พอถึงช่วงเวลาของเทศกาลคริสต์มาส เพลงคริสต์มาสสุดฮิตของ “All I Want for Christmas Is You” ของขุ่นแม่ มารายห์ แครีย์ (Mariah Carey) ก็ถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้ง จนทำให้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่า เพลงประจำคริสต์มาสที่เผยแพร่มาตั้งแต่ปี 1994 เพลงนี้กลับมาขึ้นชาร์ตอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ ได้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน แถมยังพาอัลบั้ม ‘Merry Christmas’ ที่มีเพลงนี้บรรจุอยู่ กลับขึ้นมาครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ได้เป็นปีที่ 4 ติดต่อกันอีกด้วย

แน่นอนว่า การกลับมาติดชาร์ตแบบ 4 ปีซ้อนขนาดนี้ หมายความว่า ตัวเพลงก็ได้รับความนิยม และเป็นหนึ่งในเพลงคริสต์มาสขวัญใจคนทั้งโลกอยู่ไม่น้อย นี่ยังไม่นับรวมส่วนแบ่งรายได้ประมาณ 4 ล้านเหรียญต่อปี ที่ขุ่นแม่จะได้จากการเปิดเพลงในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ชนิดที่หลายคนต่างก็แซวกันว่าเพลงนี้นี่แหละคือ Passive Income ของขุ่นแม่จริง ๆ เรียกว่าแค่เพลงเดียวหากินกันได้ยาว ๆ

แต่แน่นอนแหละว่าหลายคนก็อาจจะไม่ได้ชอบเพลงนี้ ด้วยเหตุที่ว่าไปทางไหนก็ได้ยิน เข้าห้าง เข้าผับบาร์ ร้านอาหาร หรือแม้แต่เข้าหน้าฟีดโซเชียลมีเดียก็ยังได้ยิน (เดี๋ยวก็เป็นไวรัลบ้างล่ะ เดี๋ยวก็เป็นมีมบ้างล่ะ) จนมีบาร์แห่งหนึ่งในออสเตรเลียได้ตัดสินใจประกาศ ‘แบน’ เพลงคริสต์มาสสุดฮิตเพลงนี้ด้วยการสั่งห้ามเปิดเพลง “All I Want for Christmas Is You” อย่างเด็ดขาด

All I Want for Christmas Is You Mariah Carey
ไซมอน โรส ฮอปกินส์ (ขวาสุด) เจ้าของบาร์ Jolene’s

บาร์นี้มีชื่อว่า โจลีนส์ (Jolene’s) เป็นบาร์สไตล์แนวอเมริกันคันทรี ที่ตั้งอยู่ ณ เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง ไซมอน โรส ฮอปกินส์ (Simon Rose-Hopkins) เจ้าของบาร์แห่งนี้ ได้ประกาศแบบชัดเจนว่า จะมีการจัดงานคริสต์มาสในบาร์ แต่จะไม่มีการเปิดเพลงคริสต์มาสสุดฮิตเพลงนี้ในร้านของเขาอย่างแน่นอน

“เรากำลังจะจัดคริสต์มาสที่เจ๋งแบบสุดขีด เรามีไฟ มีกวางเรนเดียร์ ต้นคริสต์มาส และค็อกเทลคริสต์มาส มีทั้งจิงเจอร์เบรดแมนฮัตตัน (Gingerbread Manhattan) แล้วก็มีเค้กคริสต์มาส มีน้ำปั่นแบบคริสต์มาส แล้วก็มีเพลย์ลิสต์เพลงคริสต์มาสแบบคันทรี แต่เราจะไม่เล่นเพลงของมารายห์เด็ดขาด”

จริง ๆ ก็ไม่ใช่แค่เพลงคริสต์มาสของขุ่นแม่แครีย์เท่านั้นที่ถูกแบน เพราะมีรายงานว่า เพลงคริสต์มาสของนักร้องหนุ่ม ไมเคิล บูเบล (Michael Bublé) ก็ถูกร้านนี้สั่งแบนด้วยเช่นกัน และถ้าสงสัยว่า เพลย์ลิสต์คริสต์มาสที่ว่านั้นมันมีอะไรบ้าง ซึ่งเขาเองก็ได้เปิดเผยตัวอย่างเพลงในเพลย์ลิสต์ของร้านที่เรียกได้ว่า ขนเพลงคริสต์มาสแนวคันทรีมาแบบจัดเต็ม อาทิ ลี เคอร์นาแฮน (Lee Kernaghan) เจ้าของเพลงคัฟเวอร์ “Jingle Bell Rock” แนวคันทรีร็อก เบลก เชลตัน (Blake Shelton) เจ้าของบทเพลง “Two Step ‘Round the Christmas Tree” และ ดอลลี พาร์ตัน (Dolly Parton) เจ้าของบทเพลง “A Smoky Mountain Christmas” เป็นต้น

ส่วนสาเหตุที่เขาประกาศแบนเพลงคริสต์มาสของขุ่นแม่แครีย์ เจ้าของร้านอย่างฮอปกินส์ได้เปิดเผยสาเหตุว่า “ที่ร้านของเรา มักจะมีพนักงานจากห้างค้าปลีกจำนวนมากมาฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันครับ และพวกเขาคงไม่อยากจะได้ยินเพลงจากเพลย์ลิสต์เดิม ๆ ที่เปิดซ้ำไปซ้ำมาในที่ทำงานของพวกเขาอีก” และยังยืนยันด้วยตัวเองอีกว่า เขาจะไม่ทำให้บรรยากาศการเฉลิมฉลองคริสต์มาสต้องกร่อยอย่างแน่นอน และยังยืนยันอีกว่า การแบนเพลงคริสต์มาสสุดฮิตนั้นได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเป็นส่วนใหญ่

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการแบนเพลงคริสต์มาสสุดฮิตในบาร์ เพราะเมื่อปี 2021 ร้าน สโตนลีห์ พี (Stoneleigh P) ย่านอัปทาวน์ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ก็ได้ติดประกาศเอาไว้บนตู้เพลงว่า ห้ามเปิดเพลง “All I Want for Christmas is You” จนกว่าจะถึงวันที่ 1 ธันวาคม และพอเข้าวันที่ 1 ธันวาคม ก็จะอนุญาตให้เปิดเพลงนี้ได้แค่คืนละ 1 ครั้งเท่านั้น

จนกระทั่งผู้จัดการร้าน ลอรา แกริสัน (Laura Garrison) ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ปิดประกาศ ก็เกิดกระแสแฟนเพลงของขุ่นแม่ที่ก่อสงครามย่อม ๆ ด้วยการเขียนรีวิว และโพสต์ Mention เกี่ยวกับบาร์ของเธอในทางลบ และเธอเองก็ดีใจที่ในภายหลัง มารายห์ แครีย์ ก็ออกมาตอบกลับกระแสนี้ด้วยการทวีตภาพของเธอเองในชุดเกราะนักรบ เพื่อแสดงออกในเชิงหยอก ๆ ว่าจริง ๆ แล้วเธอเองไม่ได้ซีเรียสอะไรกับเรื่องนี้นักหรอก


ที่มา: DailyMail, Ladbible, NBC 5

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส