หลังจากสะสมชื่อเสียงจากการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา และ มิวสิกวิดีโอ มายาวนาน แซ็ก สไนเดอร์ (Zack Snyder)ก็ประเดิมผลงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกคือ ‘Dwn of the Dead’ เมื่อปี 2004 หลังจากนั้นเขาก็กำกับหนังหลากหลายแนวมาโดยตลอดทั้งแนว อีปิกย้อนยุค, ซูเปอร์ฮีโร แนวจารกรรมแอ็กชัน และล่าสุดก็แนวสงครามอวกาศ แต่สไนเดอร์ก็ยังไม่อยากหยุดอยู่เพียงแค่นี้ สไนเดอร์เพิ่งเผยในบทสัมภาษณ์กับ The Atlantic ว่าเขาสนใจอยากจะลองกำกับหนัง James Bond ด้วยวิสัยทัศน์ที่แปลกใหม่

แซ็ก สไนเดอร์ ภาพจากบทสัมภาษณ์ของ The Atlantic

ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่เรารู้จัก เจมส์ บอนด์ บนจอภาพยนตร์ในฐานะสายลับอังกฤษผู้มาพร้อมภาพลักษณ์ของชายที่สุขุม สุภาพ เรียบร้อย มีไหวพริบเฉียบคม แต่เมื่อมาถึงวันนี้ แฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ ก็เดินมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ เมื่อ แดเนียล เครก (Daniel Craig) นักแสดงผู้รับบท เจมส์ บอนด์ คนล่าสุด ก็ขอโบกมือลาบทบาทนี้ ขณะเดียวกันแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ ก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่บ้านใหม่ในชื่อ ‘Amazon-MGM’ ก็นับว่าเป็นโอกาสอันควรที่เจ้าของแฟรนไชส์จะได้ถือโอกาสนี้ปรับเปลี่ยนลุคใหม่ให้กับแฟรนไชส์ที่มีอายุยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ซึ่งสไนเดอร์เองก็นับว่าเป็นผู้กำกับที่มีวิสัยทัศน์ และมีสไตล์ภาพที่โดดเด่น เขาได้เสนอแนวคิดที่น่าสนใจต่อแฟรนไชส์ เจมส์ บอนด์ นั่นก็คือการเลือกไปเล่าเรื่องราวของ เจมส์ บอนด์ ในวัยหนุ่ม

สไนเดอร์แสดงความสนใจอย่างจริงจังในเรื่องนี้ ที่อยากจะย้อนไปสำรวจเรื่องราวในยุคแรก ๆ ของบอนด์ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นสายลับรหัส 007 ที่ผู้ชมทั่วโลกรู้จักกัน สไนเดอร์อยากจะพุ่งเป้าไปที่รากฐานที่มาของบอนด์ ว่าเขาน่าจะเผชิญความบอบช้ำทางจิตใจต่าง ๆ นานา เจาะลึกลงไปทั้งจุดอ่อนและประสบการณ์ต่าง ๆ ที่เขาเผชิญมาในช่วงวัย 20 ปี และได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็นสายลับระดับตำนาน

“ผมว่ามันน่าจะเจ๋งมากที่ได้เห็น เจมส์ บอนด์ ในวัย 20 ปี เจาะลึกไปยังความเป็นมาของเขา เขาเผชิญความบอบช้ำอะไรมาบ้างในวัยหนุ่มที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็น เจมส์ บอนด์ ได้ในวันนี้ มันน่าจะมีอะไรน่าสนใจในช่วงวัยนั้น”

แซ็ก สไนเดอร์ ขณะกำกับ ‘Rebel Moon’ ผลงานเรื่องล่าสุด

ก็นับว่าข้อเสนอของสไนเดอร์มาถูกจังหวะที่แฟรนไชส์กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง และอยู่ในช่วงที่แฟน ๆ คาดหวังก้าวต่อไปของ เจมส์ บอนด์ อย่างมาก เพราะผู้ชมในวันนี้ต่างก็ให้ความสนใจต่อตัวละครที่มีซับซ้อนทางภาพลักษณ์และอารมณ์มากขึ้น ซึ่งก็ตรงกับวิสัยทัศน์ของสไนเดอร์ที่นำเสนอมาว่าเขาอยากจะนำเสนอบอนด์ในด้านที่มีพัฒนาการของตัวละครและมีความลึกซึ้งด้านจิตวิทยา

การย้อนไปเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปของ เจมส์ บอนด์ นั้น ไม่เคยถูกเล่าไว้ในนิยาย ในยุคสมัยของ แดเนียล เครก นั้น ก็เคยพาเราย้อนหลังไปแค่ภารกิจแรกของบอนด์เท่านั้น เราได้เห็นบอนด์ในภาพลักษณ์ที่โหด ดุ ใจกล้าบ้าบิ่นมากขึ้น แต่ไอเดียของสไนเดอร์อยากจะพาเราย้อนหลังไปมากกว่านั้นอีก ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องราวที่เข้มข้นกว่า ลงลึกถึงปูมหลังมากกว่า ซึ่งอาจกล่าวได้ว่านี่คือการนำเสนอมุมมองในมิติใหม่ ๆ ให้กับตัวละครที่มีอายุยาวนานผู้นี้

แน่นอนว่าการที่ใครเข้าไปแตะต้องหรือพยายามสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับตัวละครที่มีฐานแฟนทั่วโลกแบบนี้ ย่อมเกิดเสียงโต้แย้งและความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างหลากหลาย ยิ่งเป็นการมุ่งเน้นปรับเปลี่ยนไปที่ตัว เจมส์ บอนด์ โดยเฉพาะอย่างนี้ด้วย และที่สำคัญนี่คือไอเดียจาก แซ็ก สไนเดอร์ ซึ่งผลงานของเขามักจะแบ่งขั้วผู้ชมให้เกิดการถกเถียงกันอยู่บ่อยครั้ง

ที่มา : Movieweb