‘Tropic Thunder’ (2008) ผลงานการกำกับ ร่วมเขียนบท และร่วมแสดงของ เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) นอกจากจะเป็นหนังตลกจิกกัดวงการหนัง และวงการฮอลลีวูดที่เต็มไปด้วยนักแสดงแม่เหล็กคับคั่งแล้ว สิ่งที่เป็นภาพจำของหนังเรื่องนี้ก็หนีไม่พ้นมุกตลกร้ายกวนเบื้องล่างแสบ ๆ คัน ๆ ที่ขนกันมาเพียบ ไม่เว้นแม้แต่มุกห่าม ๆ ทั้งการล้อเลียนเชื้อชาติ สีผิว ร่างกาย ความพิการ และอีกสารพัด ที่ถ้าหนังออกฉายตอนนี้คงโดนรุมสาปส่งแบบไม่มีวันผุดเกิด

หนึ่งในตัวละครที่โดนวิพากษ์วิจารณ์และถกเถียงอย่างมากมาจนถึงตอนนี้ก็คือตัวละคร เคิร์ก ลาซารัส นักแสดงหนังแนว Method Acting ชาวออสเตรเลียเจ้าของรางวัลออสการ์ ที่ทุ่มเทกับบทบาทจนถึงขนาดยอมเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนสีผิวเพื่อรับบทเป็นทหารผิวดำในหนังสงคราม ซึ่งก็แสบตรงที่บทบาทนี้ก็ดันรับบทโดยนักแสดงอเมริกันผิวขาว โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมเป็นครั้งแรกในชีวิต

ซึ่งแม้จะได้รางวัล แต่บทบาทนี้ของดาวนีย์ จูเนียร์ก็หนีไม่พ้นการถูกย้อนกลับไปวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในยุคที่การล้อเล่นกับสีผิวคือความผิดบาปร้ายแรง แต่เจ้าตัวเองก็ไม่ได้เสียใจที่เขาได้รับบทบาทนี้ และเขาเองก็ไม่เห็นด้วยกับการวิจารณ์ ไม่ใช่เพราะความสะใจหรือละเลย แต่เพราะเข้าใจในความเป็นหนังเรต R แนวเสียดสีล้อเลียนที่มองว่า ผู้ชมสามารถแยกแยะเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเองว่าอะไรเหมาะหรือไม่เหมาะสมต่างหาก

ซึ่งดาวนีย์ จูเนียร์ ได้อธิบายเรื่องนี้ในบทสัมภาษณ์ตอนล่าสุดของรายการพอดแคสต์ ‘Literally! With Rob Lowe‘ ในเชิงเปรียบเทียบกับซิตคอม ‘All in the Family’ (1971–1979) ที่ถูกวิจารณ์ด้านการเสียดสีในทำนองเดียวกัน ซึ่งทั้งคู่นั้นมีความเหมือนกันตรงที่การนำเสนอแนวคิด (Trope) บางอย่างที่มีมาอย่างยาวนาน และกลายมาเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้องในเวลานี้ ซึ่งคนที่ไม่เข้าใจในภาพรวมก็จะมองว่าหนังเรื่องนี้คือการเอาคนดำมาล้อเลียนเฉย ๆ

Tropic Thunder Robert Downey Jr. Ben Stiller

“ผมเองย้อนกลับไปดู ‘All in the Family’ ซึ่งพวกเขา (มีข้อความ) ปฏิเสธความรับผิดชอบในสิ่งที่พวกเขาแสดงตั้งแต่ต้นรายการ ผู้คนควรอ่านว่ามันคืออะไร เพราะมันจะเป็นยาถอนพิษของกับดักของบรรดาความคับข้องใจ ที่ผู้คนมีกับทุกสิ่งในทุกวันนี้”

ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้ยกข้อความจำกัดการรับผิดชอบ (Disclaimer) ของซิตคอม ‘All in the Family’ ที่ปรากฏขึ้นก่อนจะเข้าเนื้อหาตามปกติในทุก ๆ ตอน เพราะซิตคอมเรื่องนี้เองก็ขึ้นชื่อเรื่องของการนำเสนอในประเด็นละเอียดอ่อนแบบที่ไม่เคยมีในซิตคอมเรื่องไหน ทั้งการเหยียดเชื้อชาติ อคติทางเพศ อคติในความหลากหลายทางเพศ เรื่อยจนไปถึงเรื่องของการทำแท้ง สงคราม และศาสนา

Disclaimer ของซิตคอมเรื่องนี้ระบุว่า: 'รายการที่คุณรับชมอยู่นี้คือ 'All in the Family' ที่มุ่งเน้นการนำเสนออารมณ์ขันจากความอ่อนแอ อคติ และประเด็นที่น่ากังวล ด้วยการทำให้พวกเขากลายเป็นแหล่งสร้างเสียงหัวเราะ เราหวังว่าโชว์นี้จะแสดงให้เห็นในแบบผู้ใหญ่ว่าพวกเขาช่างไร้สาระขนาดไหน'

“สิ่งที่ข้อความนี้ต้องการบอกก็คือเหตุผลที่เรากำลังทำสิ่งนี้ ซึ่งในระหว่างบรรทัด คุณสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ผิดและไม่ดี มันเคยสร้างความเข้าใจให้กับผู้ชม แต่ผมไม่ได้จะบอกว่าผู้ชมไม่ได้เข้าใจมันอีกต่อไป ผมกำลังบอกว่าสิ่งต่าง ๆ มันดูเริ่มจะยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อย ๆ จิตวิญญาณของเบน (สติลเลอร์) ในการกำกับ คัดเลือกนักแสดง และถ่ายทำ ‘Tropic Thunder’ โดยพื้นฐานแล้วก็คือการต่อต้านสิ่งเหล่านั้นที่มันไม่ถูกต้อง และสิ่งที่มันอยู่มานานเกินไป (มาจนถึงปัจจุบันนี้)”

แม้ ‘Tropic Thunder’ จะได้รับคำวิจารณ์ในระดับดีมาก ได้คะแนนจากเว็บไซต์ Rotten Tomatoes สูงถึง 82% โดยเฉพาะการนำเสนออารมณ์ขันแนวเสียดสีที่จริงจัง และการแสดงของนักแสดงที่เรียกว่าทำถึง แต่ตัวหนังหลังฉายก็สร้างประเด็นข้อถกเถียงเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะมุกที่เล่นกับประเด็นอ่อนไหว นอกจากการย้อมดำของดาวนีย์ จูเนียร์ ก็ยังมีมุกของนักแสดงที่รับบทเป็นคนพิการทางสติปัญญา รวมทั้งตัวละคร เลส กรอสแมน นายทุนหนังสุดเพี้ยน ที่รับบทโดยพระเอกเทพบุตร ทอม ครูซ (Tom Cruise) ที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า ตัวละครนี้อาจเป็นการหยิบเอาภาพลักษณ์ของชาวยิวมาล้อเลียน

ก่อนหน้านี้ ผู้กำกับอย่างสติลเลอร์ก็เคยออกมาตอบคำถามแฟน ๆ ถึงหนังเรื่องนี้ใน X ด้วยเช่นกัน ซึ่งเขาเองใช้คำว่า ไม่ขอโทษในสิ่งที่เขาทำลงไปในหนังเรื่องนี้ และเขาเองก็ภูมิใจในงานที่เขาและทีมงานทุกคนร่วมกันทำมา

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาวนีย์ จูเนียร์ออกมาปกป้องบทบาทนี้ในพอดแคสต์ ‘The Joe Rogan Experience‘ เขาเองก็ได้เปิดเผยว่า แม้เขาเองจะไม่ได้รู้สึกดีกับบทบาทนี้และผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แม้แต่กระทั่งแม่ของเขาที่รู้ว่าลูกชายไปรับบทนี้ก็ยังรู้สึกไม่ดีไปด้วย แต่เขาเองเข้าใจอย่างแน่ชัดในการรับบทบาทที่สุ่มเสี่ยงโดนทัวร์ลงนี้ และรู้ถึงวิสัยทัศน์ว่าสติลเลอร์ต้องการทำอะไร

Tropic Thunder Robert Downey Jr. Ben Stiller

“90% ของเพื่อนผิวดำของผมบอกว่า ‘มันเจ๋งมากเพื่อน’ ผมเลยไม่เห็นด้วยกับ (อีก 10% ที่เหลือ) แต่ผมรู้ว่าผมทำอะไร ผมไม่เคยเอามันมาเป็นข้อแก้ตัวในการทำอะไรผิดกาละเทศะ สำหรับผม มันทำให้ประเด็นเหล่านี้พังทลายลง การมีศีลธรรมในใจมันก็เป็นงานที่ต้องทำ บางครั้งคุณก็อยากพูดว่า ‘ฉันหงุดหงิดมาก’ แต่ข้อโต้แย้งของผมคือ ‘Tropic Thunder’ คือการมองว่าการทำ *Blackface นั้นไม่ถูกต้องฉะนั้น ผม (ในกรณีนี้) จึงเป็นข้อยกเว้น”

“สติลเลอร์รู้ดีว่าวิสัยทัศน์ของหนังเรื่องนี้คืออะไร เขาลงมือทำมัน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่มันจะไม่กลายมาเป็นฝันร้ายที่น่ารังเกียจของภาพยนตร์”


*Blackface หมายถึงขนบของการแสดงที่นิยมของสหรัฐอเมริกาในอดีต ในช่วงที่ยังมีการแบ่งแยกสีผิวในละครเวที และภาพยนตร์ โฆษณา ฯลฯ ด้วยการเอานักแสดงผิวขาวผิวขาวมาทาตัว แต่งหน้า และแสดงท่าทางเลียนแบบคนผิวดำด้วยความตลกขบขัน


ที่มา: Variety, Entertainment Weekly

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส