หลังจากผ่านค่ำคืนอันทรงเกียรติของวันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม (หรือเช้าตรู่ของวันที่ 16 มกราคม ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งเป็นวันจัดงานประกาศรางวัล ไพรม์ไทม์ เอ็มมี อวอร์ดส ครั้งที่ 75 ประจำปี 2024 (75th Primetime Emmy Awards) รางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการโทรทัศน์ ที่ดำเนินการจัด และคัดเลือกรายชื่อผู้ชนะโดยสถาบันศิลปะและวิชาการทางโทรทัศน์ (Academy of Television Arts & Sciences – ATAS) ที่ปิดฉากและมอบรางวัลให้กับคนทีวีที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมตลอดปี 2023 ไปอย่างสวยงาม

ในปีนี้ นอกจากมีผลงานบนหน้าจอโทรทัศน์ที่ได้รับรางวัลนับ 100 สาขาแล้ว ก็ยังเป็นอีกปีที่จารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ฮอลลีวูดด้วย เนื่องจาก เอลตัน จอห์น (Elton John) ศิลปินตำนานชาวอังกฤษ วัย 76 ปี กลายเป็นศิลปินคนล่าสุดที่ก้าวขึ้นทำเนียบ EGOT หรือทำเนียบ 4 รางวัลใหญ่แห่งฮอลลีวูดได้ หลังจากที่สามารถคว้ารางวัลในสาขารายการพิเศษ (รายการสด) ยอดเยี่ยม (Outstanding Variety Special (Live)) จากเวที Primetime Emmy Awards จากรายการพิเศษ ‘Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium’ รายการบันทึกการแสดงสดทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่ออกฉายทางแพลตฟอร์ม Disney+

จอห์นสามารถคว้ารางวัลรางวัลแรกของทำเนียบ ด้วยการคว้ารางวัลออสการ์ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากบทเพลง “Can You Feel the Love Tonight” เพลงประกอบภาพยนตร์แอนิเมชัน ‘The Lion King’ (1994) และเพลง “(I’m Gonna) Love Me Again” เพลงประกอบจากหนัง Biopic ‘Rocketman’ (2019) คว้ารางวัลสาขาการประพันธ์ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม จากเวที Tony Awards จากการประพันธ์เพลงประกอบละครเวที ‘Aida’ (2000) รวมทั้งยังสามารถคว้ารางวัลจากเวที Grammy Awards รวม 5 รางวัล และรางวัลจากเวที Primetime Emmy Awards ทำให้จอห์นกลายเป็นศิลปินคนที่ 19 ที่ได้ขึ้นชื่อบนทำเนียบ EGOT

Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium

ทำเนียบ EGOT หมายถึงทำเนียบแห่งรางวัลจากเวทีอันทรงเกียรติ 4 เวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮอลลีวูดและวงการบันเทิงโลก คำว่า EGOT นั้นเป็นตัวย่อมาจากชื่อของ 4 เวทีประกวด ได้แก่ E – Emmy Awards (เอ็มมีอวอร์ด – รางวัลของวงการทีวี), G – Grammy Awards (แกรมมีอวอร์ด – รางวัลของวงการดนตรี), O – Oscars (ออสการ์ – รางวัลของวงการภาพยนตร์) และ T – Tony Awards (โทนี อวอร์ด – รางวัลของวงการละครเวที ละครบรอดเวย์)

ผู้ที่จะได้เข้าในทำเนียบนี้ จะต้องเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลทั้งจาก 4 เวทีนี้ครบถ้วนในช่วงชีวิตการทำงาน โดยในอดีต มีผู้ที่ได้เข้าทำเนียบ EGOT ทั้งหมด 19 คน คนแรกที่ได้เข้าทำเนียบอันทรงเกียรตินี้ก็คือ ริชาร์ด ร็อดเจอร์ส (Richard Rogers) ที่สามารถคว้ารางวัล Emmy Awards ก่อนจะเก็บครบ 4 เวทีได้ในปี 1962 และก่อนหน้านี้ ไวโอลา เดวิส (Viola Davis) นักแสดงวัย 57 ปี เป็นนักแสดงคนล่าสุดที่ได้เข้าทำเนียบ EGOT หลังจากคว้ารางวัล Grammy Awards ได้ในปี 2023

