มิคาอิล กอร์บาชอฟ (Mikhail Gorbachev) ผู้นำสหภาพโซเวียตคนสุดท้ายได้เสียชีวิตลงแล้วในวัย 91 ปี หลังรักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่สักพักใหญ่ ก่อนอาการจะทรุดลงและสิ้นใจเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น ด้านวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ส่งข้อความแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของกอร์บาชอฟแล้ว

กอร์บาชอฟ ได้เคยทำข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ​และร่วมมือกับมหาอำนาจตะวันตกในการขจัดม่านเหล็กที่แบ่งแยกยุโรปออกจากที่อื่นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จนนำไปสู่การรวมประเทศของเยอรมนี แต่การปฏิรูปภายในประเทศของเขา กลับทำให้สหภาพโซเวียตอ่อนแอลงจนถึงขั้นล่มสลาย ซึ่งปูตินบอกว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็น “หายนะทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษที่ 20”

กอร์บาชอฟเป็นที่รู้จักจากนโยบายที่พยายามจะสร้างสัมพันธ์กับชาติตะวันตก แต่กลับไม่อาจป้องกันการล่มสลายของสหภาพโซเวียตได้ในปี 1991 ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังจากที่เขาเพิ่งได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพในปี 1990 การได้รับรางวัลครั้งนี้ทำให้กอร์บาชอฟเป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ แต่กลับทำให้คนในประเทศหลายคนไม่พอใจและกล่าวโทษว่าเขาทำให้ประเทศตกต่ำจนถึงขั้นล่มสลาย

หลังจากโซเวียตล่มสลายไปแล้ว ตัวเขายังคงหันกลับมาเล่นการเมืองอีกครั้งในปี 1996 แต่คะแนนนิยมแทบไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว จนค่อย ๆ หายไปจากเวทีการเมืองในที่สุด

มิคาอิล กอร์บาชอฟ เป็นชาวรัสเซียผสมยูเครน มีรอยปานสีแดงสังเกตเห็นได้ชัดบนศีรษะ ซึ่งเขาถือเป็นผู้นำคนที่ 8 และคนสุดท้ายแห่งสหภาพโซเวียต โดยมีประวัติการดำรงตำแหน่งที่หลากหลาย ดังนี้

  • ระหว่างค.ศ. 1985 ถึง 1991 ดำรงแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สหภาพโซเวียต
  • ระหว่างค.ศ. 1988 ถึง 1991 ดำรงตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ
  • ระหว่างค.ศ. 1988 ถึง 1989 ดำรงตำแหน่งประธานเปรซิเดียมสูงสุด
  • และระหว่างค.ศ. 1990 ถึง 1991 ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโซเวียต

ที่มา : Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส