ในโลกของเรา มีวรรณกรรมเพียงไม่กี่เรื่องที่ส่งอิทธิพลต่อผู้คนมากมาย จนกลายเป็นรากฐานของป๊อปคัลเจอร์ทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือ ‘Dune’ นวนิยายที่เขียนโดย แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต (Frank Herbert) ในปี 1963 และด้วยความที่เนื้อหาของ Dune เป็นเรื่องราวที่ล้ำสมัย และไม่ยึดโยงกับกาลเวลา ทำให้มันกลายเป็นวรรณกรรมที่ยังมีฐานแฟนหนาแน่นจนปัจจุบัน
ด้วยความที่ Dune เป็นวรรณกรรมที่ครองใจเด็กหลายคน แฟนนิยายในยุคสมัยนั้น ได้เติบโตจนกลายเป็นผู้กำกับมากหน้าหลายตา ซึ่งมีคนมากมายพยายามที่จะดัดแปลงสิ่งนี้ ให้มาเป็นหนังหลายครั้ง
![](https://www.grimdarkmagazine.com/wp-content/uploads/2020/07/DuneMain.jpg)
บางคนก็ได้สร้าง บางคนก็ต้องแขวนโปรเจกต์ไว้ แต่ทว่าแนวคิด รวมถึงการออกแบบโลกอันกว้างใหญ่ในจักรวาลของ Dune ก็ได้ทำให้ผู้กำกับหลายคน นำองค์ประกอบของมันไปสร้างเรื่องราวอื่น ๆ เพื่อต่อยอดในรูปแบบของตน
แรงบันดาลใจจาก Dune สู่ Star Wars
และว่ากันว่า ‘Star Wars’ ของจอร์จ ลูคัส (George Lucas) ก็เป็นหนึ่งในนั้น
![](https://images.bauerhosting.com/legacy/empire-images/features/566aa84facddba80140e4c91/george%20lucas.jpg?ar=16%3A9&fit=crop&crop=top&auto=format&w=undefined&q=80)
แม้ลูคัสจะไม่เคยออกมาบอกว่า Star Wars ได้รับแรงบันดาลใจจาก Dune แต่ก็เป็นที่รู้กันในหมู่แฟน Star Wars ว่า ลูคัสไม่เคยอายที่จะหยิบองค์ประกอบจากหนังเรื่องอื่นมาต่อยอดแรงบันดาลใจ เพราะลูคัสเป็นคนที่ค่อนข้างเปิดกว้างกับหลายสิ่ง ดังนั้นแล้ว Star Wars จึงเป็นผลงานที่มีส่วนผสมของป๊อปคัลเจอร์หลายเรื่องด้วยกัน
ลูคัสได้รับอิทธิพลของการสร้างจักรวาล มาจากละครโอเปร่าอวกาศคลาสสิก เช่น ‘Flash Gordon’, หนังซามูไรของ อากิระ คุโรซาวะ (Akira Kurosawa) เรื่อง ‘The Hidden Fortress’, ภาพยนตร์ตะวันตกในตำนานเรื่อง ‘The Searchers’ และภาพยนตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อง ‘The Dam Busters’ โดยแรงบันดาลใจที่แตกต่างกันเหล่านี้ล้วนทำให้ Star Wars กลายเป็นเรื่องราวสงครามอวกาศที่มีความหลากหลายทางมิติ ซึ่งหลายคนก็เชื่อว่า Dune คือหนึ่งในแรงบันดาลใจเหล่านั้น
หากสังเกตดูดี ๆ เรื่องราวของ Star Wars จะมีความคล้ายคลึงกับ Dune เป็นอย่างมาก ถึงขนาดว่ารากฐานที่ Star Wars สร้างไว้ ทำให้ผู้กำกับของ Dune อย่าง เดอนีส วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve) สร้างจักรวาล Dune ด้วยความยากลำบาก เพราะขณะที่เขาสร้างหนังเรื่องนี้ ก็ต้องพยายามที่จะไม่ให้องค์ประกอบที่มีไปทับไลน์การสร้างสรรค์ของ Star Wars
ซึ่งยากถึงขนาดที่วีลเนิฟว์กล่าวว่า “การค้นหาเอกลักษณ์ของตัวเองที่มีแต่ Star Wars ล้อมรอบ มันเป็นกระบวนการที่หินเอาเรื่อง”
![](https://cdn.hobbyconsolas.com/sites/navi.axelspringer.es/public/media/image/2021/09/denis-villeneuve-2473865.jpg?tf=1200x)
จอร์จ ลูคัสได้รับแรงบันดาลใจจาก Dune เมื่อเขาสร้าง Star Wars และในขณะที่เรากำลังสร้างภาพยนตร์เรื่อง Dune เราพบว่ามันมีอิทธิพลของ Star Wars เต็มไปหมด
เดอนีส วีลเนิฟว์
แล้วอะไรบ้างล่ะ ที่มีส่วนคล้ายกันในหนังทั้ง 2 จักรวาล
1. ดาวเคราะห์ที่มีแต่ทราย
![](https://imgix.bustle.com/uploads/image/2024/2/20/62c2fdc1-fc31-4c0d-8833-50ae9335e4ef-dun2-47223rv3.jpg)
เรามาดูตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก่อนเลย เพราะเหตุการณ์ใน Dune เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์ที่ชื่ออาร์ราคิส ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีแต่ทะเลทราย และอาร์ราคิสเป็นสถานที่ที่ส่งผลกระทบต่อลูคัสอย่างชัดเจน เนื่องจากจุดเริ่มต้นของ Star Wars ก็อยู่ดาวที่ทาทูอิน ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ทะเลทรายเช่นเดียวกัน และทาทูอิน ก็ยังคงปรากฏให้เห็นในจักรวาลจนปัจจุบันนี้
2. สัตว์ร้ายแห่งทะเลทราย
![](https://lumiere-a.akamaihd.net/v1/images/krayt-dragon-main_80edeb91.jpeg?region=163%2C0%2C955%2C537)
ในขณะที่เราได้เห็นสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ มากมายที่อาศัยอยู่บนทาทูอิน สิ่งหนึ่งที่ปรากฏขึ้นมาจนสามารถเห็นได้ชัดคือโครงกระดูกของสัตว์ร้ายที่โผล่มาในช่วงต้นของภาค A New Hope ซึ่งปรากฏออกมาในขณะที่ C-3PO กับ R2-D2 กำลังท่องไปในทะเลทราย และโครงกระดูกนั้นเป็นของสิ่งมีชีวิตมีลักษณะคล้ายงูยักษ์ ซึ่งถูกเรียกว่า มังกรเครทท์ และมันก็โผล่มาอีกครั้งใน The Mandalorian
![](https://lumiere-a.akamaihd.net/v1/images/space-slug-main-image_258e5c1b.jpeg?region=71%2C0%2C1147%2C574)
นอกจากนั้นในภาค The Empire Strikes Back ยังมีตัวทากอวกาศที่เรียกว่าเอ็กโซกอร์ธ โดยเป็นทากขนาดยักษ์ ที่ดูเหมือนสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อย่าง ‘หนอนทราย’ ซึ่งเป็นตัวละครไอคอนิกของ DUNE
![](https://hips.hearstapps.com/hmg-prod/images/screen-shot-2021-10-07-at-11-46-31-am-1633621659.png?crop=0.7347222222222223xw:1xh;center,top)
ไม่ว่าจะเป็นมังกรเครตต์หรือเอ็กโซกอร์ธ เราต่างก็รู้เลยว่า สิ่งนี้คือแรงบันดาลใจ ที่ผู้สร้างจงใจนำมาใส่เพื่อให้เห็นถึงการบูชาครูที่มีอยู่ในหนังของเขา
3. สารสไปซ์ที่มีผลต่อจิตใจ
![](https://static1.srcdn.com/wordpress/wp-content/uploads/2021/10/Spice-Lady-Jessica-Dune.png)
องค์ประกอบสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในเรื่องราวของ Dune คือสาร ‘สไปซ์’ ที่พบในดาวอาร์ราคิส ซึ่งสไปซ์มีความสำคัญต่อจักรวาลอย่างมาก เนื่องจากสารตัวนี้คือสิ่งที่มีมูลค่าสูงในเรื่อง เพราะมันสามารถช่วยยืดอายุขัยให้ยืนยาวขึ้น และเป็นสารที่มีองค์ประกอบต่อจิตใจ นั่นทำให้สไปซ์ในโลกของ Dune จึงมีมูลค่าถึงขนาดที่มีคำกล่าวว่า ‘สไปซ์เพียงกระเป๋าเดียวก็เพียงพอที่จะซื้อโลกทั้งใบได้’
ส่วนสไปซ์ ใน Star Wars เป็นชื่อของสารผิดกฎหมายประเภทหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการทั่วทั้งกาแล็กซี ฉะนั้นแล้วเมื่อมีการใส่สารผิดกฎหมายเข้ามาใน Star Wars พวกเขาจึงให้มันชื่อสไปซ์เช่นกัน
![](https://preview.redd.it/would-like-to-try-out-the-spice-how-much-would-you-willing-v0-0w1vmdefh6hc1.png?auto=webp&s=4fa0b76617082c39d3f772128a4ce0a8e2b86590)
สไปซ์โผล่มาประมาณ 2-3 ครั้งใน Star Wars โดยเป็นฉากที่ C-3PO รู้สึกกังวลเรื่องการถูกส่งไปยังเหมืองสไปซ์ และใน A New Hope นั้นฮานก็รู้เรื่องการลักลอบขนสไปซ์ด้วย แถมสิ่งนี้ยังโผล่มา Clone Wars อีกต่างหาก
4. จักรพรรดิผู้ปกครองกาแล็กซี
![](https://lumiere-a.akamaihd.net/v1/images/Sith_7abb7b3c.jpeg?region=0%2C0%2C1600%2C900)
แนวคิดเรื่องจักรวรรดิที่กุมอำนาจไปทั่วทั้งกาแล็กซี เป็นหนึ่งในแนวคิดที่น่าสนใจที่สุดใน Star Wars เพราะเหล่าจักรพรรดิคือศัตรูตัวฉกาจของกลุ่มตัวเอก ที่อยู่กันมาทุกยุคสมัย ทว่าสิ่งนี้ก็มีอยู่ใน Dune เช่นกัน เพราะ House Atreides ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของจักรวรรดิที่ใหญ่กว่า
![](https://hips.hearstapps.com/hmg-prod/images/rev-1-dun-t2-0032-high-res-jpeg-1635345722.jpeg)
สำหรับ Dune แล้ว เหล่าจักรพรรดิเองก็ถูกกล่าวถึงหลายครั้งเช่นเดียวกับ Star Wars เพราะการปรากฏกายของหน่วยงานที่ควบคุมความสงบเรียบร้อยนี้ ทำให้เรื่องราวมีขอบเขตอันยิ่งใหญ่ และมิติทางเนื้อหาที่มากกว่าเดิม
5. พอล อะเทรดีส และ ลุค สกายวอล์คเกอร์ ผู้ถูกเลือก
![](https://miro.medium.com/v2/resize:fit:1000/1*RmvsCqb968u3n59YyQl2Nw.jpeg)
ไม่มีชะตากรรมของตัวละครใด ที่มีความคล้ายคลึงกันเท่าการเป็น ‘ผู้ถูกเลือก’ วัยเยาว์ที่ต้องเข้าสู่สมรภูมิของ 2 ตัวเอกอีกแล้ว
พวกเขาทั้งคู่ถูกขับเคลื่อนด้วยโชคชะตาตั้งแต่แรกเริ่ม โดยเส้นทางวีรบุรุษของลุค เริ่มต้นในสถานที่เขาไม่คุ้นเคย ซึ่งความพ่ายแพ้อันเจ็บปวด และการตายของผู้เป็นที่รักนั้น ก็ได้หล่อหลอมให้ลุคได้เรียนรู้บทเรียนที่เขาต้องเผชิญ เพื่อจะได้ต่อสู้กับความชั่วร้ายอันยิ่งใหญ่ในตอนท้ายของเรื่อง
![](https://insidethemagic.net/wp-content/uploads/2022/02/luke-skywalker-with-grogu-in-backpack-book-of-boba-fett-e1670514591460.jpeg)
เส้นทางชีวิตของลุคถูกกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเขาจะเกิด ด้วยคำทำนายของเจไดที่ว่าสายเลือดของสกายวอล์คเกอร์จะเป็นผู้ที่จะเอาชนะซิธ และนำความสมดุลมาสู่พลังในที่สุด
ใน Dune เองก็เช่นกัน เพราะเหล่าสตรีของกลุ่มเบเนเจสเซริตนั้น มีความสามารถที่จะควบคุม และแทรกแซงพันธะทางการเมืองอย่างเงียบ ๆ ทั่วทั้งจักรวาลมาเป็นพันปี เพราะเบเนเจสเซริตสามารถกำหนดอดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้ โดยพวกเขาได้ปลูกเมล็ดพันธ์ุของ ‘ผู้ถูกเลือก’ ให้พอลก่อนที่เขาจะเกิดมา เฉกเช่นเดียวกับลุค
![](https://imgix.bustle.com/uploads/image/2021/9/2/b12db2ab-d952-4fa1-94e9-70f591f65223-dune-star-wars-paul-luke.png?w=1200&h=630&fit=crop&crop=faces&fm=jpg)
สิ่งที่น่าสนใจคือเส้นทางวีรบุรุษของทั้งสองคนจบลงด้วยการเดินหน้าไปสู่ปัญหา ซึ่งได้สร้างสงคราม และการนองเลือดที่มากกว่าเดิม
สิ่งเหล่านี้ เป็นเพียงแรงบันดาลใจเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ Dune ส่งผลกระทบต่อ Star Wars เพราะเอาเข้าจริง ผืนทรายแห่งอาร์ราคิสก็ได้ทิ้งร่องรอยไว้บนโลกป๊อปคัลเจอร์มากมาย ซึ่งทำให้ผู้กำกับหลายคนหยิบองค์ประกอบจาก Dune ไปใช้ในหนังของตน และเราคงต้องขอบคุณพลังแห่งการสร้างสรรค์ของ แฟรงก์ เฮอร์เบิร์ต เพราะมันได้ส่งต่อแรงบันดาลใจให้กับผู้สร้าง ไปจนถึงผู้ชมรุ่นต่อรุ่นตลอดมาจนทุกวันนี้
***