The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ลดลงถึง 56.1% ลงมาอยู่ที่ 26.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นสถิติรายได้สัปดาห์ที่ 2 ที่ลดต่ำสุดของแฟรนไชส์ ‘Indiana Jones’ อีกทั้งยังส่งผลทำให้เสียแชมป์ให้แก่ ‘Insidious: The Red Door’ ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงถึง 32.6 ล้านเหรียญ

สำหรับรายได้รวมในสหรัฐฯ ของ ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ นั้น อยู่ที่ 121.2 ล้านเหรียญ และรายได้รวมทั่วโลกนั้นอยู่ที่ 247.9 ล้านเหรียญ

ด้วยอัตรารายได้ที่ลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้สถานการณ์ด้านรายได้ของ ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ ในปัจจุบันไม่สู้ดีนัก เนื่องจาก ‘Mission: Impossible Dead Reckoning Part One’ กำลังจะเข้าฉายในสัปดาห์นี้ (12 กรกฎาคม 2023) ตามด้วย ‘Oppenheimer’ (21 กรกฎาคม 2023) ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อ ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ อย่างชัดเจน

Indiana Jones and the dial of destiny

‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของ แฮร์ริสัน ฟอร์ด (Harrison Ford) เผชิญกับสถานการณ์ด้านรายได้ที่น่ากังวลตั้งแต่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกด้วยรายได้ 60.3 ล้านเหรียญ กอปรกับคะแนนจากนักวิจารณ์บน Rotten Tomatoes ไปเพียง 69% แต่ได้คะแนนจากผู้ชมไป 88% และเป็นอีกหนึ่งผลงานภายใต้การดูแลของ The Walt Disney Company ที่ทำรายได้อย่างน่าผิดหวังในปี 2023 นี้ ถัดจาก ‘Elemental’ ของ Pixar

ทั้งนี้มีรายงานว่า ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ จำเป็นต้องทำรายทั่วโลกถึง 600 ล้านเหรียญ จึงจะถึงจุดคุ้มทุนจากทุนสร้างที่มหาศาลถึง 295 ล้านเหรียญ โดยยังไม่รวมค่าการตลาดทั่วโลก

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส