ทาคาชิ ยามาซากิ (Takashi Yamazaki) ผู้กำกับและผู้นำทีมวิชวลเอฟเฟกต์ของ ‘Godzilla Minus One’ ภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ภาษาญี่ปุ่นลำดับที่ 33 ของบริษัท Toho ได้โพสต์บนบัญขี Godzilla Official บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X หลังจากที่ตัวภาพยนตร์ทำรายได้อย่างน่าประทับใจในสหรัฐฯ

เขาได้ขอบคุณผู้ชมชาวอเมริกันและคำวิจารณ์ต่าง ๆ ที่วิเคราะห์ภาพยนตร์ออกมาอย่างละเอียด โดยตัวเขาได้รับกระแสตอบรับจากผลงานล่าสุดนี้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้ชมในบางโรงภาพยนตร์ยังปรบมือให้กับความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ด้วย เขากล่าวเสริมว่า “ขอบคุณที่ต้อนรับ ‘Godzilla’ ของเราอย่างอบอุ่น”

“เราตื่นเต้นมากที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามในตลาดอเมริกาเหนือ ผมได้อ่านคำวิจารณ์จากแฟน ๆ บนสื่อโซเชียลและได้รับกำลังใจเป็นอย่างดีจากคำวิจารณ์ที่วิเคราะห์ภาพยนตร์อย่างละเอียด ผมได้ยินมาว่าผู้ชมในโรงภาพยนตร์บางแห่งถึงกับปรบมือให้เลยทีเดียว ขอบคุณที่ต้อนรับ ‘Godzilla’ ของเราอย่างอบอบุ่นครับ”

‘Godzilla Minus One’ ย้อนกลับมาเล่าเรื่องราวของ Godzilla ที่บุกเข้าถล่มประเทศญี่ปุ่นช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกลายเป็นภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ที่ได้รับคะแนนวิจารณ์บน Rotten Toamtoes สูงสุดตลอดกาลลำดับที่ 2 รองจาก ‘Godzilla vs. Destoroyah’ (1995) อีกทั้งยังทำสถิติเป็นภาพยนตร์ญี่ปุ่นที่ทำรายได้เปิดตัวในสหรัฐฯ สูงสุดเท่าที่เคยมีมา (11.4 ล้านเหรียญ) และเป็นภาษาต่างประเทศเรื่องแรกนับจาก ‘Hero’ ของผู้กำกับ จาง อี้โหมว เมื่อปี 2004 ที่สามารถขึ้นอันดับที่ 1 บนบ็อกซ์ออฟฟิศสหรัฐฯ จากการทำรายได้รายวันได้ (เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023 ที่ผ่านมา)

ในตอนนี้ ‘Godzilla Minus One’ ทำรายได้ทั่วโลกไปแล้วกว่า 45.9 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นการประกาศศักดาให้แฟรนไชส์ Monsterverse ของ Legendary Entertainment ได้ตระหนักถึงความต้องการของผู้ชมที่อยากเห็น Godzilla ที่มีความโหดร้ายและน่าเกรงขามตามแบบต้นฉบับมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

และถึงแม้ว่าภาพยนตร์ล่าสุดในแฟรนไชส์ Monsterverse อย่าง ‘Godzilla vs. Kong’ (2021) จะทำรายได้ทั่วโลกไปถึง 470 ล้านเหรียญ แต่ก็ใช้ทุนสร้างไปมหาศาลราว 155 – 200 ล้านเหรียญ ในขณะที่ ‘Godzilla Minus One’ ใช้ทุนสร้างไปเพียง 15 ล้านเหรียญ เท่านั้น

นอกจากนี้ ‘Godzilla Minus One’ ยังทำรายได้ในสหรัฐฯ ทิ้งห่างภาพยนตร์ ‘Godzilla’ ภาษาญี่ปุ่นที่เข้าฉายในสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้อย่าง ‘Godzilla 2000: Millennium’ (1999) และ ‘Shin Godzilla’ (2016) ที่ทำไว้ 10 ล้นเหรียญ และ 1.9 ล้านเหรียญ ตามลำดับ ไปอย่างสิ้นเชิง

ที่มา : ScreenRant

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส