สำนักข่าว CNA รายงานเมื่อวานนี้ว่าทางการเกาหลีใต้ประกาศให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยกลางแจ้งตั้งแต่เดือนกรกฎาคมอีกต่อไป แต่เฉพาะสำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 อย่างน้อยหนึ่งโดสแล้วเท่านั้น

การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการรณรงค์เพื่อจูงใจให้ชาวเกาหลีใต้ออกมาฉีดวัคซีนกันมากขึ้น เนื่องจากทางเกาหลีใต้ตั้งเป้าที่จะสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนให้ได้อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ หรือ 36 ล้านคน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 52 ล้านคน ภายในเดือนกันยายน ซึ่งตอนนี้ฉีดไปได้เพียง 7.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

คิม บู-คย็อม (Kim Boo-kyum) นายกรัฐมนตรี กล่าวกับที่ประชุมกับหน่วยงานที่รับมือกับสถานการณ์ไวรัสโคโรนาว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดสจะได้รับอนุญาตให้รวมตัวกันในที่สาธารณะได้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป และในเดือนกรกฎาคมจะไม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยในที่กลางแจ้งอีกแล้ว

คิม บู-คย็อม นายกรัฐมนตรี

ส่วนทางควอนด็อก-ชอล (Kwon Deok-cheol) รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีอายุระหว่าง 65 ถึง 74 ปี ซึ่งมีมากกว่า ร้อยละ 60 ตั้งแต่วันพฤหัสบดีในคลินิกมากกว่า 12,000 แห่ง ปัจจุบัน เกาหลีใต้รายงานผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสรายใหม่ 699 รายเมื่อวันอังคารทำให้ยอดผู้ติดเชื้อราว 138,000 รายและเสียชีวิตรวม 1,940 ราย

ควอนด็อก-ชอล รัฐมนตรีสาธารณสุข

เป็นที่น่าจับตามองว่าสถานการณ์ในเกาหลีใต้จะเป็นอย่างไรต่อไป จะทำได้ตามที่กล่าวไว้หรือไม่ เพราะเกาหลีใต้เคยเป็นหนึ่งในประเทศที่รับมือกับสถานการณ์โควิดได้ดีที่สุด แต่ภายหลังก็มียอดติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นกัน แถมเกาหลีใต้ยังเคยเจรจากับ โจ ไบเดนประธานาธิบดี เรื่องขอเป็นศูนย์ผลิตวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ให้โลกด้วย ซึ่งภายหลังก็มีข่าวว่าบริษัทยาในเครือซัมซุงของเกาหลี ได้ลงนามกับโมเดอร์นา ในการร่วมผลิตวัคซีนและหวังเป็นไลน์ผลิตวัคซีนแจกจ่ายให้กับประเทศในโซนเอเชียด้วย

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส