วันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 27 ของไทยแล้ว ยังเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดีของประเทศตุรกีอีกด้วย ซึ่งขณะนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าตุรกีจำเป็นต้องจัดการลงคะแนนเสียงอีกครั้ง เนื่องจากไม่มีผู้สมัครฯ คนใดได้เสียงเกิน 50%

คณะกรรมการการเลือกตั้งของตุรกีเปิดเผยภายหลังการนับคะแนนได้ 97% ว่านายเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน (Recep Tayyip Erdoğan) ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของตุรกี เป็นผู้ที่มีคะแนนนำสูงสุดและกวาดคะแนนไปได้มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49.39% อย่างไรก็ตาม คะแนนที่ ปธน.แอร์โดอัน ได้รับนั้นยังไม่มากพอที่จะชนะขาดการเลือกตั้ง

ในขณะที่ นายคามัล คิลิกดาโรกลู (Kemal Kilicdaroglu) ผู้ท้าตำแหน่งประธานาธิบดีที่สูสีกับ ปธน.แอร์โดอัน และได้รับความนิยมจากประชาชนมากที่สุดในการสำรวจความคิดเห็น ได้รับคะแนนไป 44.92% เท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่มากพอที่จะชนะขาดการเลือกตั้งได้เช่นกัน

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การเลือกตั้งของตุรกีกำลังได้รับการจับตามองจากทั่วโลก เนื่องจากนี่อาจเป็นจุดเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปกครองของตุรกีให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หลังจากถูกปกครองโดย ปธน.แอร์โดอัน มาเป็นเวลา 20 ปี รวมถึงการที่ตุรกีเป็น 1 ใน 85 ประเทศสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ทำให้ผู้นำของประเทศนั้นมีความสำคัญอย่างมากในการจัดการกับความสัมพันธ์อันซับซ้อนระหว่างรัสเซีย ยูเครน และชาติตะวันตก

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กกต. ของตุรกีจะประกาศจัดการลงคะแนนเสียงเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็มีกลุ่มผู้สนับสนุนของ ปธน.แอร์โดอัน ออกมาเฉลิมฉลองตามท้องถนนและประกาศชัยชนะแล้ว

ที่มา : Reuters

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส