพื่อก่อ คือถ้าเป็นการติเพื่อก่อ ก็เอามาปรับปรุงแก้ไข แต่ถ้าไม่ใช่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นในเชิงด่าซะมากกว่า อันนี้ก็จะปล่อยผ่านไปค่ะ

ไหน ๆ เปิดประเด็นแล้ว ขออนุญาตถามก็แล้วกัน คุณรับมือยังไงกับคอมเมนต์อีกแบบหนึ่ง…

พวกคอมเมนต์คุกคามทางเพศ (Sexual Harassment) ใช่มั้ยคะ

ใช่ อยากรู้ว่าเวลาคุณเจอแบบนี้ รู้สึกเครียดหรือโกรธขนาดไหน รับมือยังไงบ้าง

ช่วงแรก ๆ ที่เอิร์นเป็นนางแบบตอนสมัยปี 1 เครียดมากค่ะ เพราะว่าเพื่อนที่เห็นภาพเราก็จะมาบ่นว่า มันโป๊ไปหรือเปล่าเนี่ย แต่ตอนนั้นเอิร์นก็คิดว่า ก็นี่มันร่างกายของเรา เราอยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ มันเป็นสิทธิในเรือนร่างของเรา ถ้าเราทำเพราะเคารพตัวเองและมีความสุข แล้วก็ไม่ได้ไปเบียดเบียนใคร ก็น่าจะโอเคแล้ว ส่วนถ้าเป็นคอมเมนต์ ตอนนี้ก็ใช้วิธีปล่อยผ่านเหมือนกันค่ะ เพราะว่ามันไม่ได้ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นมา

แสดงว่าคุณอ่านทุกคอมเมนต์

อ่านค่ะ อ่านหมดเลย (ยิ้ม)

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

คุณคิดว่าตัวเองเซ็กซี่ไหม

เอิร์นคิดว่าตัวเอิร์นเองเซ็กซี่จากข้างใน เป็นที่อินเนอร์มากกว่า บางวันก็ไม่ได้แต่งตัวเซ็กซี่ แต่งตัวเรียบร้อย แต่อาจจะดูรัดรูปนิดหน่อย แต่มันก็ดูเซ็กซี่ เอิร์นคิดว่าความเซ็กซี่มันอยู่ที่อินเนอร์ของเรามากกว่าการแต่งตัว อะไรแบบนี้ค่ะ

คุณคิดว่าคนแบบไหนที่คุณรู้สึกว่าเซ็กซี่

หนูชอบพี่พลอย (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) เพราะว่าเขาดูเซ็กซี่ ด้วยรูปหน้า ทรงผม การแต่งตัว ภาพรวมทุกอย่างทำให้พี่เขาดูเซ็กซี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่อยู่เฉย ๆ ก็ดูเซ็กซี่แล้ว

อีกเรื่องที่คนรู้จักคุณก็คือ คุณเพิ่งสละสิทธิ์การประกวดนางงามระดับประเทศ ตอนนั้นเกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงตัดสินใจสมัครประกวดนางงาม

ถ้าเอาตั้งแต่เริ่มต้นเลยก็คือ หนูเองเริ่มต้นจากการถ่ายแบบใช่มั้ยคะ แล้วก็ได้มีโอกาสไปถ่ายโฆษณา ประกวดร้องเพลง จนกระทั่งได้มาเป็นดีเจ เป็นนักแสดงบ้างประปราย คือทำมาเยอะมากแล้ว เหลือไม่กี่อย่างที่ยังไม่ได้ลองทำ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการเป็นนางงาม จริง ๆ เอิร์นเป็นคนที่ชอบดูการประกวดนางงามมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็เลยลองส่งใบสมัครดู

นอกจากอยากเป็นนางงาม คุณคาดหวังอะไรจากการเป็นนางงามบ้าง

สำหรับเอิร์น การเป็นนางงามทำให้ได้พัฒนาตัวเอง ซึ่งมันยากและแตกต่างมากกว่าการเป็นดีเจหรือนักแสดง หรือแม้แต่นางแบบ เพราะคำว่านางงาม มันก็ต้องงามจริง ๆ ออกมาจากข้างใน ทั้งความคิด การพูดจา การวางตัว การนั่ง ยืน เดิน ต้องดูสวยทุกท่วงท่า

การที่เอิร์นเข้าประกวด เอิร์นก็เลยหวังว่าจะได้เปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ ได้พัฒนาตัวเองเจอเพื่อนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน ได้เปลี่ยนแปลง Mindset ด้วย เพราะว่า Mindset ของนางงามก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง แล้วก็ต้องทำโครงการเพื่อสังคมด้วย

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

มันก็ค่อนข้างจะดี ทำไมคุณถึงสละสิทธิ์

ที่หนูสละสิทธิ์ก็เพราะหนูคิดว่ามันไม่เหมาะกับตัวเองนี่แหละ แล้วอีกอย่างก็คือ ช่วงนั้นที่เอิร์นประกวด เอิร์นนอนน้อยมาก เพราะว่าต้องฝึกการประกวดนางงามนี่แหละ ทั้งการฝึกตอบคำถาม ฝึกเดิน ผึกนั่ง ฝึกทุกอย่างเลย ต้องแต่งหน้าเอง ทำผมเอง เพราะว่าเวลาเข้ากองประกวดอาจจะโดนแกงได้

หนูก็เลยรู้สึกเหนื่อยมาก เพราะว่าได้นอนแค่วันละ 2-3 ชั่วโมงเอง เพราะว่าในกองประกวดแต่ละวัน เขาจะให้เราทำกิจกรรมเยอะมาก และปล่อยกลับค่อนข้างดึก ประมาณตี 1 – ตี 2 แล้วตี 4 ก็ต้องตื่นขึ้นมาแต่งหน้าเพื่อไปกองประกวดอีกวันหนึ่งอีกแล้ว หนูก็เลยรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ปวดหัวมาก ๆ ประกอบว่าเราก็ยังทำงานอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย พอนาน ๆ เข้าก็เลยรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ยอมดีกว่า ก็เลยสละสิทธิ์

จริง ๆ ก็ถือว่าเสียดายอยู่นั่นแหละค่ะ แต่ว่าก็ต้องเอาสุขภาพของเรามาก่อน ถ้าโอกาสหน้าพร้อมก็อาจจะลงสมัครอีกก็ได้ แต่ถ้าไม่พร้อมก็คือไม่พร้อม (ยิ้ม)

ตอนนั้นข่าวลงเยอะมาก

ใช่ค่ะ ลงเยอะมากจนหนูงงมากว่า แค่สละสิทธิ์ก็เป็นข่าวด้วยเหรอ (หัวเราะ)

ตอนนี้คุณทำงานมาเยอะมาก ทั้งดีเจ นักแสดง นางแบบ พิธีกร ฯลฯ มีอะไรในวงการบันเทิงที่ยังไม่ได้ทำแล้วอยากทำบ้างไหม

เหลืออีกอย่างเดียวก็คือ อยากเป็นนักร้องค่ะ เพราะว่าเอิร์นก็ทำมาทุกอย่างแล้ว พอทำทุกอย่าง มันก็เลยทำให้เอิร์นเฟดตัวเองมาจากการร้องเพลงนานพอสมควรเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสได้ร้องเพลง ก็คงเป็นเพลงป๊อปใส ๆ น่ารัก ๆ อะไรแบบนี้ค่ะ

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

อันนี้แวะนอกเรื่องหน่อย เพราะว่ามันน่าสนใจตรงที่คนไม่ค่อยรู้ว่าจริง ๆ แล้วคุณเรียนเกี่ยวกับด้านรัสเซียศึกษาด้วย เล่าให้ฟังหน่อยว่ามันน่าสนใจยังไงบ้างสำหรับคุณ

ที่เอิร์นเลือกเรียนรัสเซียก็เพราะว่าเอิร์นเคยไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ที่ประเทศเซอร์เบียตอน ม.5 ค่ะ ไปอยู่ที่นั่นประมาณ 1 ปี แล้วประกอบว่าประเทศเซอร์เบียเอง เพราะว่าเซอร์เบียกับรัสเซียก็มีความใกล้เคียงกัน ทั้งภาษา อาหาร วัฒนธรรม ที่มันพอจะเชื่อมโยงกันได้ ตอนนั้นที่เอิร์นเลือกประเทศนี้ก็เพราะว่า ปกติเอิร์นจะชอบสนใจประเทศแปลก ๆ อยู่แล้ว

