เมื่อวานนี้ (พฤหัส 3 มิถุนายน) อินเดียลงนามคำสั่งแรกในการขอซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากบริษัทผลิตวัคซีนในประเทศตัวเอง ซึ่งคำสั่งดังกล่าวเกิดขึ้น 1 วันหลังจากมีคำวิจารณ์จากศาลฎีกาว่าทางรัฐบาลมีวิธีการจัดหาวัคซีนที่ผิดพลาด จนทำให้มีผู้คนหลายล้านคนติดเชื้อและมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วเกือบ 338,000 คน

ทางรัฐบาลอินเดียกำลังเข้าซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 300 ล้านโดส จากบริษัทที่ชื่อว่า ไบโอโลจิคอล-อี (Biological-E) ตั้งอยู่ที่เมืองไฮเดอราบัด (Hyderabad) รัฐอานธรประเทศ (Andhra Pradesh) เบื้องต้นวางเงินมัดจำไปแล้ว 15,000 ล้านรูปี หรือคิดเป็นเงินไทยกว่า 6,400 ล้านบาท

กระทรวงสาธารณสุขอินเดียกล่าวว่าข้อตกลงกับไบโอโลจิคอล-อี เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในวงกว้างของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้ผู้ผลิตในท้องถิ่นได้ทำการวิจัยและพัฒนา ซึ่งเบื้องต้นยังคงอยู่ในขั้นตอนการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 เท่านั้น ทั้งนี้ ทางไบโอโลจิคอล-อีมั่นใจว่าจะสามารถแจกจ่ายวัคซีนได้ทันระหว่างเดือนสิงหาคมหรือธันวาคมนี้

การเร่งซื้อวัคซีนครั้งนี้ของรัฐบาลอินเดียเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลถูกกดดันอย่างหนักต่อศาลสูงของอินเดีย ที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี (Narendra Modi) จัดการนโยบายการฉีดวัคซีนขึ้นใหม่ ให้มีราคาที่เข้าถึงได้ทุกคนและแจกจ่ายวัคซีนให้กับกลุ่มคนที่ยากจนด้วย ท่ามกลางผู้คนนับ 20 ล้านคนที่ติดเชื้อจากการแพร่ระบาดครั้งที่ 2 ในประเทศ ตอนนี้อินเดียมีผู้เสียชีวิตรวมเกือบ 338,000 คน และมีเพียง 4.7% ของประชากรที่เป็นผู้ใหญ่จำนวน 950 ล้านคนเท่านั้นที่ได้รับวัคซีน 2 โดส

อ้างอิง

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส