Warmer ocean waters are speeding up the rate at which Greenland’s glaciers are melting and calving, or breaking off to form icebergs. This is causing the glaciers to retreat toward land, hastening the loss of ice from Greenland’s Ice Sheet. Credits: NASA/JPL-Caltech

พลิกคำพยากรณ์ ‘ปริมาณธารน้ำแข็งละลาย’ ไปไวกว่าที่คาดเพราะเหตุนี้!

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่อง ‘ธารน้ำแข็ง’ หรือ ‘Glacier’ ที่กำลังละลายอย่างรวดเร็วมาก่อน ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์กันไว้ว่า การละลายของพวกมันอยู่ในขั้นวิกฤต อาจจะมาถึงจุดที่ไม่สามารถหวนคืนได้แล้ว และเท่าที่ตรวจวัดได้ อัตราการละลายของน้ำแข็งในปัจจุบันดูเหมือนจะมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้เสียอีก เพื่อให้การพยากรณ์แม่นยำขึ้น ช่วยให้มนุษย์รับมือกับปัญหาอุทกภัยที่จะตามมาในอนาคต นักวิทยาศาสตร์จึงเร่งศึกษา ‘ธารน้ำแข็งกรีนแลนด์ (Greenland’s Glacier)’ หนึ่งในที่มาหลักที่ทำให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

‘ฟยอร์ด’ กับความลึกที่เป็นเบาะแสแรก

ท่ามกลางความเวิ้งว้างของน่านน้ำอาร์กติก ธารน้ำแข็งกรีนแลนด์ได้ละลายพุ่งลงสู่มหาสมุทรตามแนวฟยอร์ด (fjords) หรือ ขอบผาที่เป็นเวิ้งน้ำลึกลงไป และเพราะความลึกและความขรุขระตามชายฝั่งที่เข้าถึงยากของฟยอร์ดนี่เอง ที่ทำให้นักวิจัยขาดข้อมูลในเรื่องระดับความลึกของมัน ทำให้ไม่อาจประเมินได้อย่างแม่นยำว่า มีปริมาณน้ำในมหาสมุทรเท่าใดในแต่ละฟยอร์ด 

ภาพมุมสูงของธารน้ำแข็งตามฟยอร์ดในกรีนแลนด์ ถ่ายเทื่อปี 2016
Credtit : earthobservatory.nasa.gov

การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) นั้นส่งผลต่ออุณหภูมิมหาสมุทรที่สูงขึ้น ดังนั้น ปริมาณน้ำมหาสมุทรอุ่นที่เข้าถึงฟยอร์ด จึงนำไปสู่การละลายของธารน้ำแข็งในฟยอร์ดนั่นเอง 

ด้วยเหตุนี้ เมื่อ 5 ปีก่อน นักวิทยาศาสตร์จึงได้เริ่มต้นภารกิจ Oceans Melting Greenland (OMG) ศึกษาการละลายของธารน้ำแข็งเหล่านี้จากทางอากาศและทางเรือ ด้วยการวัดฟยอร์ดทีละแห่ง จนสามารถสำรวจธารน้ำแข็งได้ถึง 226 แห่ง และพบว่าฟยอร์ด ‘ลึก’ 74 แห่ง เป็นที่มาของปริมาณน้ำแข็งละลายเกือบครึ่งหนึ่งของปริมาณทั้งหมด ในช่วงปี 1992 ถึง 2017 

ภารกิจ OMG ใช้เรือขนส่งเครื่องมือที่ใช้วัดปริมาณเกลือและความลึก เดินทางเข้าไปในบริเวณฟยอร์ด
Credits: NASA

งานวิจัยนี้ ตีพิมพ์ใน Science Advances เมื่อวันที่ 1 มกราคม หรือวันปีใหม่ที่ผ่านมา และถือเป็น ‘ครั้งแรก’ เลยที่อธิบายได้ว่า น้ำชายฝั่งที่ร้อนขึ้นส่งผลต่อการละลายของธารน้ำแข็งกรีนแลนด์อย่างไร

ธารน้ำแข็งเหล่านี้มีการตัดเฉือน (Undercutting) จาก ‘ข้างใต้’ มากที่สุด เพราะเป็นบริเวณที่อบอุ่นกว่าด้านบน คำอธิบายสำหรับเรื่องนี้คือ  ที่ด้านล่างของฟยอร์ดนั้นเป็นบริเวณที่มีเกลือหรือน้ำเค็มสะสมอยู่ ทำให้บริเวณนี้มีอุณหภูมิสูงกว่าน้ำที่เกลือมีอยู่อย่างเจือจางหรือไม่มีเกลือเลยด้านบน มันจึงละลาย ‘ฐาน’ ของธารน้ำแข็งที่อยู่ข้างใต้ ค่อย ๆ ทำให้น้ำแข็งด้านบนปริแตกออกจากกัน 

และที่น่าเหลือเชื่อกว่า คือในทางตรงกันข้าม ธารน้ำแข็ง 51 แห่งที่ยื่นออกไปในฟยอร์ด ‘ตื้น’ หรือ อยู่บนสันเขาตื้น ๆ มีการตัดเฉือนในลักษณะนี้น้อยที่สุด และปริมาณน้ำแข็งที่ละลายในส่วนนี้ คิดเป็นเพียง 15% ของปริมาณน้ำแข็งที่ละลายทั้งหมดเท่านั้น

ไมเคิล วู้ด (Michael Wood) นักวิจัยระดับหลังปริญญาเอกจาก Jet Propulsion Laboratory ของนาซา และผู้เขียนหลักของงานวิจัยชิ้นนี้กล่าวว่า เขารู้สึกประหลาดใจมากกับการค้นพบนี้

“ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดและลึกที่สุด กลับถูกตัดและละลายเร็วกว่าธารน้ำแข็งขนาดเล็กในน้ำตื้นมาก … หรือพูดอีกอย่างคือ ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุด กลับมีความอ่อนไหวต่อน้ำอุ่นมากที่สุด และเป็นที่มาหลักของการปริมาณน้ำแข็งละลายอันมหาศาลของกรีนแลนด์”

และนั่นสรุปได้ว่า สำหรับกรณีของธารนำแข็งกรีนแลนด์ ยิ่งธารน้ำแข็งมีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งละลายเร็วเท่านั้น และต้นเหตุก็คือความลึกของฟยอร์ดที่ธารน้ำแข็งนั้นตั้งอยู่นั่นเอง 

(อ่านต่อหน้า 2 คลิกด้านล่างเลย)