แล้วประเทศเซอร์เบียเป็นประเทศที่มีข้อมูลใน Google น้อยมาก แทบจะไม่รู้จักเลย ถ้าเป็นประเทศยุโรปอื่น ๆ ก็อาจจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวได้ง่ายอยู่แล้ว แต่โอกาสที่จะได้ไปเซอร์เบียมันคงน้อยกว่ามาก ๆ และถ้าเราได้รู้ภาษาหรือวัฒนธรรมของเซอร์เบีย มันคงจะเท่มากเลยเพราะว่าไม่ค่อยมีใครรู้

ก็เลยคิดว่า งั้นก็ต่อยอดจากที่ตัวเองเคยไปเรียนมา พอดีว่าที่ธรรมศาสตร์ก็มีวิชารัสเซียศึกษาพอดี ก็เลยลงเรียน ซึ่งไม่ใช่แค่เรียนภาษานะคะ แต่ว่าเรียนทุกอย่างเกี่ยวกับประเทศรัสเซียเลย ตั้งแต่เรื่องภาษา วัฒนธรรม อาหาร วรรณกรรม วรรรณคดี ศิลปะ การแสดง ของทั้งประเทศรัสเซียเลย

แสดงว่าพูดภาษารัสเซียได้

นิดหน่อย ถ้าไปก็พอเอาตัวรอดได้ สั่งอาหารได้ อะไรแบบนี้

งั้นสอนภาษารัสเซียสักคำได้ไหม

เอาคำง่าย ๆ ก็ได้ค่ะ เช่นคำว่าสวัสดี Здравствуйте (สตราสตรุยเทีย) …หนูว่ายากไป (หัวเราะร่วน) เอาแบบไม่เป็นทางการก็ได้ค่ะ Привет (ปรีเวียต) คำนี้จะเหมือนกับคำทักทายว่า “Hi !” แต่คำแรกจะเป็นทางการกว่า เหมือนคำว่า “Hello”

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

คุณมาเป็นทาเลนต์กับ beartai ได้อย่างไร

ถ้าถามที่มาของการเป็นทาเลนต์ ก็ต้องเริ่มต้นเล่าตั้งแต่ที่เอิร์นเป็นดีเจอยู่ในสังกัดของ Atime ค่ะ ซึ่งทาง EFM เขาเสนอมาว่า อยากลองทำไหม ก็เลยลองมาทำดูค่ะ ตอนแรกที่เอิร์นได้ยินว่าจะได้มาเป็นทาเลนต์ ก็เข้าใจว่าน่าจะมาเป็นพิธีกรคอยรีวิวสินค้าไอที แต่พอลองมาทำแล้วถึงรู้ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้จำเป็นจะต้องเกี่ยวกับไอทีอย่างเดียว แต่เป็นเหมือนผู้ดำเนินรายการที่คอยให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับไอทีด้วยก็ได้ ก็เลยสนใจอยากมาลองทำค่ะ

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

ก่อนหน้านี้คุณรู้จัก beartai มาก่อนไหม แล้วคุณเป็นคนที่สนใจเรื่องไอทีมากแค่ไหน

รู้จักค่ะ รู้จักมาตั้งแต่สมัยที่ยังทำรายการทีวีที่ Digital Gateway เลย ซึ่งจริง ๆ ตอนนั้นก็ยังเด็กมากเลย ก็เลยยังไม่ค่อยได้สนใจด้านไอทีเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ายังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัว

ส่วนถ้าเป็นตอนนี้ ก็หันมาสนใจเรื่องไอทีมากขึ้นค่ะ เรื่องที่สนใจมากที่สุดก็น่าจะเป็นกล้องถ่ายรูป เพราะว่าหนูเป็นคนชอบถ่ายรูปมาก ชอบเรียนรู้ว่าจุดเด่นหรือฟังก์ชันของกล้องแต่ละยี่ห้อเป็นอย่างไร ถ่ายออกมาแล้วรูปที่ได้จะเป็นแบบไหน

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

แล้วตอนนี้ล่ะ พอได้มาเป็นทาเลนต์แล้ว คุณรู้เรื่องไอทีมากขึ้นแค่ไหนบ้าง

รู้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องกล้อง เพราะว่าปกติเอิร์นเป็นนางแบบ ก็จะเป็นแค่คนถูกถ่ายรูปเฉย ๆ เวลาช่างภาพพูดเรื่องศัพท์เฉพาะเกี่ยวกับกล้อง เช่นพวกคำว่า F-Stop, ISO หรือชัตเตอร์ก็จะไม่ค่อยรู้เรื่องแล้ว แต่พอได้รีวิวกล้องมากขึ้น ได้ลองจับ ลองถ่ายจริง ก็ทำให้พอจะรู้ว่าค่า F คืออะไร Shutter Speed คืออะไร หรือฟังก์ชันอื่น ๆ ของกล้องทำงานยังไงบ้าง

อีกอย่างก็คือ มันทำให้หนูได้ศึกษาคำศัพท์เฉพาะมากขึ้น จริง ๆ ก็ทุกคลิปที่ทำเลยค่ะ เพราะว่าเวลาถ่ายทำ ทุกครั้งที่ได้รับสคริปต์มา ก็จะได้เรียนรู้คำศัพท์เฉพาะในเนื้อหาของคลิปนั้น ๆ อยู่แล้ว ซึ่งมีเยอะมาก ๆ เช่นเวลารีวิวแล็บท็อป ก็ต้องเรียนรู้คำศัพท์เกี่ยวกับแล็ปท็อป สเปกต่าง ๆ โน่นนั่นนี่ให้เข้าใจเองก่อน เวลามาถ่ายจริงจะได้เข้าใจได้อย่างไหลลื่นขึ้น

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

เล่าถึงคลิปแรกที่ทำในฐานะทาเลนต์หน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

คลิปแรกที่ทำคือกล้องเว็บแคม 180 องศา ‘Jabra Panacast’ ซึ่งตอนนั้นหนูเกร็งมาก ตื่นเต้นมากเลยค่ะ แล้วด้วยความที่หนูทำงานกับ beartai เป็นครั้งแรกด้วย แล้วก็ไม่เคยรีวิวสินค้าไอทีมาก่อน ก็เลยกังวลว่าพูดแล้วจะดูน่าเชื่อถือไหม เพราะว่าไม่เคยมาสายนี้เลย เคยรีวิวแต่พวกสกินแคร์ ของสวย ๆ งาม ๆ แล้ววันแรกหนูจำได้ว่า หนูเห็นหน้าโปรดิวเซอร์แล้วหนูรู้สึกกดดันมาก (หัวเราะ) ซึ่งพี่ ๆ ทีมงานก็ช่วยกันบิลต์ว่าไม่ต้องกดดัน พูดแบบสบาย ๆ หรือถ้าคำไหนยาก พี่ ๆ ทีมงานก็จะช่วย หรือถ้าจำไม่ได้จริง ๆ ก็จะใช้วิธีเขียนให้อ่านเอา จะได้ไม่ผิด

และอีกอย่างที่หนูตกใจก็คือ สคริปต์ยาวมาก (หัวเราะ) เพราะว่าตั้งแต่ทำงานไม่เคยเจอสคริปต์ที่ยาวขนาดนี้มาก่อน แต่ก็เข้าใจได้ว่ามันมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ และมันก็คงมีการตัดต่อช่วย ไม่ได้พูดแบบสด ตอนที่ถ่ายเสร็จ หนูจำได้ว่าหนูร้องไห้เลย ก็ยิ่งทำให้รู้สึกกดดัน แล้ววันนั้นถ่าย 2 คลิปด้วย ก็เลยเลิกดึก พอถ่ายเสร็จหนูก็เลยร้องไห้เลย

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

มีขั้นตอนการทำการบ้าน หรือเตรียมเทคนิคการนำเสนอก่อนถ่ายแต่ละคลิปบ้างไหม

วิธีการทำการบ้านของหนูก็คือ เวลาหนูได้สคริปต์มาล่วงหน้าก่อนวันถ่ายใช่มั้ยคะ หนูก็จะมานั่งอ่าน เทคนิคของหนูก็คือ หนูจะอ่านแล้วอัดเสียงไว้ แล้วก็เอามาฟังซ้ำ ๆ เพื่อที่จะได้จำเนื้อหาได้ แล้วจริง ๆ สคริปต์ก็ช่วยด้วยส่วนหนึ่ง เพราะว่าเนื้อหาที่เขียนก็จะมีความเป็นเอิร์นอยู่ด้วย มันก็เลยทำให้เรารู้สึกเข้าปาก รู้สึกว่าเป็นตัวเอง แล้วเวลาเล่า ก็จะเล่าออกมาได้ตามความเข้าใจของเรา เหมือนเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง เหมือนมาป้ายยาเพื่อน แต่ว่ามีข้อมูลเยอะมากกว่า ดูนุ่มนวลกว่า

ตั้งแต่ทำคลิปมา ชอบคลิปไหนของตัวเองมากที่สุด

ชอบรีวิวกล้อง ‘Sony ZV-1’ ค่ะ เพราะว่าหนูเป็นคนชอบกล้องถ่ายรูปด้วยแหละ ก็เลยรู้สึกสนุก แล้วก็ได้ลองถ่ายรูป ได้รูปจริง ๆ ออกมาด้วย ส่วนอีกตัวที่ชอบก็คือ ‘Sony ZV-E10’ ค่ะ อันนี้เป็นเพราะว่ารีวิวเอง ป้ายยาตัวเองด้วย ก็เลยซื้อมาใช้เอง (หัวเราะ)

ดีเจเอิร์น-ภัทรวดี บุญมีทรัพย์

ถ้าจะให้คะแนนตัวเองในฐานะทาเลนต์ 10 คะแนน ให้กี่คะแนน เพราะอะไร

ข้อดีคือหนูเป็นคนสดใสร่าเริงมาก เวลารีวิวสินค้า (ยิ้ม) หรือถ้ายิ่งเป็นสิ่งที่ชอบอยู่แล้ว เช่นรีวิวกล้อง หนูจะยิ่งรู้สึกว่ามีพลัง รู้สึกว่าทำออกมาได้ดี ส่วนข้อเสียก็คือ ถ้าเป็นเรื่องอะไรที่หนูไม่รู้จริง ๆ เป็นเรื่องหรืออุปกรณ์ที่ค่อนข้างไกลตัว เช่น โคมไฟ ที่หนูไม่ค่อยได้ใช้ หนูจะรู้สึกว่าตัวเองทำได้ไม่ดีเท่าที่คาดหวัง แต่หนูเองก็ทำอย่างเต็มที่นั่นแหละ แต่แค่อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับสิ่งนั้น

ข้อเสียอีกอย่างก็คือ หนูเป็นคนที่กดดันตัวเองมาก อยากทำงานให้เสร็จ เพราะว่าไม่อยากให้ทุกคนเสียเวลารอ ถ้าให้คะแนนตัวเอง ให้ 9 คะแนนก็แล้วกันค่ะ (หัวเราะเบา ๆ ) หัก 1 คะแนนเพราะว่ากดดันตัวเองนี่แหละ

คุณมีจุดสูงสุดในการเป็นทาเลนต์บ้างไหม

ก็คงอยากจะได้ล้านวิวนั่นแหละค่ะ เพราะช่องของเอิร์นเองก็ยังไม่มีอันไหนถึงล้านวิว แล้วแชนแนล beartai เองก็เพิ่งได้ 1,000,000 Subscribers ก็เลยหวังว่าอย่างน้อยถ้ามีคลิปที่เราทำได้สักล้านวิวก็น่าจะดีค่ะ

คำถามสุดท้าย ถ้ามีโอกาสคิดเนื้อหาและเป็นทาเลนต์เนื้อหานั้นด้วยตัวเอง อยากทำเนื้อหาอะไรมากที่สุด

ส่วนตัวหนูอยากรีวิวสุนัขค่ะ เพราะว่าหนูยังไม่เคยเห็นใครรีวิวสุนัขมาก่อน หรือเป็นเนื้อหาไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเท่าไหร่ หรือถ้าเกี่ยวกับเทคโนโลยี หนูก็คงอยากจะรีวิวกล้องนั่นแหละค่ะ แต่อาจจะลองเปลี่ยนมาเป็นกล้องฟิล์ม เพราะว่ายังไม่ค่อยเห็นมีใครให้ข้อมูลเกี่ยวกับกล้องฟิล์มแบบลึก ๆ เท่าไหร่ อยากทำเนื้อหาแบบครบ ๆ ในเนื้อหาเดียว แบบลึก ๆ ชนิดที่ว่าไม่ต้องถามอีกแล้ว เพราะในคลิปมีให้ครบ อะไรแบบนี้ค่ะ

แสดงว่าเป็นทาสหมา

ใช่ค่ะ มีคอร์กี 2 ตัว ชื่อไลกา (Leica) กับโรไล (Rollei)

ชื่อยี่ห้อกล้องนี่นา

(หัวเราะ)


พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส