‘Stand by Me’หรือในชื่อไทยวา ‘สแตนด์บายมี แด่เราและเพื่อน’ ออกฉายในปี 1986 กลายเป็นหนังคลาสสิกในวันนี้ เป็นหนังในสไตล์ Coming of Age ที่นำแสดงโดยนักแสดงเด็กที่หลายคนเติบโตมาเป็นนักแสดงชื่อดัง ประกอบไปด้วย วิล วีทัน (Wil Wheaton), ริเวอร์ ฟินิกซ์ (River Phoenix) เสียชีวิตไปแล้วในวัย 23 ปี, คอรีย์ เฟลด์แมน Corey Feldman, คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์ (Kiefer Sutherland) และ เจอร์รี โอคอนเนลล์ (Jerry O’Connell)

หนังดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อ ‘The Body’ ของ สตีเฟน คิง (Stephen King) เล่าเหตุการณ์ในโอเรกอน ปี 1959 เมื่อหนึ่งในกลุ่มเพื่อนหายตัวไปและเสียชีวิต เพื่อน ๆ ที่เหลือทั้ง 4 คน ตัดสินใจออกเดินทางเพื่อตามหาร่างเพื่อนของเขา เป็นหนังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในวันที่ออกฉาย ได้รับเสียงชื่นชมจากบรรดานักวิจารณ์ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม และเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม และ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมประเภทดราม่า ‘Stand by Me’ ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในยุค 80’s และเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล

อย่างที่เกริ่นมาว่าหนังดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นชื่อ ‘The Body’ แต่ตลอดระยะเวลา 37 ปีมานี้ เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เพราะเหตุใด สุดท้ายหนังจึงเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ‘Stand by Me’ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมานี้เอง คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์ ผู้ร่วมแสดงใน ‘Stand by Me’ ได้ไปเป็นแขกรับเชิญในรายการ ‘The Tonight Show With Jimmy Fallon’ และได้ย้อนพูดคุยเรื่องราวของหนังคลาสสิกเรื่องนี้ และช่วงนี้เองที่ซัทเธอร์แลนด์ได้เผยเรื่องราวที่น่าสนใจว่า ตัวเขาเองนี่แหละที่มีส่วนร่วมในที่มาของชื่อหนัง

วิล วีทัน, คอรีย์ เฟลด์แมน, คีเฟอร์ ซัทเธอร์แลนด์ และ ริเวอร์ ฟินิกซ์

ซัทเธอร์แลนด์อายุมากกว่ากลุ่มเด็กชายที่เป็นนักแสดงนำอยู่ประมาณ 4-5 ปี เขารับบทเป็นหัวหน้าแก๊งอันธพาลที่เป็นศัตรูกับแก๊งเด็กชาย ในช่วงพักการถ่ายทำ ซัทเธอร์แลนด์มักจะเล่นกีตาร์ และได้รับความสนใจจาก ริเวอร์ ฟินิกซ์ ซึ่งอยู่ในวัย 15 ปี และกำลังสนใจการเล่นกีตาร์ ซึ่งในวันนั้นซัทเธอร์แลนด์เลือก “Stand By Me” เพลงฮิตเมื่อปี 1961 ของ เบ็น อี. คิง มาเล่น
“ตอนที่เรากำลังถ่ายทำหนัง ‘Stand by Me’ ส่วน ริเวอร์ ฟินิกซ์ กำลังหัดเล่นกีตาร์ ซึ่งจริง ๆ แล้วเขาก็เล่นเก่งมากนะ เขาเล่นได้ดีมาก ๆ และเล่นเร็วมาก”
แล้วพอซัทเธอร์แลนด์เริ่มเล่นเพลง “Stand By Me” ฟินิกซ์ก็แสดงความสนใจทันที

“เขาเอ่ยขึ้นมาว่า ‘โอ้ ผมชอบทำนองของเพลงนี้’ เขาไม่เคยได้ยินเพลงนี้มาก่อน ผมก็เลยสอนให้เขาเล่นเพลงนี้ ก็พอดีที่ ร็อบ ไรเนอร์ (ผู้กำกับ) เดินผ่านมาแล้วเขาก็พูดขึ้นมาว่า ‘โอ้ ผมไม่ได้ยินเพลงนี้มานานแล้ว ผมชอบเพลงนี้มาก’ แล้วเราก็จบบทสนทนากันแค่นั้น”

กลายเป็นว่าการเล่นกีตาร์ของซัทเธอร์แลนด์มีอิทธิพลต่อผู้กำกับไรเนอร์อย่างมาก “ร็อบ ไรเนอร์ ตัดสินใจนำชื่อเพลงนี้มาใช้กับหนัง เขาเปลี่ยนชื่อหนังเป็น Stand by Me”
“คุณคิดว่าเขาเปลี่ยนชื่อหนังเหรอ ? ” ฟอลลอนถามย้ำ
“ผมไม่รู้จริง ๆ ผมรู้แค่ว่ามันมาจากบทสนทนาในวันนั้น”

ในการนี้ ซัทเธอร์แลนด์ยังได้รำลึกถึง ริเวอร์ ฟินิกซ์ เพื่อนนักแสดงที่จากไปก่อนวัยอันควร
“ในช่วงถ่ายทำ ผมทำงานกับกลุ่มนักแสดงหลักน้อยมาก ถ้าผมไปถึงกองถ่ายเร็วหน่อย ก็จะเห็นพวกเขาซ้อมบทกัน แต่ละคนก็ลองซ้อมพูดบทของตัวเอง”
“โดยเฉพาะ ริเวอร์ ฟินิกซ์ นั้น เขาจะมีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้อย่างมาก และอยากจะเอาดีทางนี้ ซึ่งแน่นอนว่าเขาเป็นอย่างนั้น”

ในกลุ่มนักแสดงนำทั้ง 4 นั้น ฟินิกซ์จะอายุมากกว่าคนอื่นอยู่ 1-2 ปี ทำให้เขาดูโตกว่าคนอื่น ๆ
“นักแสดงเด็กคนอื่น ๆ เขาก็จะทำอะไรที่ดูเหมาะสมกับวัยอยู่หรอกนะ แต่ฟินิกซ์จะถามคำถามแปลก ๆ เช่น ‘พี่มาวิ่งแข่งกับผมหน่อยได้ไหม ?’ พอเขาเห็นผมเล่นกีตาร์ เขาก็ถามว่า ‘นั่นเพลงอะไรครับ สอนผมเล่นหน่อยได้ไหม ?’ เขาแสดงความปรารถนาชัดเจนมากว่าอยากจะยกตัวเองขึ้นไปอีกระดับ จนเรารู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรบางอย่างที่พิเศษ เขาสนใจในการเล่าเรื่องราวในภาพยนตร์ ในแง่ของการเรียนรู้ไม่ใช่ในแง่ของความบันเทิง”

ริเวอร์ ฟินิกซ์ เป็นพี่ชายของ วาคีน ฟินิกซ์ แต่ด่วนจากไปในวันที่อนาคตในฮอลลีวูดกำลังสดใส เขาฝากผลงานน่าจดจำไว้มากมายอย่างเช่น ‘Running on Empty’ (1988), ‘My Own Private Idaho’ (1991), ‘The Mosquito Coast’ (1986) ริเวอร์ ฟินิกซ์ เสียชีวิตเมื่ออายุ 23 ปี ด้วยสาเหตุจากการเสพยาเกินขนาด เขาเสียชีวิตหน้าคลับ The Viper Room ของ จอห์นนี เดปป์ หลังเข้าสู่วันฮาโลวีน ปี 1993 ได้ไม่กี่ชั่วโมง

ที่มา : ew.com wikipedia