‘Mallari’ หรือชื่อไทย ‘มัลลารี ตำนานเชือด โลกสะท้าน’ ภาพยนตร์สยองขวัญจากประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง บอกเล่าเรื่องราวที่น่าขนลุกของตระกูลมัลลารี 3 รุ่น ซึ่งอาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน หนึ่งในเรื่องสยองของตระกูลนี้เกิดจากบาทหลวงที่ชื่อว่า ฮวน-เซเวริโน มัลลารี (Juan Severino Mallari) ผู้สังหารเหยื่อไปกว่า 57 ราย ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 และกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศฟิลิปปินส์

ผลงานการกำกับของ เดอริค คาบริโด (Derick Cabrido) และนำแสดงโดย พีโอโล พาสควัล (Piolo Pascual) ผู้รับบท 3 ตัวละครหลักในตระกูลมัลลารี ได้แก่ ฮวน-เซเวริโน มัลลารี บาทหลวงและฆาตกรต่อเนื่องในคริสต์ศตวรรษที่ 19, จอห์น เรย์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลมัลลารีในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และ โจนาธาน ผู้เป็นแพทย์ในยุคร่วมสมัย ร่วมด้วย เจซี ซานโตส (JC Santos), เอลีส โจซอน (Elisse Joson), รอน แอนเจลิส (Ron Angeles), จาเนลลา ซัลวาดอร์ (Janella Salvador), กลอเรีย ดิแอซ (Gloria Diaz) เป็นต้น 

โดย BT BUZZ ได้มีโอกาสพิเศษในการสัมภาษณ์กับนักแสดงนำของเรื่อง ‘Mallari’ ทั้ง 4 คน ได้แก่ พาสควัล, ซานโตส, โจซอน และแอนเจลิส ที่เดินทางมาโปรโมตหนังที่ประเทศไทยเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถึงความท้าทายในการแสดงหนังเรื่องนี้ และความน่ากลัวของเรื่องราวใน ‘Mallari’

ซานโตส, พาสควัล, โจซอน และแอนเจลิส

พวกคุณรู้เรื่องราวของ ‘เซเวริโน มัลลารี’ (ฆาตกรต่อเนื่องคนแรกของฟิลิปปินส์) มาก่อนที่จะแสดงหนังเรื่องนี้หรือไม่?

ซานโตส: เอาจริง ๆ นะ ตอนที่ผมได้รับบทเรื่องนี้มา มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้ว่าเคยมีฆาตกรต่อเนื่องในฟิลิปปินส์

พาสควัล: ผมไม่คิดว่าเรื่องเหล่านี้มันจะเคยถูกพูดถึงในข่าวด้วยซ้ำ พวกเราแค่เคยได้ยินผ่าน ๆ มา ตอนนั้นผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีตัวตนอยู่จริง ๆ แต่ถ้าคุณเข้า Google คุณจะพบว่ามีบุคคลนั้นอยู่จริง ๆ ในยุค 1800s และนั่นคือ เซเวริโน มัลลารี

เรื่องราวและเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับ เซเวริโน มัลลารี เป็นอย่างไร?

พาสควัล: เรื่องราวของ ฮวน-เซเวริโน มัลลารี หากอิงตามวิกิพีเดีย เขานั้นอยู่ในยุค 1800s และเคยก่อเหตุฆาตกรรมคนไปกว่า 57 คน ณ บ้านเกิดของเขาที่เมืองปัมปังกา ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นมาจากความรักที่เซเวริโนมีต่อแม่ของตัวเอง โดยเขาถูกแม่บ้านบอกว่าตนต้องให้เนื้อมนุษย์แม่ของตัวเองกินเพื่อความอยู่รอด และประวัติศาสตร์ก็จารึกไว้ว่าเขาคือฆาตกรต่อเนื่องคนแรกที่สังหารคนไป 57 คน

ซานโตส: แต่ในหนังเรื่องนี้ ได้มีการใส่เรื่องราวเหนือธรรมชาติเข้าไปบ้างเล็กน้อย ซึ่งมันก็เป็นทฤษฎีของพวกเราถึงเรื่องราวและสิ่งที่เคยเกิดขึ้น โดยมีการเล่าเรื่องแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน

เรื่องราวสยองขวัญในหนัง ‘Mallari’ เป็นอย่างไร?

พาสควัล: ผมรับบทเป็น 3 ตัวละครที่แตกต่างกัน ซึ่งมันถูกเชื่อมโยงไปในทุกช่วงเวลา มันมีประโยคหนึ่งในหนังที่บอกว่า “ความรักหรือการมีความรักคือคำสาป” นี่คือสิ่งที่พวกเราพยายามเปิดเผยและแก้ไขมันในหนัง ซึ่งใน ‘Mallari’ จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่มีทั้ง ‘เรื่องแต่งและความจริง’ เพราะพวกเราได้เอกสารข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับ เซเวริโน มัลลารี มาไว้ด้วย ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้มันค่อนข้างน่าสนใจที่จะนำมาเล่า ถึงแม้ว่ามันจะค่อนข้างซับซ้อนก็ตาม โดยผู้กำกับได้เลือกสไตล์ในการเล่าเรื่องตามฉบับของตัวเองให้ง่ายต่อการเข้าใจ เพราะในหนังเรื่องนี้มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากมายให้ติดตาม ตั้งแต่ช่วง 1800s, 1940s และ ปัจจุบัน 

ซานโตส: แต่หลัก ๆ แล้ว ‘Mallari’ มันคือเรื่องราวของ โจนาธาน มัลลารี ที่เขาพยายามตามหาเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต (ของตระกูลมัลลารี) และเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฝันร้ายของเขา โดยเรื่องราวเหล่านั้นมันจะค่อย ๆ ถูกเปิดเผยระหว่างทาง 

พาสควัล ในบท ‘เซเวริโน มัลลารี’

ตอนได้อ่านบทครั้งแรกรู้สึกอย่างไรบ้าง และแต่ละคนมีการเตรียมความพร้อมเพื่อรับบทอย่างไร?

ซานโตส: ตอนนั้นผมพลาดมาก ๆ ที่เลือกอ่านบทตอนตี 2 ช่วงที่ผมได้บทมา และผมไม่ได้คาดหวังไว้ว่ามันจะน่ากลัวแบบนี้ ซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ กับบทที่ผมรับ ผมก็เลยอ่านมันจนหมดและผมก็กลัวมาก และสำหรับการเตรียมตัวของผม ผมต้องเตรียมตัวในด้านจิตใจมากกว่าร่างกาย เพราะผมรับบทเป็นนักบวชหนุ่มที่อยู่ในโบสถ์ ซึ่งมันไม่สามารถทำการบ้านได้ตามปกติ หรือเตรียมพร้อมแค่ด้านร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องศึกษาถึงเรื่องการรับมือกับความพร้อมทางสภาพจิตใจ รวมทั้งเรื่องความเชื่อต่อโชคชะตาและความศรัทธาต่าง ๆ หรือการที่ใครบางคนจะสูญเสียตัวตนของตัวเองไปกับความเชื่อ นั่นเป็นสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับผม

แอนเจลิส: สำหรับผมตอนแรกผมรู้สึกดีใจมากกับบท แล้วผมก็ถามกับตัวเองว่าผมจะทำเรื่องนี้ได้ยังไง แต่ก่อนที่เราจะมาถึงหนังดราฟต์สุดท้าย เรามีถึง 7 ดราฟต์ด้วยกัน และในแต่ละเวอร์ชันคาแรกเตอร์ของผมก็เกือบจะหายไปแทบทุกที โดยรวมผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ 

โจซอน: สำหรับฉัน ตอนที่พวกเขาบอกฉันว่าจะได้ทำงานกับพาสควัล นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันตอบตกลงรับงานนี้ ส่วนเรื่องการเตรียมตัวของฉัน ตอนที่ได้อ่านบทมันยากมาก ๆ เพราะว่าเรื่องราวในหนังมันแบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา สิ่งที่พวกเขาทำก็คือการใช้ฟอนต์ที่ขนาดต่างกันในบท เพื่อแยกแต่ละช่วงเวลา ซึ่งตอนที่ฉันได้อ่านบทก็รู้สึกว่ามันซับซ้อนมาก ๆ แต่เมื่อฉันอ่านบทจนจบ และตอนที่ได้ถ่ายทำ มันคือตอนที่ฉันเริ่มเข้าใจว่าหนังมันจะเล่าไปในทิศทางไหน

เมื่อเราทำหนังเรื่องนี้จนจบและได้ดูในรอบพรีเมียร์ ตอนที่ทุกอย่างมันถูกรวมเข้าด้วยกัน จนในที่สุดเราก็เข้าใจในสิ่งที่พวกเราทำมา เพราะตั้งแต่เราถ่ายทำหนังที่เล่าช่วงเวลาที่แตกต่างกัน 3 ไทม์ไลน์ พวกเราก็แทบไม่ได้เจอกันในกองถ่ายเลย พอได้ดูหนังมันราวกับว่าเหมือนเราเห็นเวทมนตร์ ที่ทุกคนทำงานหนักกันมา บางครั้งมักจะมีคนพูดว่า ‘เวลาที่เราได้อ่านหนังสือสักเรื่อง มันมักจะดีกว่าการดูมันในรูปแบบของภาพยนตร์’ แต่สำหรับ ‘Mallari’ ฉันต้องบอกว่ามันเป็นประสบการณ์ที่ดีกว่า หากเราได้ดูด้วยตาตัวเองในโรงภาพยนตร์ แฟนหนังสยองขวัญจะต้องรักเรื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะพวกเราสนุกกับมันมาก ๆ ตอนที่ได้ดู

พาสควัล: ในช่วงแรกสำหรับผมมันยากมาก เพราะว่าเรื่องนี้ผมต้องรับบทเป็น 3 ตัวละครในหนัง มันทำให้ผมต้องทำการบ้านและเตรียมตัวอย่างหนัก แต่เมื่อผมรู้ว่าหนังเรื่องนี้มันสร้างมาจากบุคคลจริงและเรื่องราวจริง มันดึงความสนใจจากผมได้มาก ตอนที่ผมได้อ่านสคริปต์ครั้งแรก เหมือนมันจะเป็นบทดราฟต์ที่ 3 แล้ว

โดยการถ่ายทำครั้งแรก เกิดขึ้นหลังจากที่ผมไปเที่ยวมา 1 เดือน และในการแสดงหนังเรื่องนี้ผมก็ต้องมีแอ็กติ้งโค้ชที่คอยช่วยผมด้วย เพราะว่ามันยากมาก ๆ ที่ผมจะต้องเล่นเป็น 3 ตัวละครที่แตกต่างกันในทุก ๆ วัน หรือการที่ต้องสลับจากตัวละครหนึ่งไปเป็นอีกตัวละครหนึ่งตลอดทั้งวัน ติดต่อกันหลายวัน ดังนั้นผมจึงต้องอ่านบททุก ๆ วันในตอนเช้า หรือหลังจากที่ผมถ่ายทำหนังเรื่องนี้เสร็จ และผมเพิ่งจะเริ่มเข้าใจเรื่องราวของตัวละครจริง ๆ หลังจากการถ่ายทำผ่านไปแล้ว 3 ครั้ง เพราะมันซับซ้อนมาก ๆ ในตอนแรก ซึ่งพวกเราได้ดูหนังที่เสร็จแล้วจริง ๆ ตอนรอบพรีเมียร์ การทำหนังแบบนี้มันต้องเตรียมความพร้อมทั้งด้านจิตใจและร่างกาย แต่ท้ายที่สุดแล้วทั้งหมดนี้มันก็คุ้มค่ามาก ๆ และผมก็รู้สึกดีใจมากที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ถูกฉายแค่ในฟิลิปปินส์ แต่ยังฉายในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ทางที่ดีที่สุดในการดูหนังเรื่องนี้ก็คือ ‘การรับชมในโรงภาพยนตร์’

การทำงานร่วมกันในกองถ่ายเป็นอย่างไรบ้าง?

ซานโตส: ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับพาสควัล ผมแน่ใจว่าสำหรับนักแสดงที่อายุราว ๆ กับผม นักแสดงวัยรุ่นทุก ๆ คนอยากจะร่วมงานกับ พีโอโล พาสควัล ซึ่งพวกเราก็ได้รับโอกาสนี้มา และเมื่อใดก็ตามที่พวกเราได้อยู่กับเขา มันจะเป็นการก้าวไปข้างหน้าที่ดีเสมอ และถือเป็นเกียรติเสมอมาที่ผมมีเขาอยู่เคียงข้าง

พาสควัล: มันเป็นความรู้สึกที่แปลกดี กับการได้สัมผัสเอเนอร์จีใหม่ ๆ ตามปกติเมื่อคุณไปที่กองถ่ายหนัง คุณก็มักเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แต่ในขณะเดียวกัน คุณก็พร้อมเจอกับเรื่องเซอร์ไพรส์ใหม่ ๆ ด้วย ซึ่งผมก็แอบดูเวลาที่แต่ละคนแสดงในเรื่องด้วย ปกติเราไม่มีโอกาสได้ดูหนังแบบ ‘Mallari’ บ่อยนัก ปกติเราก็จะทำพวกรอมคอม ดราม่า หรือเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ สิ่งสำคัญคือแต่ละคนมีความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ออกมาดี ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ผมเห็นในตัวเพื่อนร่วมงานของผม และผมก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ร่วมงานกับพวกเขาอีก 

ขอ 3 คำ ให้หนังเรื่อง ‘Mallari’

พาสควัล: ประสบการณ์ที่ดีที่สุดของคุณ!

แอนเจลิส: คุณต้องดู!

ซานโตส: เกินคาด จัมป์สแกร์ ปลดปล่อย!

โจซอน: ผลงานมาสเตอร์พีซ ได้รางวัล ชนะเลิศ!

‘Mallari’ เข้าฉายวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์