นักวิทยาศาสตร์พบหลักฐานใหม่ในเศษซากเรืองแสงลึกลับของเนบิวลาวงแหวนสีน้ำเงิน ซึ่งอาจอธิบายได้ว่าโครงสร้างแปลกประหลาดนี้ก่อตัวขึ้นได้อย่างไร
เนบิวลาวงแหวนสีน้ำเงินมีดาวฤกษ์ศูนย์กลางซึ่งเรียกว่า TYC 2597-735-1 นักดาราศาสตร์สังเกตเห็นวงแหวนอัลตราไวโอเลตที่ผิดปกติล้อมรอบดาวฤกษ์นี้เป็นครั้งแรกในปี 2004 ด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศ Galaxy Evolution Explorer (GALEX) ที่ปัจจุบันปลดประจำการแล้วของนาซา และนับแต่นั้นการก่อตัวของวงแหวนที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าก็ยังคงเป็นปริศนาเรื่อยมา
มาร์ค ไซเบิร์ต (Mark Seibert) นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์จากสถาบันคาร์เนกีเพื่อวิทยาศาสตร์ (Carnegie Institution for Science) สมาชิกของทีม GALEX และผู้ร่วมเขียนการวิจัยใหม่เกี่ยวกับวงแหวนลึกลับนี้กล่าวในแถลงการณ์ว่า “ทุกครั้งที่เราคิดว่า เราคำอธิบายบางอย่าง ก็จะมีบางสิ่งโผล่ขึ้นมาบอกเราว่า ‘ไม่ มันไม่ถูกต้อง’ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่น่ากลัวในฐานะนักวิทยาศาสตร์ แต่ผมก็ชอบที่วัตถุชิ้นนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และชื่นชมในการพยายามหาคำอธิบายทั้งหลาย ที่หลายคนช่วยกันคิดออกมา”
คริสโตเฟอร์ มาร์ติน (Christopher Martin) นักฟิสิกส์จากสถาบันคาลเทค (California Institute of Technology: Caltech) และอดีตผู้รับผิดชอบในภารกิจ GALEX อธิบายในการแถลงข่าวในวันที่ 17 พ.ย. 63 ก่อนที่งานวิจัยจะเผยแพร่สู่สาธารณะ (18 พ.ย. 63) ว่าวงแหวนสีน้ำเงินที่จริงไม่ใช้วงแหวนอย่างที่คิด
หลังการใช้หอดูดาว W. M. Keck (W. M. Keck Observatory) ในฮาวาย นักวิจัยพบว่าวงแหวนสีน้ำเงินที่จริงแล้วเป็นฐานของเมฆรูปทรงกรวยที่เต็มไปด้วยไฮโดรเจนโมเลกุลเรืองแสง ที่ยื่นออกจากใจกลางดาวพุ่งหันเข้าหาโลก การสังเกตครั้งใหม่นี้ยังแสดงให้เห็นเมฆรูปทรงกรวยอันที่สองที่ยื่นออกมาจากดาวในอีกด้าน คือในทิศทางตรงกันข้ามด้วย ฐานของเมฆรูปกรวยทั้งสอง จึงดูเหมือนซ้อนทับกันเมื่อมองจากโลก ทำให้เกิดรูปร่างเป็นเหมือนวงแหวนรอบดาว

ภาพบนคือมุมมองจากด้านข้าง ส่วนภาพล่างคือมุมมองที่เราเห็นจากโลก
Credit: NASA/JPL-Caltech/R. Hurt
(อ่านต่อหน้า 2 คลิกด้านล่างเลย)