ไม่เพียงแต่กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในไทยที่ตื่นตัวเท่านั้น แต่ในแวดวงของมอเตอร์ไซค์ก็ตื่นตัวกับพลังงานไฟฟ้าเช่นกัน เราเห็นหลายแบรนด์เริ่มเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ EV มากขึ้น รวมถึงผู้เล่นหน้าใหม่ ๆ ในตลาดรถของไทยมากขึ้น หนึ่งในนั้นข้ามทวีปมาจากสวีเดน ในชื่อสุดเรียบง่าย CAKE

CAKE แบรนด์มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคัสตอม โดยผู้นำเข้าที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างบริษัท เอสทีแอล กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัดหรือ Stallions Motor นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการเปิดตลาดใหม่ของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเกรดพรีเมียม ดีไซน์แสกนดิเนเวียแล้ว ยังชูเรื่องสังคมปลอดมลพิษแบบสุดหัวใจ แถมเรายังได้สัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งสั้น ๆ จนเพิ่งรู้ว่าเขาเป็นคนเดียวกับผู้ก่อตั้งแบรนด์ POC นี่เอง เขาคนนั้นคือ Stefan Ytterborn

Stefan Ytterborn CEO & Founder CAKE

เราถาม Stefan ว่าชื่อ CAKE มีที่มาจากอะไร เขาเล่าย้อนกลับไปถึงบริษัทแรกที่เขาเป็นคนก่อตั้งขึ้นมาอย่าง POC หลายคนอาจคุ้นเคยกับ POC ในฐานะแบรนด์อุปกรณ์ป้องกันสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง ไม่ว่าจะเป็น หมวกกันน็อก, หมวกจักรยาน, แว่นตาหรืออุปกรณ์ป้องกันอื่น ๆ ที่ผสานความปลอดภัยและงานดีไซน์อย่างลงตัว

คำว่า POC หรือ Piece of Cake เป็นคำแสลงของภาษาอังกฤษที่แปลว่า ‘ง่าย ๆ’ ‘แค่นี้เอง’ และยังแปลทีละคำให้เป็น ‘ชิ้นเค้ก’ ได้ด้วย ซึ่งเขาบังเอิญเห็นภาพของก้อนเค้กที่โดนตัดออกไปบางส่วน CAKE ในฐานะแบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้าจึงเปรียบเสมือนส่วนสำคัญที่จะมาเติมเต็มก้อนเค้กหรือการสร้างสังคมปลอดมลพิษ (Zero e-mission) ต่อไป

ธีรเจต ลาภจตุรพิธ CEO ของ STL Group

CAKE มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนที่ไต้หวัน, เม็กซิโก รวมถึงกำลังมุ่งเป้ามาที่โรงงานผลิตในประเทศไทย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการส่งอะไหล่ไปยังประเทศอื่น ๆ ในตลาดอาเซียน ซึ่งเป็นโรงงานเดียวกับ Stallion ที่ใช้ประกอบมอเตอร์ไซค์เทียบเท่าแบรนด์ Honda และ Yamaha ด้วยนั่นเอง

เราถามคุณ Stefan ว่าทำไมถึงเลือกประเทศไทย มองเห็นโอกาสอะไรในการร่วมงานครั้งนี้ เขาตอบว่า “ประเทศไทยในตอนนี้อยู่ในช่วงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ลองนึกภาพเมื่อ 20 ปีก่อนสิ คุณน่าจะนึกถึงการใช้พลังงานไฟฟ้าในประเทศนี้แทบไม่ออก แต่วันนี้ไทยมีความพร้อมในหลาย ๆ อย่าง ทั้งเรื่องความรู้ความเข้าของคนเกี่ยวกับเรื่องพลังงานไฟฟ้า ความพร้อมของ Ecosystem ไปจนถึงวัฒนธรรมไทยที่พร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ ซึ่งหากเราสามารถตั้งโรงงานที่ไทยได้จะทำให้ต้นทุนต่าง ๆ ถูกลงด้วย”

CAKE เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยด้วยคอนเซ็ปต์ Light Quiet & Clean มีให้เลือก 3 รุ่นด้วยกัน ประกอบด้วย Kalk สายออฟโรด เป็นมอเตอร์ไซค์รุ่นแรกที่ CAKE ออกแบบและพัฒนาสู่สายการผลิต ตามมาด้วย Osa มอเตอร์ไซค์สายทัวริงและน้องเล็ก Makka ให้อารมณ์สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งทั้ง 3 รุ่นรองรับการคัสตอมอุปกรณ์ต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ ซึ่งจะทยอยนำออกมาให้คนไทยได้ลองแต่งเล่นกัน

CAKE รุ่น Kalk

Kalk แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยด้วยกันคือ Kalk OR และ INK Race ซึ่งเป็นรถประเภทออฟโรดที่มาพร้อมเฟรมอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเพียง 69 – 78 กิโลกรัม (เบามากเมื่อเทียบกับมอเตอร์ไซค์ทั่วไปที่หนักกว่า 100 กิโลกรัม) คุณ Stefan เสริมว่าเมื่อตัวรถมีน้ำหนักเบาขึ้นจะสามารถขี่ได้นานขึ้นด้วย

Kalk มาพร้อมมอเตอร์กำลัง 11 kW แรงบิดสูงสุด 280 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุด 90 กม./ชม. ขี่ได้ระยะทางกว่า 100 กม. หรือขี่ออฟโรดได้นาน 3 ชั่วโมง ใช้เวลาชาร์จแบตจาก 0 – 80% เพียง 2 ชั่วโมง แถมยังรองรับการสลับแบตเตอรี่หรือจะถอดแบตออกมาชาร์จก็ได้ แม้หน้าตาจะดูออฟโรดจัด ๆ แต่การขี่ถือว่าง่ายและสนุกที่สุดเท่าที่เราได้ลองมา ไม่ว่าจะนั่งขี่หรือยืนขี่ก็คล่องตัวและพละกำลังเหลือ ๆ

Kalk INK Race มาพร้อมระบบโช้คอัป Cake Suspension ราคา 550,000 บาท

Kalk OR มาพร้อมโช้คอัป Ohlins ราคา 620,000 บาท

CAKE รุ่น Osa

อีกตัวเลือกของ CAKE คือรุ่น Osa ที่จะออกไปทางมอเตอร์ไซค์ทัวริง ขี่ทางไกล ด้วยเอกลักษณ์ของเฟรมอะลูมิเนียมทรงยาว รองรับการต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้มากกว่า 1,000 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเบาะเสริม, ตะกร้าวางของ ไปจนถึงเครนสำหรับกล้องถ่ายวิดีโอ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 9 kW แบตเตอรี่ขนาด 2.6 kWh ขี่ได้ไกล 111 กม. และยังรองรับการจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ ได้ด้วย

สำหรับรุ่น Osa เป็นรุ่นที่เราถูกใจตั้งแต่แรกเห็น ด้วยรูปลักษณ์คล้ายคลึงกับเฟรมจักรยาน และการขี่ก็ควบคุมง่ายเพราะน้ำหนักถ่ายลงที่กลางตัวรถ ตัวเบาะสามารถปรับระยะได้ตามความเหมาะสมของสรีระ เป็นอีกรุ่นที่ขี่สบายสไตล์ Scramble

CAKE Osa ราคา 450,000 บาท

CAKE รุ่น Makka

ปิดท้ายที่น้องเล็ก Makka สำหรับการเดินทางระยะใกล้ ๆ ด้วยตัวเลือกแบตเตอรี่ขนาด 1.5 – 3 kWh ขี่ได้ไกล 54 – 100 กม. มาพร้อมมอเตอร์กำลัง 2.8 kW ทำความเร็วสูงสุดประมาณ 50 – 60 กม./ชม. ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่ใช้ขี่ระยะสั้น ๆ ไปที่ทำงานด้วยความคล่องตัว

รุ่น Makka ก็ถือว่าใช้งานง่าย ใช้งานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สามารถปรับเกียร์ได้ 2 ระดับ และพอทำความเร็วได้ประมาณหนึ่ง เหมาะจะใช้ในหมู่บ้านหรือขี่ไประยะทางใกล้ ๆ หน้าตายังคล้ายกับพวกจักรยาน BMX ซะด้วยสิ

CAKE Makka ราคา 249,000 บาท

ขึ้นชื่อว่างานสวีเดนย่อมมีราคาสูงเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ได้มาจากราคาที่ต้องจ่ายคืองานดีไซน์ตามปรัชญาแสกนดิเนเวียที่ฝั่งรากอยู่ในชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของ CAKE ภายใต้ปรัชญา Light, Quiet and Clean อย่างเต็มเปี่ยม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอปพลิเคชัน CAKE Connect ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการแสดงข้อมูลการขับขี่, ปริมาณแบตเตอรี่ รวมถึงการสตาร์ทและล็อกรถด้วยเช่นกัน

ยังไม่หมดแค่นี้ CAKE ยังปักหมุดหมายที่ประเทศไทยด้วยการเปิด :site แห่งแรกในอาเซียน เพื่อต่อยอดการขยายกิจการในเอเชีย หลังจากการเปิดที่ประเทศไต้หวันและเกาหลีใต้และญี่ปุ่นไปก่อนหน้านี้ ซึ่งช้อปแรกตั้งอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามไปรษณีย์กลางบางรัก บริเวณข้างซอยเจริญกรุง 43

สำหรับใครที่สนใจทดลองขี่สามารถไปติดต่อที่ช้อปนี้หรือทางเว็บไซต์ www.ridecakethailand.com ได้เช่นกัน ส่วนใครที่สนใจและยังไม่สะดวกทางมาถึงที่สาขา รอติดตามความเคลื่อนไหวจาก CAKE ได้เลย เพราะเขามีแผนขยายสาขาและเปิดช้อปที่ต่างจังหวัดด้วย

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส