เมื่อไม่นานมานี้ มีคลิปจากต่างประเทศกลายเป็นไวรัลในจีน เป็นภาพคนยืนอยู่หน้าตู้จ่ายกระดาษทิชชูในห้องน้ำสาธารณะ สิ่งที่น่าสนใจคือเธอไม่ได้จ่ายเงินเพื่อซื้อกระดาษทิชชู แต่สแกน QR Code เพื่อดูโฆษณา หลังจากนั้นทิชชูก็ไหลออกมาให้แบบอัตโนมัติ ! เป็นที่มาของไวรัล ‘ดูโฆษณาแลกกระดาษทิชชู’
หลักการทำงานของเครื่องนี้ง่ายมาก คุณสามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อทิชชูได้เลย แต่ถ้าอยากได้ฟรีก็มีทางเลือกให้สแกน QR Code เพื่อดูโฆษณาแลกกระดาษทิชชูแทนการจ่ายเงิน ไอเดียนี้ถือว่าฉลาดล้ำในมุมมองการตลาด ทั้งยังแปลกใหม่และได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
- คนที่ใช้ห้องน้ำ > ได้ทิชชูฟรี (ใครบ้างไม่อยากได้ของฟรี)
- คนที่ลงโฆษณา > โฆษณาจะมีคนดูแน่ ๆ เพราะคนต้องการทิชชูฟรี และวิธีนี้ดีกว่าการไปลงในแพลตฟอร์มอื่น ๆ อย่าง YouTube ที่คนมักกดข้ามโฆษณาด้วย
แน่นอนว่าประเด็นนี้ก็มีคนถกเถียงกันเยอะว่า การทำแบบนี้ในห้องน้ำสาธารณะมันเหมาะสมไหม เพราะบางคนก็มองว่า ทิชชูในห้องน้ำสาธารณะควรให้ฟรีอยู่แล้ว หรือนี่คือการเอาเปรียบ ? ในขณะที่อีกฝ่ายก็มองว่านี่คือการตลาดที่จีเนียสสุด ๆ
ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าในประเทศจีน การที่คนส่วนใหญ่ต้องพกกระดาษทิชชูเข้าไปใช้เองถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ดังนั้น การที่มีตู้จ่ายทิชชูแบบนี้จึงถือเป็น Rare Case และไม่ค่อยได้เห็นบ่อย ๆ ในห้องน้ำสาธารณะทั่วไปของจีน
กิมมิกเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ไม่เพียงแต่สร้างความแปลกใหม่เท่านั้น แต่ในแง่หนึ่งก็สะท้อนให้เห็นถึงความเป็น ‘ทุนนิยม’ ที่สามารถแทรกซึมเข้าไปอยู่ในแทบจะทุกพื้นที่ของสังคมได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
เพราะทิชชูคือข้อมูลฟรี : เข้าสู่ยุค ‘Unskippable Ads’ และการตลาดที่ซึมลึกทุกพื้นที่
ตู้จ่ายกระดาษทิชชูแลกกับการดูโฆษณาเป็นกรณีศึกษาที่สะท้อนถึงยุคสมัยของทุนนิยมดิจิทัลที่ฝังรากในทุกพื้นที่ เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนความจำเป็นพื้นฐานในชีวิตประจำวันอย่างทิชชูในห้องน้ำสาธารณะให้กลายเป็นกลไกทางการตลาด แทนที่จะจ่ายด้วยเงินสด ผู้บริโภคถูกกระตุ้นให้จ่ายด้วย ‘ความสนใจ’ และ ‘เวลา’ เพื่อแลกกับสินค้าหรือบริการฟรี
กลไกแบบนี้ส่งผลให้โฆษณากลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ และมีประสิทธิภาพสูงกว่าแพลตฟอร์มดิจิทัลทั่วไปมาก การที่ระบบเศรษฐกิจสามารถแปลงทุกพื้นที่และกิจกรรมในชีวิตให้กลายเป็น ‘พื้นที่สื่อโฆษณาที่สร้างรายได้’ ได้อย่างสมบูรณ์ สะท้อนให้เห็นแนวโน้มในโลกอนาคตว่า ไม่มีขอบเขตใดที่รอดพ้นจากกลไกตลาดอีกต่อไป ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลและความสนใจของผู้ใช้งานจึงมีมูลค่าและอำนาจเหนือกว่าเงินสด แม้แต่การเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานที่สุด
จากเคสนี้โลกอนาคตแบบในหนังไซไฟอาจไม่ได้อยู่แค่ในจออีกต่อไป เพราะไม่แน่ทุกวันนี้เราอาจจะกำลังอยู่ในโลกที่ก้าวหน้าจนเราเองไม่ทันได้สังเกตก็ได้ !