The Hollywood Reporter ได้รายงานว่า อดัม วิงการ์ด (Adam Wingard) จะไม่กลับมากำกับภาคต่อของ ‘Godzilla X Kong: The New Empire’ ที่เพิ่งทำรายได้ทั่วโลกกว่า 560 ล้านเหรียญ และขึ้นเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุด และได้คะแนนวิจารณ์สูงสุดในแฟรนไชส์ ‘Monsterverse’

แหล่งข่าวอ้างว่า การตัดสินใจครั้งนี้เป็นการเห็นพ้องต้องกันระหว่างวิงการ์ดและสตูดิโอ Legendary เนื่องจากวิงการ์ดมีแผนจะกำกับภาพยนตร์แอ็กชันสยองขวัญทุนสร้างอิสระ เรื่อง ‘Onslaught’ ซึ่งทำให้ตารางงานของเขาที่ไม่ลงตัวกับแผนการพัฒนาภาคต่อของ ‘Godzilla X Kong: The New Empire’

แหล่งข่าวได้รายงานเพิ่มเติมว่า สตูดิโอยังคงไม่ได้พิจารณาหาผู้กำกับใหม่ และยังเปิดกว้างให้วิงการ์ดกลับมาในอนาคตได้

Godzilla X Kong: The New Empire

รายงานดังกล่าวสร้างความเซอร์ไพรส์ให้แก่แฟน ๆ ที่ติดตามแฟรนไชส์ ‘Monsterverse’ มาโดยตลอด เนื่องจาก Legendary เพิ่งประกาศสร้างภาคต่อของ ‘Godzilla X Kong: The New Empire’ ไปได้ไม่นาน และมีการอัปเดตความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การนำเดวิด คัลลาแฮม (David Callaham) ผู้เขียนบท ‘Godzilla’ (2014) ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในแฟรนไชส์กลับมา และคำให้สัมภาษณ์ของวิงการ์ดเกี่ยวกับไอเดียที่จะลงลึกในประเด็นความสัมพันธ์ของ Kong กับฝูงวานรใน Hollow Earth และความลับในจุดกำเนิดของ Godzilla มากขึ้น

ผมมีไอเดียสำหรับภาคใหม่ ถ้าหาก Kong ครองภาคล่าสุดนี้ไป ภาคต่อไปเราก็จะให้เป็นภาคของ Godzilla โดยจะลงลึกในเรื่องราวเบื้องหลังตัวละครนี้มากขึ้น ในขณะที่เรื่องราวของ Kong กับฝูงวานร ใน Hollow Earth เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น และจะกลายเป็นผู้นำที่แตกต่างออกไปจาก Skar King อย่างสิ้นเชิง ผมคิดว่ามันน่าสนใจมาก เพราะจะเป็นการเล่าเรื่องที่มีมิติมากขึ้น

วิงการ์ดสร้างชื่อจากการร่วมกำกับภาพยนตร์สยองขวัญทุนสร้างอิสระที่เต็มไปด้วยไอเดียสดใหม่อย่าง ‘V/H/S’ (2012) และ ‘V/H/S 2’ (2014) จากนั้นได้เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการกำกับภาพยนตร์แอ็กชันระทึกขวัญอย่าง ‘The Guest’ (2014), ‘Blair Witch’ (2016) เวอร์ชันรีบูต และตอนหนึ่งของซีรีส์สยองขวัญ ‘Outcast’ จากนั้นได้กำกับภาพยนตร์แห่งการปะทะกันของ 2 มอนสเตอร์ยักษ์ในตำนานอย่าง ‘Godzilla vs. Kong’ (2021) และ ‘Godzilla X Kong: The New Empire’ ในจักรวาล ‘Monstervers’

ในตอนนี้ วิงการ์ดมีโปรเจกต์หลายตัวที่เขาให้ความสนใจ เช่น ได้รับการทาบทามให้กำกับภาคต่อของภาพยนตร์แอ็กชันในตำนานอย่าง ‘Face/Off’ และ ‘ThunderCats’ เวอร์ชันไลฟ์แอ็กชันที่ดัดแปลงจากซีรีส์แอนิเมชันในยุค ’80s – ’90s