ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบัน คอนแทคเลนส์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก โดยจากสถิติพบในสหรัฐอเมริกา มีประชากรถึง 45 ล้านคนที่ใช้งานคอนแทคเลนส์ แต่จากการสำรวจเกือบทุกคนกลับใส่คอนแทคเลนส์ผิดวิธี!

ศูนย์วิจัยเพื่อควบคุมและป้องกันเชื้อโรค (Centers for Disease Control and Prevention) ได้ทำการสำรวจและค้นพบว่า เกือบ 90% ของผู้ใหญ่ที่ใส่คอนแทคเลนส์นั้นนอนหลับโดยไม่ถอดมันออก และบางคนก็ไม่ยอมเปลี่ยนคอนแทคเลนส์ตามอายุการใช้งานที่ระบุไว้ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนอาจทำให้ตาของผู้ใส่เกิดการติดเชื่อได้ ในเคสที่อาการรุนแรงอาจทำให้ตาบอดได้เลยครับ

การใช้คอนแทคเลนส์นั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่าง ยกตัวอย่างเช่น ทำให้เราสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้ชัดเจน ไม่ไหลลงมาตามดั้งจมูก และไม่เกิดฝ้า เป็นต้น แต่หากมันปนเปื้อนสิ่งสกปรกหรือใส่อย่างผิดวิธี คอนแทคเลนส์ก็อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ได้มากกว่าการใส่แว่นตาครับ

และตัวอย่างต่อไปนี้คือตัวอย่างพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการใส่คอนแทคเลนส์ ซึ่งพบจากการสำรวจของ CDC ครับ

นอน หรือ งีบ โดยไม่ถอด

การไม่ยอมถอดคอนแทคเลนส์ก่อนนอนหรืองีบทำให้กระจกตาไม่ได้สัมผัสกับออกซิเจน ส่งผลให้เชื้อโรคเข้ามาทำให้ตาติดเชื้อได้มากกว่าปกติถึง 6-8 เท่า

ใส่ขณะว่ายน้ำ

สระน้ำนั้นไม่สะอาด! ภายในสระน้ำจะมีแบคทีเรียอยู่มากมาย ซึ่งหากเราใส่คอนแทคเลนส์ว่ายน้ำก็จะทำให้แบคทีเรียเหล่านี้เข้ามาเกาะติดอยู่กับคอนแทคเลนส์เราได้

ไม่เปลี่ยนตลับเก็บ

American Academy of Ophthalmology หรือ สถาบันเกี่ยวกับการติดเชื้อในลูกนัยน์ตา แนะนำว่า เราควรเปลี่ยนตลับอย่างน้อยทุกๆ 3 เดือน เพราะการใช้ตลับเดิมไม่ยอมเปลี่ยนนั้น อาจทำให้ตัวตลับกลายมาเป็นตลับสำหรับเก็บสะสมแบคทีเรียที่ทำให้ตาติดเชื้อ

ใส่น้ำยาทำความสะอาดลงในตลับ โดยไม่ยอมเปลี่ยนน้ำยาเก่า

การไม่ยอมเปลี่ยนน้ำยาก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดเชื้อโรคได้เช่นกัน

จากตัวอย่างพฤติกรรมทั้ง 4 จะเห็นว่า ทั้งหมดล้วนส่งผลให้เกิดเชื้อโรค และเชื้อโรคก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อนัยน์ตาเราได้ เพราะฉะนั้นวิธีแก้ปัญหาก็คือ เราต้องรักษาความสะอาดโดยการล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนใช้งาน เปลี่ยนตลับเก็บบ่อยๆ ใช้น้ำยาทำความสะอาดตัวคอนแทคเลนส์และตลับ และสุดท้ายคือการไม่ใส่คอนแทคเลนส์นานเกินไปครับ

อ้างอิง