รายการพิเศษ ‘Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium’ รายการบันทึกการแสดงสดคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของจอห์น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทัวร์คอนเสิร์ตครั้งสุดท้าย ‘Farewell Yellow Brick Road’ ที่ปิดฉากทัวร์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 8 กรกฏาคม 2023 โดยทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้สามารถทำรายได้สูงถึง 939 ล้านเหรียญ จากจำนวนโชว์ทั้งหมด 328 ครั้ง ติดอันดับที่ 2 ของทัวร์คอนเสิร์ตที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล

ความสำคัญของการแสดงสดที่ Dodger Stadium นี้ นอกจากจะเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ ในฐานะการแสดงคอนเสิร์ตสุดท้ายในทวีปอเมริกาเหนือของจอห์น ที่จัดขึ้น ณ สนามดอดจ์เจอร์ สเตเดียม (Dodger Stadium) ลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17-20 พฤศจิกายน ปี 2022 จำนวนทั้งหมด 3 รอบแล้ว ยังถือเป็นการกลับมายัง Venue ที่มีความสำคัญด้วย

เพราะนี่คือการกลับมาเยือนสนามเหย้าของทีมเบสบอล ลอสแองเจลิส ดอดจ์เจอร์ (Los Angeles Dodgers) อีกครั้งในรอบ 47 ปีของจอห์น หลังจากที่เคยแสดงเมื่อวันที่ 25-26 ตุลาคม ในปี 1975 สามารถทำสถิติขายบัตร Sold Out ทั้ง 2 รอบ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นการแสดงที่โด่งดังที่สุดครั้งหนึ่งในอาชีพศิลปินของเขาด้วย

Elton John Live: Farewell from Dodger Stadium

ในการแสดงสด ณ สนาม ดอดจ์เจอร์ สเตเดียม ครั้งสุดท้าย ยังคงสามารถขายบัตรได้หมดเกลี้ยงทั้ง 3 รอบ นอกจากการแสดงอันยอดเยี่ยมของจอห์น และบรรดาแขกรับเชิญทั้ง ดูอา ลิปา (Dua Lipa), แบรนดี คาร์ลิล (Brandi Carlile) และ กีกี ดี (Kiki Dee) ต่อหน้าผู้ชม 50,000 คนแล้ว ในตอนท้ายของโชว์ จอห์นยังทิ้งทวนด้วยการสวมเสื้อคลุมลาย Dodgers ประดับเลื่อม ด้านหลังปักหมายเลข 1 สีแดง รวมทั้งหมวกเบสบอล ซึ่งเป็นชุดที่คล้ายกับชุดที่เขาเคยใส่แสดงใน Venue เดียวกันเมื่อปี 1975 ด้วย

ซึ่งโชว์นี้ถูกนำมาสตรีมให้ผู้ชมทั่วโลกได้ชมกันแบบสด ๆ ทาง Disney+ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2022 โดยนอกจากรางวัลสาขารายการพิเศษ (รายการสด) ยอดเยี่ยมแล้ว ยังสามารถคว้ารางวัล สาขาการบันทึกเสียงสำหรับรายการวาไรตี้หรือรายการพิเศษยอดเยี่ยม และรางวัลเทคนิค กำกับ และถ่ายภาพสำหรับรายการพิเศษยอดเยี่ยม จากเวที Primetime Emmy Awards รวมทั้งหมด 3 รางวัล

และนอกจากนี้ โชว์ครั้งนี้จะถูกบันทึกอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์สารคดี ‘Goodbye Yellow Brick Road: The Final Elton John Performances And the Years That Made His Legend’ เป็นสารคดีที่บันทึกการเดินทางในช่วงสุดท้ายก่อนเกษียณ รวมทั้งการเดินทางในถนนสายดนตรีของเขาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี จากฝีมือการกำกับของ อาร์ เจ คัตเลอร์ (R.J. Cutler) และ เดวิด เฟอร์นิช (David Furnish) ที่จะออกฉายทาง Disney+ โดยในตอนนี้ยังไม่มีกำหนดการฉาย


ที่มา: Variety, People, Emmys

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส