Our score
7.0

รีวิว Scomadi Turismo Electronica มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าอังกฤษรุ่นแรก หล่อเท่ระยะไม่เกิน 100 โล

จุดเด่น

  1. มอเตอร์ไซต์วินเทจ ขุมพลังไฟฟ้าแบรนด์แรกในไทย
  2. เข้าความเร็วสูงสุดได้รวดเร็ซ
  3. ตัวรถค่อนข้างสูง ทัศนวิสัยดูโล่งโปร่ง

จุดสังเกต

  1. คันเร่งแข็งไปนิด ต้องใช้แรงพอสมควรในการบิด
  2. ระบบเบรกในขณะบิดคันเร่งค้าง ต้องระวังรถกระชาก
  3. ระยะทำการจริงไม่ถึง 100 km ถือว่าค่อนข้างน้อย
  • มอไซฯวินเทจ EV เร็วแรง สปอร์ต แต่ยังขับได้ระยะน้อยไปนิด

    7.0

แม้ว่ากระแสของรถ EV จะมาแรงและเติบโตขึ้นต่อเนื่องทุกปี แต่ถ้าพูดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าหรือมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังถือว่าเพิ่งจะเริ่มต้น ด้วยข้อจำกัดของขนาดแบตเตอรี่ ที่ทำให้ระยะการขับขี่จำกัด (ส่วนมากไม่เกิน 100 กม.) รวมถึงผู้เล่นยังน้อย ในตลาดไทยมองไปก็เห็นอยู่ไม่กี่แบรนด์ แบรนด์ของคนไทยเองอย่าง i-Motor หรือแบรนด์นำเข้าหรู ๆ ที่ชูเรื่องการคัสตอมอย่าง CAKE แต่ถ้าพูดแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์วินเทจที่มาในรูปแบบของพลังงานไฟฟ้า ฟังดูไม่ค่อยเข้ากันใช่ไหมครับ แต่ไม่ใช่กับ Scomadi รถมอเตอร์ไซค์สไตล์สกู๊ตเตอร์ EV ที่หน้าตาทรงคลาสสิกเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนหัวใจเป็นขุมพลังไฟฟ้า ขี่ได้ไกลกว่า 100 กม.

Scomadi ผู้จัดจำหน่ายรถสกู๊ตเตอร์สัญชาติอังกฤษ หลังจากเปิดขายในไทยมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งล่าสุดได้มีการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ใหม่ พร้อมอัปเดตมอเตอร์ไซค์แต่ละรุ่นให้มีดีไซน์ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงการเปิดตัวมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นแรกของแบรนด์อย่าง Scomadi Turismo Electronica เข้ามาทดลองตลาดในไทยประมาณ 200 คัน โดยใช้ตัวรถจากโมเดล Turismo ชูดีไซน์ British Modern Classic

ดีไซน์

Scomadi Turismo Electronica เป็นรถสกู๊ตเตอร์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในประเทศไทยที่ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2.88 kWh วางอยู่ด้านในตัวถังที่ผู้ขี่นั่งทับด้านบน สามารถขับขี่ได้สูงสุด 100 กม. ตัวถังสไตล์ Turismo นี้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรถสกู๊ตเตอร์ทั่วไป จึงทำให้ตำแหน่งของแบตเตอรี่อยู่สูงตามไปด้วย ช่องชาร์จจะอยู่ด้านหน้าตัวถังตรงขาผู้ขี่เลย ตัวรถมาพร้อมสายชาร์จหัว 3 ขา ที่เสียบไฟบ้านได้เลย รองรับชาร์จเต็มประมาณ 3-4 ชั่วโมง

Scomadi Turismo Electronica มาพร้อมกับหน้าจอ TFT ขนาด 5 ตร.นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านแอปพลิเคชัน Carbit Ride (ใช้ได้ทั้ง iOS และ android) ซึ่งสามารถใช้งานแผนที่ รวมถึงใช้เป็นหน้าจอในการแคสจอสมาร์ตโฟนขึ้นไปได้ด้วย พูดง่าย ๆ ว่าเราสามารถดูยูทูบผ่านหน้าจอรถมอเตอร์ไซค์ได้นั่นเอง

โหมดการขับขี่

บริเวณแฮนด์ของ Scomadi Turismo Electronica ฝั่งซ้ายจะเป็นปุ่มที่ใช้เลื่อนและควบคุม รวมถึงตั้งค่าต่าง ๆ ของตัวรถ ส่วนฝั่งขวาจะเป็นปุ่มสตาร์ตรถ สวิตช์สีแดงใช้เปิดปิดแหล่งจ่ายไฟ (นอกจากนี้ถ้าขาตั้งลงตัวรถก็จะสตาร์ตไม่ได้เช่นกัน) และตำแหน่ง E N S คือโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ Economy, Normal และ Sport รวมถึงตัว R ที่ใช้ในการถอยหลัง (ต้องกดค้างระหว่างบิดคันเร่ง และต้องให้รถหยุดสนิทก่อนถึงจะใช้โหมดขับถอยหลังได้)

โหมดของ Turismo Electronica แต่ละโหมดก็จะใช้ความเร็วได้ไม่เท่ากัน เช่น โหมด Eco สามารถขี่ด้วยความเร็วสูงสุดประมาณ 50 km/h ส่วนโหมด Normal จะใช้ได้ถึงประมาณ 70 km/h และโหมด Sport จะใช้ความเร็วสูงสุดประมาณ 90 km/h ซึ่งเราว่าโหมด Normal เหมาะกับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าขับขี่ทางไกล โล่ง ๆ แนะนำให้ใช้โหมด Sport จะสนุกกว่า ส่วน Eco นั้นเอาไว้ใช้ตอนไฟใกล้หมดก็พอ เพราะค่อนอืดเหมือนบิดไม่ขึ้น

ฟิลลิ่งการขี่

ต้องบอกว่าใครที่คุ้นชินกับรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้วน่าจะไม่ต้องกังวลอะไร ส่วนใครที่ยังไม่เคยขับรถ EV เลยอาจจะต้องใช้ความคุ้นชินกับคันเร่งของ Scomadi Turismo Electronica สักหน่อย เพราะรถไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ ที่ไม่จำเป็นต้องรอรอบเหมือนเครื่องยนต์ แค่บิดก็พุ่งไปข้างหน้าแล้ว ทำให้โหมด Eco เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้น และพอเริ่มคุ้นชินกับความเร็วแล้วสามารถขยับเป็นโหมด Normal และ Sport ได้เลย

ในโหมด Sport อาจต้องใช้ความระมัดระวังนิดหน่อย เพราะตัวรถทำให้คุณเข้าถึงความเร็วได้ง่ายมาก แม้ Scomadi Turismo Electronica จะทำความเร็วได้สูงสุด 90 km/h แต่ใช้เวลาบิดไปนานก็พุ่งสู่ความเร็วนี้ได้แล้ว ทั้งนี้ตัวรถมาพร้อมระบบเบรกที่ช่วยตัดกำลังมอเตอร์ในขณะที่ข้อมือกำลังบิดคันเร่ง หากคุณเอื้อมนิ้วไปเกี่ยวเบรก ตัวรถจะยับยั้งความเร็วทันที (ไม่ต้องตกใจนี่คือระบบเซฟตี้ที่ Scomadi ตั้งใจใส่ไว้ให้) และหากปล่อยมือจากเบรกแล้ว (ในขณะที่ยังบิดคันเร่งอยู่) ตัวรถจะกลับเข้าสู่ความเร็วเดิมทันที ทำให้ตัวรถมีอาการพุ่งค่อนข้างมาก แต่หากใครคุ้นชินกับจังหวะนี้แล้ว จะช่วยให้การเร่งแซงทำได้สมูตยิ่งขึ้น

เราทดสอบการกินไฟของตัวรถโดยอาศัยแบตบนหน้าจอแสดงผล ที่ระบุเป็นช่อง 5 ช่อง (สีน้ำเงิน 4 ช่องและสีแดง 1 ช่อง) ตีได้คร่าว ๆ ว่าช่องละประมาณ 20 km แต่วันที่ทดลองขี่มีการสลับโหมดไปมา และใช้ความเร็วสูงสุดติดต่อกันหลายช่วงในเส้นทางเป็นระยะประมาณ 20 กิโล พบว่าตัวรถกินไฟหายไปเกือบ 2 ช่อง ทำให้จริงๆ ตัวรถอาจจะขับขี่ได้จริงระยะ ประมาณ 70-80 กม. เท่านั้น (ระยะ 100 km ที่เคลมไว้อาจจะขี่เฉพาะโหมด Eco)

โดยรวมเราว่า Turismo Electronica เป็นรถที่ขับขี่ค่อนข้างสบาย ตัวรถค่อนข้างสูงนิดนึง แต่มีทัศนวิสัยกว้างขวาง อาจจะมีจุดที่เราไม่ชอบอย่างคันเร่งค่อนข้างแข็งและไม่สมูตเท่าไหร่ ต้องใช้กำลังในการบิดค่อนข้างมาก แต่เรื่องการเข้าถึงความเร็วก็ทำได้สมกับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจริงๆ นอกจากนี้เขายังเสริมความพิเศษด้วยการรันตัวรถ Limited Edition จำนวน 200 คัน ใครซื้อก่อนก็เลือกเลขที่ชอบได้เลย

Scomadi Turismo Electronica ราคาขายใหม่อยู่ที่ 129,740 บาท (ราคาเดิม 149,000 บาท) มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Emerald Green, Coal Peral และ Panther Black พร้อมส่งไม่เกินสัปดาห์ มาพร้อมการรับประกันมอเตอร์และแบตเตอรี่ 2 ปี หรือ 20,000 km ใครที่สนใจอยากลองขี่ Turismo Electronica ตอนนี้เขามีแคมเปญ Scomadi EV Your Ride, Your Way ทดลองขี่ที่ Scomadi ทั้ง 4 สาขาในไทย มีแจกของที่ระลึกพวกผ้าพันคอและปลอกแขนให้ด้วยนะ จนถึง 30 ก.ย.นี้เท่านั้น