เอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกของโลกที่ประกาศให้บิตคอยน์สามารถใช้ในการชำระหนี้หรือเป็นเงินที่ถูกกฎหมายอีกทั้งได้ซื้อบิตคอยน์เก็บไว้ในเงินทุนสำรองของประเทศ ล่าสุดการเทขายและราคาลดลงครั้งใหญ่ของบิตคอยน์เมื่อ 14 มิถุนายน ได้มีการนำยอดซื้อบิตคอยน์ที่เอลซัลวาดอร์ได้เคยประกาศไว้มาคำนวณพบว่าจากมูลค่ามากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (3,502 ล้านบาท) ได้ลดลงมากว่า 50% เหลือ 51 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,786 ล้านบาท)

นายนายิบ บูเคเล (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีของเอลซัลวาดอร์ได้ทวีตประกาศซื้อบิตคอยน์ถึง 10 รายการ ซึ่งมีอย่างน้อย 4 รายการที่บอกว่าซื้อ Dip หรือช้อนซื้อช่วงราคาตก และ 27 ตุลาคม ได้มีการซื้อบิตคอยน์ครั้งใหญ่ที่สุด 420 BTC ในราคา 59,369.58 เหรียญสหรัฐฯ (2,080,161 บาท) มูลค่าเกือบ 25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (874 ล้านบาท) ซึ่งปัจจุบันมูลค่าได้ลดลงมาเกือบ 63% เหลือ 9.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (331 ล้านบาท)

DBRS Morningstar บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับโลกได้นำเสนอข้อมูลการถือเงินตราต่างประเทศในทุนสำรองของเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนที่แล้วอยู่ที่ 3,650 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (128,098 ล้านบาท) จึงสรุปง่าย ๆ ว่าเมื่อเทียบกันแล้วเงินลงทุนและการขาดในบิตคอยน์ของเอลซัลวาดอร์ ดู ๆ แล้วยังเล็กน้อยมาก

ล่าสุดทวีตของ Bitcoin Magazine เผยข้อมูลจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเอลซัลวาดอร์ว่าเงินลงทุนในบิตคอยน์ลดลง 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (1,402 ล้านบาท) คิดแล้วไม่ถึง 0.5% ของงบประมาณประเทศ และ บูเคเลได้ตอบทวีตว่า “คุณกำลังบอกผมว่าเราควรซื้อ BTC มากกว่านี้ไหม?” นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ เอลซัลวาดอร์จะซื้อบิตคอยน์ในช่วงนี้เพิ่มเติมอีกก็ได้

ที่มา : reuters และ twitter