สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติ (National Retail Foundation : NRF) ของสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่า การใช้จ่ายช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน (Halloween) ในสหรัฐอเมริกาปีนี้จะแตะระดับ 12,200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 439,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าสถิติของปี 2022 ที่ระดับ 10,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 381,600 ล้านบาท

NRF ระบุว่า แม้ว่าการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลฮาโลวีนอาจไม่สูงมากเท่ากับเทศกาลวันหยุดฤดูหนาวที่เน้นการให้ของขวัญเป็นหลัก เช่น เทศกาลวันฮานุกกะห์ หรือเทศกาลคริสต์มาส หรือวันหยุดที่แต่ละครอบครัวหมดค่าใช้จ่ายสูงไปกับการเลี้ยงอาหารในเทศกาลวันขอบคุณพระเจ้า หรือเทศกาลวันอีดิลฟิตรี แต่การจับจ่ายก็ยังคึกคักกว่าช่วงเวลาปกติ เพราะผู้บริโภคอดใจไม่ได้ที่จะใช้จ่ายเงินในช่วงเทศกาลวันฮาโลวีน เพื่อความสนุกสนาน และการถูกกระตุ้นด้วยแคมเปญการตลาดต่าง ๆ

โดยค่าเฉลี่ยที่ชาวอเมริกันจะใช้จ่ายอยู่ที่ 108 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,888 บาทต่อคน ซึ่งจะถูกใช้ไปกับเครื่องแต่งกาย ขนม ของตกแต่งบ้าน และอุปกรณ์จัดงานปาร์ตี้ต่าง ๆ ในขณะที่ชาวแคนาเดียนเพียงครึ่งเดียวเท่านั้นที่จะใช้จ่ายมากกว่า 50 ดอลลาร์แคนาดา (1,350 บาท) ในช่วงเทศกาลนี้ ซึ่งน้อยกว่าชาวอเมริกันมากกว่าครึ่งหนึ่ง

ข้อมูลของ NRF เปิดเผยว่า สำหรับหลาย ๆ คนแล้ว เทศกาลวันฮาโลวีนไม่ใช่แค่การตระเวนไปตามละแวกบ้านเพื่อเล่นเกมหลอกหรือเลี้ยง (Trick or Treat) หรือเช่าชุดแฟนซีไปร่วมงานปาร์ตี้ที่บ้านเพื่อน แต่วันฮาโลวีนยังสามารถขยายไปสู่กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก ซึ่งนั่นหมายถึงการใช้จ่ายที่มากขึ้น

โดย สเตซี วูด ศาสตราจารย์ด้านการตลาดจากมหาวิทยาลัยนอร์ตแคโรไลนาสเตต ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการฉลองเทศกาลฮาโลวีนไว้ว่า ผู้คนที่เฉลิมฉลองวันฮาโลวีนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดก็ตาม มักจะจับจ่ายด้วยเหตุผลคล้าย ๆ กัน คือ ความต้องการเป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศ โดยเฉพาะสินค้าต่าง ๆ ที่ต้องมีให้เข้าธีมเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นเครื่องแต่งกาย ลูกอม และฟักทอง ความต้องการนี้ทำให้ผู้คนต่างกระตือรือร้นที่จะซื้อสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้น

ซึ่งผู้ผลิตและห้างร้านต่าง ๆ ที่มองเห็นโอกาสตรงนี้ก็สามารถโกยเงินได้อย่างมากจาก เช่น การออกสินค้าพิเศษสำหรับเทศกาล หรือการปรับแพ็กเกจที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายในการซื้อขนม ฟักทอง และสินค้าต่าง ๆ ทุกประเภทที่เกี่ยวข้องกับวันฮาโลวีน ซึ่งแน่นอนว่าสินค้าเหล่านี้มักมีราคาสูงกว่าปกติเล็กน้อย แต่หากมีรูปลักษณ์ที่เข้ากับเทศกาลแล้ว ผู้คนก็มักจะเผลอใช้จ่ายมากขึ้นด้วยความเต็มใจ

ที่มา : BBC

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส