สำนักข่าวท้องถิ่นของอิหร่านรายงานว่า นักเรียนหญิงหลายสิบคนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ด้วยอาการหายใจลำบาก ซึ่งแพทย์คาดว่าเด็กหญิงเหล่านี้อาจถูกโจมตีด้วยสารพิษ
เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา โรงพยาบาลหลายแห่งในเมืองกอม (Qom) หนึ่งในมหานครใหญ่ของประเทศอิหร่าน ได้รับตัวผู้ป่วยหลายร้อยรายที่มีอาการหายใจลำบากเข้ามาทำการรักษา บางรายมีอาการหนักและต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดเป็นเด็กนักเรียนหญิงชาวอิหร่าน
เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลอิหร่านระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจเป็นความพยายามของกลุ่มคนที่ต้องการให้ปิดโรงเรียนหญิงล้วนทิ้ง หรือแม้แต่เป็น “การแก้แค้นรัฐบาล” ของกลุ่มผู้ประท้วงที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศตลอด 5 เดือน ภายหลังการจับกุม มาห์ซา อามินี (Mahsa Amini) หญิงชาวเคิร์ดในอิหร่านวัย 22 ปี ในข้อหาไม่สวมฮิญาบปกคลุมศีรษะขณะอยู่ในพื้นที่สาธารณะ
อามินีเสียชีวิตลงในวันที่ 16 กันยายน ปี 2022 จากภาวะหัวใจล้มเหลวฉับพลัน โดยหลายฝ่ายเชื่อว่าอาจมีการใช้กำลังความรุนแรงกับเธอ หลังจากที่ทางการอิหร่านคุมเข้มกับประเด็นด้านการแต่งกาย โดยเฉพาะกับผู้หญิงมากยิ่งขึ้น
สำนักข่าว IRNA ของอิหร่านรายงานว่า ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บาห์ราม เอย์นอลลาฮี (Bahram Eynollahi) รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของอิหร่าน เปิดเผยว่า ทางการกำลังหาทางรับมือกับการโจมตีด้วยสารพิษ ในขณะที่กลุ่มผู้ปกครองจำนวนมากกำลังกดดันให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการเพื่อปกป้องลูกสาวของพวกเขา
สำนักข่าว IRNA ยังรายงานความเห็นของนักเคลื่อนไหวคนหนึ่งว่า การโจมตีดังกล่าวอาจเป็นฝีมือของกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน หรือกลุ่มโบโกฮารามในซาเฮล ซึ่งเป็นพวกต่อต้านการศึกษาของเด็กผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานความคืบหน้าในการสอบสวนหาสาเหตุของการวางยาพิษนักเรียนหญิงเหล่านี้ แต่รัฐบาลอิหร่านยืนยันว่า พวกเขาสนับสนุนการศึกษาของผู้หญิงและขอประณามการกระทำที่ไร้เหตุผลนี้
ที่มา : The Guardian
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส