Forbes ได้เปิดเผยรายงานล่าสุด ระบุว่า จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ผู้ก่อตั้งบริษัท Lucasfilm และผู้สร้างแฟรนไชส์ ‘Star Wars’ เป็นผู้มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลก โดยมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Worth) มหาศาลถึง 5,500 ล้านเหรียญ

ลูคัสได้กำกับภาพยนตร์ ‘Star Wars’ ไว้ด้วยกัน 4 ภาค นั่นคือ ‘Episode IV – A New Hope’ (1977), ‘Episode I – The Phantom Menace’ (1999), ‘Episode II – Attack of the Clones’ (2002) และ ‘Episode III – Revenge of the Sith’ (2005) อีกทั้งยังเป็นผู้สร้างและเขียนบท ‘Star Wars’ ทุกภาคในมหากาพย์ Skywalker Saga

เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแฟรนไชส์ตั้งแต่ที่ขาย Lucasfilm ให้ Disney เมื่อปี 2012 ซึ่ง Disney ยังคงใช้ชื่อของ Lucasfilm ในการพัฒนาภาพยนตร์และซีรีส์ใหม่ในจักรวาล ‘Star Wars’ มาจนถึงทุกวันนี้

ลูคัสเริ่มต้นเส้นทางบันเทิงด้วยความฝันว่าจะสร้างภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร ‘Flash Gordon’ ในยุค 1970s แต่ไอเดียดังกล่าวได้ขยายกลายเป็นสงครามอวกาศแฟนตาซีในชื่อ ‘Star Wars’ (1977) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลเกินกว่าที่เขาและทุกคนในฮอลลีวูดยุคนั้นคาดคิด จากนั้นได้ต่อยอดด้วยการสร้างเป็นไตรภาค, ขยายเนื้อหาไปหลายทิศทางในยุค 1990s และสร้างไตรภาคที่เล่าเรื่องจุดกำเนิดในยุค 2000s

ลูคัสยังได้แสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดในด้านธุรกิจด้วยการเจรจาทำข้อตกลงมากมายในการสร้างภาคต่อและเนื้อหาอื่น ๆ ในจักรวาล ‘Star Wars’ และการจำหน่ายสินค้าที่อยู่ในลิขสิทธิ์ ‘Star Wars’ ซึ่งสร้างรายได้ให้เขาอย่างมหาศาล รวมถึงการทำข้อตกลงขาย Lucasfilm ที่ลูคัสก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1971 ให้แก่ Disney เมื่อปี 2012 ด้วยมูลค่าประมาณ 4,100 ล้านเหรียญ ซึ่งทำลูคัสได้สิทธิในการถึอครองหุ้นของ Disney จำนวนมากถึง 37.1 ล้านหุ้น

ในปัจจุบัน มูลค่าหุ้นของ Disney ได้สูงขึ้นจากเมื่อปี 2012 ราว 200% ซึ่งทำให้ลูคัสกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดคนหนึ่งดังที่เราเห็นในทุกวันนี้